โควิด-19 และมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้คนอเมริกันคิดฆ่าตัวตายมากขึ้น

15 สิงหาคม 2563, 12:52น.


          ผลการวิจัยชี้ว่าในระยะแรกของการเกิดโรคโควิด-19 ซึ่งบางพื้นที่ของสหรัฐฯมีการใช้มาตรการล็อกดาวน์ ประชาชนยังมีการติดต่อกันและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน แต่เมื่อสถานการณ์ยืดเยื้อทำให้เกิดความเครียดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา หรือซีดีซี รายงานว่า มีข้อมูลทางจิตวิทยาที่พบว่าสุขภาพจิตของชาวอเมริกันมีความอ่อนล้า โดยในการสำรวจกลุ่มตัวอย่างผู้ใหญ่ 5,412 คนในช่วงระหว่างวันที่ 24 ถึง 30 มิถุนายน 2563 พบว่ากลุ่มคนหนุ่มสาวในช่วงอายุระหว่าง 18 ถึง 24 ปีมีความคิดฆ่าตัวตายเพิ่มมากขึ้น จนอยู่ในระดับมากถึง 1 ใน 4 คนที่ยอมรับว่ามีความคิดฆ่าตัวตายอย่างจริงจังในช่วง 30 วันก่อนการสำรวจ



          โดยร้อยละ 11 ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดเคยคิดฆ่าตัวตายอย่างจริงจังในช่วง 30 วันก่อนการสำรวจ



          ขณะที่ในกลุ่มผู้มีเชื้อสายสเปนและคนผิวสีสถานการณ์จะรุนแรงมากกว่า โดยกลุ่มตัวอย่างที่มีเชื้อสายสเปนร้อยละ 19 ยอมรับว่าคิดจะฆ่าตัวตาย ส่วนกลุ่มคนผิวสีอยู่ในระดับร้อยละ 15



          ซีดีซีสรุปในรายงานว่า ตัวเลขนี้สูงกว่าในปีที่แล้วสามเท่า





          นางแคโรไลน์ เวลเล ไรท์ ผู้อำนวยการอาวุโสด้านนวัตกรรมการดูแลสุขภาพของ สมาคมจิตวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา (American Psychological Association : APA) อธิบาย สถานการณ์ของโควิด-19 ไม่เหมือนกับเหตุการณ์ 11 กันยายนหรือเฮอริเคน ที่จะเป็นการรับรู้ข่าวสารจากสื่อต่างๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่อื่น เพราะโควิด-19 เกิดขึ้นทุกที่และดูเหมือนจะไม่มีวันที่สิ้นสุด ไม่มีใครรอดพ้นจากความเครียดของโรคระบาด นอกจากนี้ยังมีแรงกดดันของเศรษฐกิจ ความอคติทางเชื้อชาติและความกลัว



          นักจิตวิทยาระบุว่าการผ่านพ้นจากปัญหานี้ต้องเริ่มจากในระดับบุคคลคือการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ มีการเคลื่อนไหวทำกิจกรรมต่าง ๆ นอนหลับให้เพียงพอและการรักษาความสัมพันธ์ทางสังคม ซึ่งบางคนที่อยู่ในความเครียดจะปฏิเสธสังคม แต่อย่างน้อยที่สุดก็ควรใช้งานสื่อสังคมออนไลน์อ่านข้อความที่เป็นกำลังใจ หรือกดไลค์ ดังนั้นเพื่อนและครอบครัวจะมีบทบาทในขั้นตอนที่ 2 คือหากพบว่ามีสมาชิกที่หายไปก็จะต้องมีการติดต่อ แสดงความเป็นห่วงและไต่ถาม ทั้งสามารถแนะนำให้ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ นักบำบัดหรือที่ปรึกษาในลักษณะของการปรึกษาสุขภาพทางไกลได้ และแม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้ที่มีความเครียดหรืออยู่ในช่วงวิกฤต แต่ก็การรักษาความสัมพันธ์กับผู้อื่นและทำหน้าที่เป็นสนับสนุนก็เป็นสิ่งสำคัญ ก่อนที่ใครบางคนจะเข้าสู่ภาวะวิกฤต ซึ่งนางไรท์กล่าวว่า ถึงเวลาที่ชุมชนจะต้องมีการรวมกลุ่มกันอีกครั้ง



....

ข่าวทั้งหมด

X