ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น.วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม 2563

‘หมอธีระ’ เตือนหาก โควิด-19 ’ ยืดเยื้อ ระวัง ยา-อุปกรณ์ทางการแพทย์ ขาดแคลน

          รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ผ่านทางเฟซบุ๊ก ระวังเรื่องการขาดแคลนยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์  เหมือนที่เคยบอกไว้เมื่อเดือนก่อนว่าโรคระบาดที่รุนแรงและยาวนานอย่างโควิด-19 นี้ ส่งผลกระทบมากกว่าที่หลายคนประเมินไว้ ไม่ใช่แค่เรื่องการติดเชื้อโควิด-19 เท่านั้น แต่จะกระทบต่อผู้ป่วยโรคอื่นๆ อีกด้วย การที่ประเทศอื่นๆ ที่เป็นเจ้าแห่งอุตสาหกรรมยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์โดนโควิด-19 กระหน่ำอย่างรุนแรงและต่อเนื่องนั้นจะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ ได้ 

          ล่าสุดองค์การอนามัยโลก รวมถึงหน่วยงาน INCB และ UNODC ส่งสัญญาณเตือนเรื่องนี้แล้วว่าให้วางแผนเรื่องยาอื่นๆ ที่จำเป็นไว้ด้วย โดยเริ่มคำนึงถึงยาแก้ปวด ยาที่ใช้ในการดมยาก่อนผ่าตัด ยากล่อมประสาท  รศ.นพ.ธีระ ระบุว่า ในส่วนตัวแล้ว คิดว่า หากยังระบาดรุนแรงไปอีก 6 เดือนโดยควบคุมไม่ได้ เราอาจเจอปัญหาขาดแคลนยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์  หวังว่า องค์การเภสัชกรรม สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดหายาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ คงจะมีแผนเตรียมพร้อมเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว

          สถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศ มองว่า น่าห่วง เพราะเราเผชิญทั้งศึกใน คือการชุมนุม และศึกนอก คือเรื่องฟองสบู่การท่องเที่ยว สิ่งที่ภาครัฐ ควรทำคือ

-หนึ่ง สร้างกลไก กระบวนการ และช่องทาง ให้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกฝ่าย ได้มีโอกาสแสดงความเห็น ข้อเสนอแนะ ในการพัฒนาบ้านเมือง อย่างปลอดภัย ภายใต้สถานการณ์โรคระบาดทั่วโลกอย่างรุนแรงเช่นนี้

-สอง การมีความเห็นต่างกันเป็นธรรมดาของสังคม ดังนั้นหากมีกลไก กระบวนการ และช่องทางที่ชัดเจน ต่อเนื่อง สม่ำเสมอ ก็ย่อมมีโอกาสที่จะผสานความคิดต่างๆ มาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ แต่เน้นย้ำให้เป็นไปตามกฎหมาย

-สาม สร้างจุดตรวจคัดกรองโรคในแต่ละพื้นที่ และระบบการแจ้งผลการตรวจ พร้อมให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวระหว่างรอผลที่บ้าน

-สี่ ยุติการผลักดันฟองสบู่ท่องเที่ยวไปอย่างน้อย 6 เดือน โดยช่วยเหลือกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ

          นอกจากนี้ ฝากถึงประชาชน ย้ำให้รักตัวเอง รักครอบครัว ป้องกันตัวเสมอ เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเสมอ ควรสังเกตอาการของตัวเองและสมาชิกในครอบครัวให้ดี หากไม่สบายควรรีบไปตรวจรักษา

จีดีพี ไตรมาส 2 ญี่ปุ่น ร่วงแรง 7.8% ในรอบ 40 ปี

          สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจหรือจีดีพีของญี่ปุ่นในช่วงไตรมาส 2 ระหว่างเดือนเม.ย.ถึงมิ.ย. ปีนี้ว่าจีดีพีของญี่ปุ่นในช่วงไตรมาส 2 หดตัวลงร้อยละ 7.8 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรก เป็นการหดตัวรุนแรงนับตั้งแต่ปี 2523 สำนักคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น จะประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ฉบับสมบูรณ์ในวันที่ 8 ก.ย.นี้

สาเหตุที่จีดีพี ไตรมาส 2 ลดลงแรง เนื่องจากสถานการณ์โรคโควิด-19

-ญี่ปุ่น ประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ 7 เม.ย.ถึงวันที่ 25 พ.ค. เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ภาคธุรกิจเอกชนญี่ปุ่น หยุดนิ่งทั่วประเทศ

-มาตรการล็อกดาวน์ของประเทศต่างๆทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ทำให้การส่งออกของญี่ปุ่น ลดลงร้อยละ 18.5 โดยเฉพาะการส่งออกรถยนต์และอะไหล่รถยนต์ลดลงมาก ส่วนการนำเข้าของญี่ปุ่นในช่วงไตรมาส 2 ลดลงจากไตรมาสแรกเพียงร้อยละ 0.5 การนำเข้าจากประเทศจีนเพิ่มขึ้น ขณะที่การนำเข้าจากสหรัฐฯและยุโรปลดลง

-ผลกระทบจากการหยุดนิ่งของภาคเอกชน ทำให้การใช้จ่ายในครัวเรือน การใช้จ่ายในการเดินทาง การรับประทานอาหารนอกบ้านหรือการจับจ่ายซื้อของในช่วงไตรมาส 2 หดตัวลงร้อยละ 8.2 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรก

          ส่วนเศรษฐกิจญี่ปุ่น เมื่อช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ หดตัวลงร้อยละ 2.2 จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สงครามการค้าสหรัฐฯ-ประเทศจีน และการปรับขึ้นภาษีเพื่อการบริโภคของญี่ปุ่นจากร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 8 ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ปีก่อน

ยุโรป กำลังสู้กับโควิด-19 เยอรมัน ติดต่อกลุ่มผู้ติดเชื้อ 49 คน ไม่ได้

          สถานการณ์โรคโควิด-19 กลุ่มประเทศยุโรป กำลังสู้กับการระบาดระลอกใหม่อย่างยากลำบาก เพราะมีการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ ทั้งเยอรมัน อิตาลี ฝรั่งเศส ทั้งนี้ ระบบการตรวจคัดกรองโรคก็รับภาระไม่ไหว หลายประเทศเริ่มรายงานถึงเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ไม่สามารถติดต่อกลับไปยังนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เดินทางเข้ามาในประเทศได้หลังจากทราบผลว่าติดเชื้อ เช่น The Bavarian state government ทางตอนใต้ของเยอรมัน แจ้งว่าไม่สามารถติดต่อคนที่ติดเชื้อได้ 49 คนจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่ตรวจพบทั้งหมด 900 คน

อิตาลี เริ่มปิดไนท์คลับวันนี้-คนอายุน้อยติดเชื้อเพิ่มขึ้น  

          อิตาลี ก็กำลังแก้ปัญหาอย่างหนักกับการระบาดซ้ำในกลุ่มคนที่อายุน้อยลงกว่าเดิม มีอายุเฉลี่ยไม่ถึง 40 ปีและเริ่มมาตรการปิดดิสโก้และไนท์คลับ ตั้งแต่วันจันทร์นี้ตามเวลาท้องถิ่นจนถึงต้นเดือน ก.ย. โดยจะบังคับให้ต้องสวมหน้ากากอนามัย ในช่วงกลางคืน ระหว่างเวลา 18.00 น.-06.00 น. ในพื้นที่ใกล้กับผับและบาร์ และสถานที่ที่มักจะมีการรวมตัวกันของผู้คนจำนวนมาก หลังจากทั่วประเทศมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มขึ้น เนื่องจากเมื่อ 2 วันก่อน กลุ่มคนหนุ่มสาวออกมาสังสรรค์กันเป็นจำนวนมากซึ่งเป็นช่วงวันหยุดของอิตาลี