การไต่สวนวันแรก เรื่องขอฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการการบินไทย และตัวแทนบริษัท อีวายคอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด เป็นพยาน ขออนุมัติแผนฟื้นฟูกิจการฯ และผู้จัดทำแผน ซึ่งมีผู้คัดค้าน คือ เจ้าหนี้ 16 ราย
นายชาญศิลป์ เปิดเผยภายหลังการไต่สวนว่า ยังมั่นใจว่าศาลจะพิจารณาให้การบินไทยได้รับการฟื้นฟูกิจการฯ และแต่งตั้งคณะผู้ทำแผนตามที่การบินไทยเสนอ เนื่องจากมีเจ้าหนี้มากกว่า 100 ราย ซึ่งมีมูลหนี้มากกว่าแสนล้านทำหนังสือให้การสนับสนุนการบินไทย และบริษัท อีวายคอร์ปอเรทฯ เป็นผู้ร่วมจัดทำแผน
ส่วนบริษัท อีวายคอร์ปอเรทฯ ถูกซักค้านเรื่องของคุณสมบัติและการว่าจ้าง นายชาญศิลป์ ยืนยันว่า การจัดจ้างบริษัทฯ เป็นไปตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างของการบินไทย และมีการขึ้นทะเบียนเป็นบริษัทดำเนินการฟื้นฟูกิจการฯ ตามข้อกำหนดของศาลล้มละลายกลางอย่างถูกต้อง และพร้อมยืนยันว่าอีวายคอร์ปอเรทฯ เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกที่มีเครือข่ายและมีพาร์ทเนอร์ประกอบธุรกิจในไทย
ขั้นตอนหลังจากนี้ เนื่องจากการบินไทยมีเจ้าหนี้ทั้งรายใหญ่และรายย่อยจำนวนมากศาลได้นัดหมายให้มีการไต่สวนเพิ่มเติมวันที่ 20 และ 25 สิงหาคมนี้ หลังจากนั้นหากศาลมีคำสั่งตัดสินใจการบินไทยเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการและแต่งตั้งผู้ทำแผน และมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาจะมีเวลา 1 เดือนให้เจ้าหนี้แจ้งมูลหนี้ผ่านระบบออนไลน์ของกรมบังคับคดี และจากนั้น 14 วันจะให้เจ้าหนี้แต่ละกลุ่มร่วมประเมินแผนฟื้นฟูกิจการฯ ระยะแรกด้วยให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้บริหารการบินไทยไม่ว่าในอนาคตคำวินิจฉัยของศาลจะออกมาเป็นอย่างไร การบินไทยก็น้อมรับคำตัดสินของศาล
เบื้องต้นศาลยังไม่ได้มีการพิจารณาให้การบินไทยควรได้รับการฟื้นฟูกิจการหรือไม่ และควรแต่งตั้งคณะผู้ทำแผนตามที่การบินไทยเสนอหรือไม่ โดยได้มีการนัดไต่สวนพยานฝ่ายผู้ร้องเพิ่มวันที่ 20 สิงหาคม 2563 เวลา 09.00 น. และนัดไต่สวนพยานผู้คัดค้านในวันที่ 25 สิงหาคม 2563 หากพยานผู้คัดค้านสามารถมาให้การไต่สวนวันที่ 20 สิงหาคม 2563 ได้ครบถ้วน ก็จะยกเลิกวันที่ 25 สิงหาคม 2563 ส่วนวันพิพากษาจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งภายหลังที่มีการไต่สวนเสร็จสิ้นตามกระบวนการ