ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม 2563

17 สิงหาคม 2563, 19:11น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันจันทร์ที่ 17  สิงหาคม 2563   



ยอดขายงาน'OTOP ศิลปาชีพฯ' ทะลุเป้า 484 ล้าน



          หลังการจัดงาน “ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี 2563” ระหว่างวันที่ 8 – 16 ส.ค. ณ ชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตลอด 9 วัน ได้รับความสนใจจากประชาชนเดินทางมาเที่ยวชมงานอย่างคึกคัก มีผู้เข้าชมงาน 161,099 คน รวมยอดขาย 484,925,033.50 บาท ทะลุเป้าที่ตั้งไว้ 300 ล้านบาท นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) เปิดเผยว่า กลุ่มผ้าและเครื่องแต่งกายจำหน่ายได้สูงสุดกว่า 141,656,209 บาท ขณะที่ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิศิลปาชีพฯ 20,886,488.50 บาท ผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิสายใจไทย 305,966 บาท ผลิตภัณฑ์บริษัทประชารัฐรักษามัคคีฯ 3,199,987 บาท ผลิตภัณฑ์จากสมาคมสภาคนพิการฯ 1,766,613 บาท และผลิตภัณฑ์ชุมชนท่องเที่ยวโอทอป นวัตวิถี 56,448,440 บาท



          อธิบดีกรมการพัฒนาชุมนุม ขอบคุณกำลังใจจากประชาชน แฟนพันธุ์แท้โอทอป ที่ช่วยกันอุดหนุนสินค้าชุมชน กินอาหารไทย ใช้ของไทย สวมใส่ผ้าไทย และเที่ยวเมืองไทย นอกจากจะเป็นกำลังใจสำคัญที่มอบให้แก่คนไทยด้วยกัน แสดงพลังว่าเราจะจับมือฝ่าฟันทุกวิกฤตไปพร้อมกันแล้ว ยังจะช่วยทำให้พี่น้องประชาชนจากชุมชนต่างๆ นับแสนครัวเรือนให้มีรายได้เลี้ยงดูครอบครัวทำให้เงินทุกบาทหมุนเวียนไปสู่ชุมชน พัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น สร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคง



หวั่นตัวเลขคนว่างงานในระบบประกันสังคม 1.7 ล้านคน จะตกงานจริง



          ผลกระทบการเลิกจ้างงาน หลังเกิดโรคโควิด-19 ระบาด นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ เปิดเผยว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้รายงานว่า จำนวนผู้มีงานทำลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปี 62 ลดลงประมาณ 700,000 คน เหลือประมาณ ร้อยละ 37.1  หรือลดลงร้อยละ 1.95 เทียบกับไตรมาส 1 ของปี 63 

          จำนวนแรงงานลดทั้งในภาคเกษตร และนอกภาคเกษตร ที่ประกอบไปด้วยภาคการผลิต อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และโรงแรม จำนวนผู้ว่างงาน 750,000 คน เป็นอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นร้อยละ1.95 จากตัวเลขคนว่างงาน 2,189,000 คน มีคนตกงานแล้ว 420,000 คน ส่วนที่เหลือ 1,769,000 คนนั้นมีความเสี่ยงที่จะตกงาน ซึ่งสภาพัฒน์จะจับตาประเด็นดังกล่าวต่อไป



รมว.แรงงาน เร่งจัดหางานให้คนตกงาน



          การแก้ไขปัญหาการว่างงานในยุคโควิด-19 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน  เปิดเผยว่า งานแรกที่จะต้องเร่งดูแลคือปัญหาเรื่องของการตกงานที่จะต้องเร่งจัดหางานให้คนเหล่านี้มีงานทำ พร้อมขอบคุณโรงแรมมิราเคิล ที่ได้เปิดรับสมัครงาน 300 ตำแหน่ง นอกจากนี้ ในวันศุกร์นี้ผู้บริหารโลตัส จะเข้ามาพบซึ่งก็จะมีการพูดคุย ขอให้รับคนเข้าทำงานพาร์ทไทม์สักหมื่นกว่าอัตรา ยืนยันว่ารัฐบาลจะพยายามดูแลอย่างเต็มที่ทั้งแรงงานและผู้ประกอบการ



รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ ยืนยันภายในเดือนนี้จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มรับโควิด-19



          หลังเป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงการคลัง นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเปิดเผยว่า ภายในเดือนนี้ รัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจะเป็นมาตรการที่ดูแลประชาชนและผู้ประกอบการที่มีความเดือดร้อน ซึ่งศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจและผลกระทบโควิด-19(ศปศ.)จะเป็นผู้พิจารณาก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป



          สำหรับหนึ่งในมาตรการที่จะช่วยผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอีนั้น จะมีการปรับแก้เกณฑ์การปล่อยสินเชื่อซอฟท์โลนของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ให้สามารถปฏิบัติได้อย่างเหมาะสม ส่วนจะต้องแก้ไขกฎหมายหรือไม่ จะต้องรอให้มีการพิจารณาโดยศปศ.ก่อน ทั้งนี้ ทุกมาตรการที่ภาคเอกชนเสนอ เราพร้อมที่จะนำมาพิจารณา



          ด้านนายปรีดี ดาวฉาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า บทบาทของกระทรวงการคลังนับจากนี้ คือ การซัพพอร์ตด้านการเงินกรณีที่รัฐบาลจะต้องออกมาตรการ แต่จะต้องอยู่ในกรอบของวินัยการเงินการคลัง ต้องยอมรับว่า สถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนี้ อยู่ในช่วงที่ยากลำบาก เพราะการลงทุน การบริโภคหายไปและการส่งออกหดตัว แต่ถือเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก



           โดยเศรษฐกิจไทยอาจจะได้รับผลกระทบมากกว่าประเทศอื่น เพราะโครงสร้างเศรษฐกิจไม่เหมือนกัน ไทยพึ่งพาการส่งออกและการท่องเที่ยว เมื่อเกิดเหตุการณ์ทำให้การเดินทางมาไม่ได้ ไทยก็กระทบมากสุด ถือเป็นเหตุเป็นผล ถามว่า แก้ได้ไหม ต้องใช้เวลา ถ้าเรารู้ชัดเจนว่า โควิด-19 จะสิ้นสุดเมื่อไหร่ แต่จะประเมินได้ว่าจะใช้เงินเท่าไหร่ ในวันนี้ ยังไม่แน่นอน



          รมว.คลังยอมรับว่า การดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล จะมีข้อจำกัดเรื่องของเม็ดเงิน แต่เรื่องของถังแตกนั้น อย่าไปคิด เพราะเราสามารถบริหารจัดการได้ ส่วนรายได้ต่ำเป็นบางช่วงเวลาของการจัดเก็บ เช่น ขณะนี้เรายังไม่ได้จัดเก็บภาษีเงินได้ต่างๆ แต่ระยะต่อไปเมื่อถึงเวลาจัดเก็บ ก็มีผลต่อรายได้รัฐบาล พร้อมย้ำว่า กระทรวงการคลังจะรักษาเสถียรภาพการคลังและการเงินให้เป็นระบบหลัก ขอให้มั่นใจว่า กระทรวงการคลังจะทำงานอย่างระมัดระวัง เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจ ผ่านการออกมาตรการดูแลภาคประชาชนและภาคธุรกิจจนกว่าจะมีรายได้



วัคซีนต้านโควิด-19 ของไทยใกล้วิจัยในคนแล้ว เสนอครม.อนุมัติงบ 600 ล้านบาทพรุ่งนี้



          นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (18 ส.ค.นี้) จะนำ MOU ตัวแรกที่ทำไว้กับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมัติงบประมาณในการเข้าร่วมต่อไป ซึ่งจะทำไทยสามารถนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาผลิตวัคซีนในไทยได้ โดยงบประมาณที่จะเสนอไปขอการอนุมัติจาก ครม. ก็ถือเป็นการเตรียมความพร้อม ทั้ง ด้านวิชาการ การผลิต และการนำมาใช้ให้กับประชาชนเป็นหลัก เบื้องต้นที่จะเสนอขออยู่ที่ประมาณ 600 ล้านบาท



          ส่วนความคืบหน้าการผลิตวัคซีนของไทยนั้นสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)มีการอนุญาตวิจัยในคนหรือยัง นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้ได้เพิ่มขั้นตอนแต่ละเฟสซึ่งใกล้มาถึงการทดลองในคนแล้ว การอนุมัติของอย.เป็นไปตามหลักวิชาการ และผู้ที่ทดลองวัคซีนในไทย คือ คณะแพทยศาสตร์ต่างๆ ทั้ง จุฬาลงกรณ์ ศิริราช  สิ่งสำคัญที่ อย.จะนำมาพิจารณาคือ เรื่องความปลอดภัยของผู้ที่ได้ทดลองวัคซีน เพราะจะเกิดความเสี่ยงในมนุษย์ไม่ได้ จึงต้องมั่นใจก่อนถึงจะมาใช้ในคนได้ ต้องอนุมัติให้รวดเร็ว แต่ต้องปลอดภัยด้วย



ศบค.ฝึกซ้อมเผชิญเหตุ โควิด-19 ระบาดระลอก 2           



         การเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19ระลอก2 พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ตั้งแต่วันนี้(17สิงหาคม - 18 สิงหาคม)มีการทดสอบแผนเผชิญกรณีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 2 ในจังหวัดต่างๆ ทั้งแนวทางจัดสรรและบริหารจัดการทรัพยากรทางการแพทย์ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัด ภายใต้การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินโดยศูนย์บริหารราชการสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ  ศบค. โดยมีพล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดการ



          มีการจำลองสถานการณ์ มุ่งเน้นไปที่ความเสี่ยงของกลุ่มจังหวัดที่มีแรงงานต่างด้าว จังหวัดที่เป็นช่องทางเข้าออกประเทศ จังหวัดที่มีนักท่องเที่ยว โดยมี 4 จังหวัด เข้าร่วมการฝึก คือ กทม. , พระนครศรีอยุธยา , สมุทรสาคร และชลบุรี และมี 7 จังหวัด เข้าร่วมฝึกในพื้นที่ ประกอบด้วย เชียงใหม่ , ตาก, สระแก้ว , ระนอง , สุราษฎร์ธานี , ภูเก็ต และกระบี่ ในขณะที่อีก 66 จังหวัด ร่วมรับทราบผ่านระบบประชุมทางไกล โดยใช้กลไกบริหารงานระดับพื้นที่ผ่านศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินของแต่ละจังหวัด พร้อมทั้งจำลองสถานการณ์และประสานการทำงานร่วมกันในการใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เมื่อมีแผนยกเลิก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548



          ขณะนี้สถานการณ์โดยรวมปัจจุบันยังไม่อาจประมาทได้ จากความเสี่ยงสูงของการแพร่ระบาดจากภายนอกและมาตรการผ่อนคลายภายในประเทศ จึงจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหา ก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอก 2 ที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยการฝึกร่วมกันจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนา และปรับความสมบูรณ์ของแผนเผชิญเหตุของทุกจังหวัด ซึ่งหากเกิดการแพร่ระบาดขึ้นแล้ว จำเป็นต้องช่วยกันระงับและควบคุมระดับพื้นที่ให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ร่วมกันในภาพรวม



 ราคาทองคำกลับมาปิดบวกได้ 150 บาท



          สมาคมค้าทองคำ รายงาน  ราคาทองคำเปิดตลาดในวันนี้ ปรับตัวลดลง 50 บาท หลังจากนั้นปรับตัวขึ้น-ลงรวม 5 ครั้ง จนปิดตลาดกลับมาปิดตลาดปรับตัวเพิ่ม 150 บาท  ทำให้ราคาทองคำในวันนี้อยู่ที่



-ราคาทองคํารูปพรรณ ขายออกบาทละ 29,250 รับซื้อบาทละ 28,136.96



-ราคาทองคำแท่ง ขายออกบาทละ 28,750 รับซื้อบาทละ 28,650



หุ้นไทยวันนี้ ปิดตลาดบ่าย ปรับลด 6.14 ดัชนีอยู่ที่ 1,320 จุด



          ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดปรับตัวลดลง 6.14 จุด  1,320.91  มูลค่าการซื้อขาย 47,812.94 ล้านบาท



          ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่น หลังGDPของญี่ปุ่น หดตัวอย่างรุนแรงในไตรมาส 2 ซึ่งบ่งชี้ว่าการอุปโภคบริโภคในภาคเอกชนอ่อนแอลงเนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ดัชนีนิกเกอิปิดที่ 23,096.75 จุด ลดลง 192.61 จุด



          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนขานรับธนาคารกลางจีน (PBOC) อัดฉีดเงินสดเข้าสู่ระบบการเงินผ่านการดำเนินการทางตลาด (Open Market  Operations: OMO) ในวันนี้ เพื่อรักษาสภาพคล่องในตลาด ดัชนีฮั่งเส็งปิดวันนี้ที่ 25,347.34 จุด เพิ่มขึ้น 164.33 จุด



ชี้ระเบิดกรุงเบรุต เลบานอน ประมาทเลินเล่อ



          สถานีโทรทัศน์แอลบีซีไอ ทีวี ของเลบานอน รายงานเมื่อวานนี้ว่า ผลการสืบสวนเบื้องต้นเหตุระเบิดใหญ่ในกรุงเบรุตชี้ให้เห็นถึงความประมาทเลินเล่อขั้นร้ายแรง โดยไม่พบสัญญาณบ่งบอกการโจมตีด้วยขีปนาวุธหรือเครื่องบินรบ ผลการสืบสวนข้างต้นไม่ได้ระบุว่าเหตุระเบิดเกิดขึ้นโดยเจตนาหรือไม่ แต่พบพฤติกรรมหละหลวมอย่างร้ายแรงในโกดังที่ท่าเรือกรุงเบรุต ซึ่งกักเก็บสารแอมโมเนียมไนเตรตกว่า 2,700 ตัน ร่วมกับดอกไม้ไฟ น้ำมันก๊าด เมธิลีน และไนโตรเจนรวม 24 ตัน เพราะสารแอมโมเนียมไนเตรตอย่างเดียวไม่สามารถทำให้เกิดเหตุระเบิดใหญ่ได้ แต่การเก็บสารแอมโมเนียมไนเตรตรวมกับสารเคมีชนิดอื่น ๆ อาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่นี้



          นอกจากนี้ ผลการสืบสวนยังพบว่ามีแรงงาน 3 คนเชื่อมโลหะอยู่ที่โกดัง และออกจากพื้นที่หลัง 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือราวหนึ่งชั่วโมงก่อนเกิดเหตุระเบิด ช่วงต้นเดือนส.ค.



          กัสซัน อัล-ฮูรี อัยการสูงสุดของเลบานอน ออกคำสั่งจับกุมเจ้าหน้าที่อาวุโสของท่าเรือเบรุต 3 คน คือ  บาดรี แดแฮร์ ผู้อำนวยการฝ่ายศุลกากร, ชาฟิก เมอร์ฮี อดีตผู้อำนวยการฝ่ายศุลกากร และฮัสซัน โคเรย์เทม ผู้อำนวยการท่าเรือเบรุต ในข้อหา ไม่สามารถจัดการกับสารแอมโมเนียมไนเตรตและสารเคมีอื่น ๆ อย่างเหมาะสม



          เหตุระเบิดใหญ่สองครั้งซ้อนที่ท่าเรือเบรุตเมื่อวันที่ 4 ส.ค. สร้างแรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ทั่วกรุงเบรุต ทำให้มีผู้เสียชีวิต 177 ราย และผู้บาดเจ็บ 6,000 คน โดยผู้ว่าการกรุงเบรุตประเมินว่า มีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 3.11 แสนล้านบาท)

ข่าวทั้งหมด

X