รู้ตัวแก๊งหลอกจำนำทองปลอม 4-5 คนแล้ว พบร้านทองถูกหลอกอีกหลายร้าน
การติดตามแก๊งมิจฉาชีพหลอกเอาทองปลอมน้ำหนักกว่า 376 บาท มาจำนำมูลค่าความเสียหาย 9,000,000 บาท ในพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี น.ส.อนัดดา เทียนใหม่ เจ้าของห้างทองนิตเทียน เปิดเผยว่า ตำรวจจับผู้ร่วมขบวนการได้แล้ว 1 คน ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนการขยายผลจับกุมเบื้องต้น ทราบว่าผู้ร่วมก่อเหตุได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ทำให้ขณะนี้รู้ตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว 4-5 คน
จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้ประกอบการร้านทองอีก 4 ราย ในเขตพื้นที่เมืองพัทยา ถูกขบวนการมิจฉาชีพแก๊งนี้หลอกจำนำทองปลอม และในพื้นที่จังหวัดสกลนคร อีก 1 ราย ถูกแก๊งจำนำทองคำปลอมนำไปจำนำ มีการแจ้งเตือนให้กลุ่มผู้ประกอบการร้านทอง เช็คทองให้ละเอียดกว่าทุกครั้ง เพราะลักษณะทองปลอมที่มิจฉาชีพแก๊งนี้ผลิตมาคล้ายกับทองจริงมาก ซึ่งไม่สามารถดูได้ด้วยตาเปล่าหากไม่เฉือนเนื้อทองดู
นายสามารถ แจ่มเจริญ ผู้ประกอบการร้านทองแม่มาลี ในพื้นที่ หมู่ 6 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ลักษณะการก่อเหตุเหมือนกัน คือส่งคนสลับกันมาเรื่อยๆ พร้อมนำทองรูปพรรณที่ดูเหมือนจริงมาจำนำ เจ้าของร้านสอบถามถึงบัตรประชาชน แต่คนร้ายอ้างว่าลืมนำมาทุกครั้ง ซึ่งในส่วนของตนรับจำนำทองปลอมมาน้ำหนักรวม 54 บาท เสียเงินไปประมาณ 1,100,000 บาท ระยะเวลารวมกันประมาณ 10 วัน มารู้อีกทีว่าเป็นทองปลอมในวันที่ตัดของเพื่อนำไปส่งที่ร้านส่งย่านเยาวราช จึงทำให้รู้ว่าเป็นทองปลอม หลังจากทราบว่าถูกหลอกก็ได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้ว อยากให้สาวไปถึงบุคคลที่เป็นช่างทองของขบวนการนี้ เพราะคิดว่าเป็นช่างทองที่อยู่ในวงการและเป็นมืออาชีพอย่างแน่นอนเพราะปลอมได้เหมือนมาก
ผบช.น.เตรียมตั้ง คณะกก.สืบสวนลงโทษทางวินัย 4 เสือ สน.ทุ่งมหาเมฆ และ ผบก.น 5
คดีบ่อนพนันย่านพระราม 3 พล.ต.ท. ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เตรียมตั้งคณะกรรมการสืบสวนลงโทษทางวินัย 4 เสือ สน.ทุ่งมหาเมฆ และ ผบก.น 5 โดย มี พล.ต.ต.ธิติ แสงสว่าง รองผบช.น. เป็นหัวหน้า หลังการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นพบว่า สถานที่ดังกล่าวเป็นบ่อนการพนันจริง คณะกรรมการมีเวลาทำงานตามกรอบเวลา 30 วัน ทั้งนี้ โทษทางวินัยมี 7 ระดับ ตั้งแต่ ภาคทัณฑ์ ทัณฑกรรม กักยาม กักขัง ตัดเงินเดือน ปลดออก และ ไล่ออก ซึ่งโทษขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่ปรากฎ
ความคืบหน้าการสอบสวนคดีแบ่งเป็น 3 สำนวน ได้แก่
-สำนวนคดีบ่อนการพนัน ขณะนี้การสืบสวนมีข้อมูลผู้ต้องสงสัยอาจเป็นเจ้าของบ่อนตัวจริง อยู่ระหว่างการสืบสวน และติดตามตัวมาดำเนินคดี ส่วนจะใช่ เฮียตี้ หรือไม่ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
-สำนวนคดียิงกันเสียชีวิต ยังรอผลตรวจสอบอาวุธปืน กระสุนปืน และที่เกิดเหตุมาประกอบสำนวน เพราะจากพยานหลักฐานน่าเชื่อว่ามีผู้ก่อเหตุมากกว่า 1 คน
-สำนวนคดีเคลื่อนย้ายพยานหลักฐาน แจ้งดำเนินคดีไปแล้ว 1คน ส่วนอีก 5 คน จะทยอยแจ้งข้อหาภายในสัปดาห์นี้ และตามตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีเพิ่มเติม
ผบ.ตร. เตรียมตั้งคณะทำงานชุดใหม่สอบตร.ที่ทำคดี 'บอส' บกพร่อง
คดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองประธานสอบสวนข้อเท็จจริง ระบุว่า หลังจากกรรมการตรวจสอบเสร็จแล้ว ได้ส่งข้อมูลให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) แล้วเช่นกัน ซึ่งก่อนที่ ผบ.ตร. จะลงนามตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ขึ้นมาสอบสวนตำรวจที่บกพร่องในการทำคดี กองวินัยจะตรวจทานรายชื่อ ตำแหน่ง และข้อหาผู้ที่ตรวจพบความบกพร่อง และคณะกรรมการชุดที่ผบ.ตร.จะแต่งตั้งขึ้น จะทำหน้าที่ขยายผลเพิ่มเติมโดยเป็นการเปลี่ยนถ่ายการตรวจสอบจากชุดของตนไปยังกรรมการชุดที่ ผบ.ตร. จะตั้งขึ้นใหม่
ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า ผบ.ตร. ได้อนุมัติให้คณะกรรมการชุดที่มี พล.ต.อ.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. เป็นประธาน ขยายเวลาสอบสวนอีก 7 วัน เนื่องจากยังมีประเด็นและข้อมูลบางส่วนยังไม่ครบถ้วน โดยจะครบกำหนดวันนี้ และวันพรุ่งนี้ จะนำข้อมูลส่วนที่เหลือเสนอต่อ ผบ.ตร.
'พล.ต.ท.เพิ่มพูน' และ 'พ.ต.อ.ธนสิทธิ์'ชี้แจงการทำคดีไม่ฟ้อง'บอส'
เมื่อวานนี้คณะทำงานชุดตรวจสอบตำรวจ พล.อ.กฤษณะ บวรรัตนารักษ์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ในคณะกรรมการชุดของนาย
-นายวิชา เปิดเผยว่า ข้อมูลที่น่าสนใจ คือ พ.ต.ท.วิรดล ลงวันที่สอบ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น ตำรวจพิสูจน์หลักฐานประเด็นความเร็วรถของนายวรยุทธ ไม่ตรงกับความเป็นจริง เพราะสอบวันที่ 26 ก.พ. 2559 แค่ 1 ครั้ง แต่กลับไปลงวันที่ 2 มี.ค.2559 ซึ่ง พ.ต.ท.วิรดล ชี้แจงว่าที่ลงวันที่ไว้เพราะว่าอัยการเร่งรัด จึงอยากลงวันที่ไว้ล่วงหน้า และคิดว่าจะเรียก พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ มาให้ถ้อยคำอีกครั้งหนึ่งเพื่อความสมเหตุสมผล
-การติดตามคดีในวันนี้ 09.00 น. คณะทำงานชุดตรวจสอบตำรวจ เชิญ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ เข้าชี้แจง ส่วนช่วงบ่าย 13.00 น. คณะกรรมการชุดนายวิชา เชิญ พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผบ.ตร.เข้าชี้แจง
คุม 6 วัยรุ่น ยิงเด็กม.4 กลางถนนบางกรวย-ไทรน้อย ฝากขัง และส่งสถานพินิจฯ
เหตุทะเลาะวิวาทระหว่างกลุ่มวัยรุ่นสองกลุ่ม ภาพจากกล้องวงจรปิด จับภาพ รถยนต์เซฟโรเล็ต สีขาว วิ่งมาตามถนนอย่างเร็วไล่ตามรถจักรยานยนต์ของกลุ่มวัยรุ่น ก่อนจะหยุดจอด โดยกลุ่มวัยรุ่น 6 คน อายุ 17-18 ปี ที่อยู่ในรถยนต์ลงมาพร้อมอาวุธ วิ่งไล่กลุ่มที่ขี่รถจักรยานยนต์ ก่อนจะย้อนกลับมา รุมพังรถจักรยานยนต์ของอีกฝ่ายแล้วขึ้นรถยนต์หนีไป บริเวณถนนบางกรวย-ไทรน้อย ตำบลบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ทำให้นายจ็อบ อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ถูกยิงเข้าที่ลำคอซ้าย 1 นัด เสียชีวิตทันที
พ.ต.อ. สิรภพ อนุสิริ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางบัวทอง เปิดเผยว่า จับผู้ก่อเหตุครบแล้ว 6 คน เป็นเยาวชน อายุ 17 ปี 5 คน และอายุ 18 ปี 1 คน พร้อมรถยนต์คันที่นำไปก่อเหตุ คนขับทราบชื่อ นายเจมส์ อายุ 17 ปี ตำรวจ สอบสวนผู้ก่อเหตุทั้ง 6 คน อย่างละเอียดสุดท้ายสารภาพว่า เคยมีเรื่องบาดหมางกับกลุ่มผู้เสียชีวิต และพอมาเจอกันที่หน้างานคอนเสิร์ต จึงมีการพูดท้าทายกันและใช้อาวุธที่ซุกซ่อนไว้ในรถ ทั้งมีด ไม้เบสบอล ระเบิดประทัด และปืนไทยประดิษฐ์ ไล่ทำร้ายอีกฝ่าย แต่เพราะอีกฝ่ายคนเยอะกว่า จึงต้องใช้ปืนยิงสกัด 5 นัด ไม่คิดว่าจะโดนใครจนเสียชีวิต ตำรวจตั้งข้อหาหนักร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในการครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันมีวัตถุระเบิด และพกพาอาวุธไปในทางสาธารณะ ซึ่งหากรวบรวมหลักฐานแล้วเสร็จจะนำตัวผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชน ส่งสถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชน ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คน (อายุเกินเยาวชน) จะฝากขังในวันนี้