ยูเอ็นยินดีที่อิสราเอลกับยูเออีมีความสัมพันธ์ทางการทูต นักวิเคราะห์คาดนำไปสู่สันติภาพตะวันออกกลาง

15 สิงหาคม 2563, 10:44น.


          ความคืบหน้ากรณีที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นประเทศที่ 3 ในกลุ่มอาหรับต่อจากอียิปต์และจอร์แดนที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในระดับปกติกับอิสราเอล โดยผู้แทนของสองประเทศจะมีการประชุมเรื่องการลงทุน, การท่องเที่ยว, เที่ยวบินตรง, ความมั่นคง และการตั้งสถานทูตต่อไป


          นายอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ได้ร่วมแสดงความยินดี โดยส่วนหนึ่งของข้อตกลงที่นำไปสู่การสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศคือการที่อิสราเอลชะลอแผนผนวกดินแดนยึดครองในเขตเวสต์แบงก์ ซึ่งเป็นประเด็นที่สหประชาชาติเรียกร้องมาโดยตลอด และหวังว่าจะนำไปสู่การเจรจาระหว่างผู้นำอิสราเอลและปาเลสไตน์เพื่อแก้ไขปัญหาสองรัฐ (Two-state solution) ซึ่งเลขาธิการสหประชาชาติ จะมีการทำงานร่วมกับทุกฝ่ายเพื่อให้มีการเจรจาเพื่อสร้างสันติภาพ และความมั่นคงต่อไป


          ด้านประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัลซิซี แห่งอียิปต์ ทวีตข้อความระบุว่าความสัมพันธ์ใหม่นี้จะนำไปสู่สันติภาพในตะวันออกกลาง


          แต่ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ของตุรกีซึ่งมีความขัดแย้งกับทั้งอียิปต์และยูเออี ขู่ว่าจะยุติความสัมพันธ์ทางการทูตกับยูเออี 


          ขณะที่ยังมีการแสดงความเห็นของนักวิเคราะห์สถานการณ์ตะวันออกกลาง จากประเทศอียิปต์ ที่ว่าในอนาคต อิสราเอลอาจมีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในระดับปกติกับโลกอาหรับ ทั้งอาจทำให้ผู้นำปาเลสไตน์สนใจการเจรจาสันติภาพ แม้ก่อนหน้านี้กลุ่มผู้นำปาเลสไตน์จะไม่พอใจการสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศฉบับนี้ โดยประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ผู้นำปาเลสไตน์ ประกาศไม่ยอมรับข้อตกลงที่ถือเป็นการทรยศหักหลังทั้งกล่าวหาอิสราเอลว่าโกหกเรื่องการผนวกดินแดนปาเลสไตน์


          นายจอร์จิโอ คาฟิเอโร ซีอีโอสถาบันวิจัยกลุ่มประเทศอ่าว (Gulf State Analytics) จากวอชิงตัน กล่าวว่า ในขณะที่มีผลประโยชน์เกิดขึ้นกับอิสราเอล ยูเออี และสหรัฐอเมริกา แต่การที่อิสราเอลสัญญาว่าจะชะลอการผนวกดินแดน ซึ่งไม่ใช่การยกเลิกแผนการทำให้ชาวปาเลสไตน์คือผู้แพ้ นอกจากนี้แล้วบาห์เรนในอ่าวเปอร์เซียและซูดานในแอฟริกาเหนือยังแสดงความสนใจในการสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอลในลำดับถัดไป เพราะจะช่วยให้บาห์เรนสามารถสร้างความร่วมมืออย่างเป็นทางการมากขึ้นกับประเทศที่มีอำนาจในตะวันออกกลาง ซึ่งมีความเห็นพ้องกันว่าอิหร่านคือภัยคุกคามที่สำคัญ


          ส่วนซูดานซึ่งที่ผ่านมาจะมีความลังเลในการสร้างความร่วมมือกับอิสราเอล แต่การที่ถูกประเทศตะวันตกใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจทำให้เกิดความตึงเครียดในประเทศ การปรับความสัมพันธ์กับอิสราเอลให้เป็นปกติอาจช่วยบรรเทาความตึงเครียดนี้ได้


          ด้านนายลี เซลดิน ในคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศ จากรีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีความเห็นว่า ประเทศในตะวันออกกลางกำลังตระหนักว่าอิหร่านเป็นภัยคุกคามที่มีอยู่จริงในภูมิภาคนี้แทนที่จะเป็นอิสราเอล ความสัมพันธ์ทางการทูตที่เกิดขึ้นคือการพัฒนาครั้งใหญ่ หลังจากที่หลายประเทศปฏิเสธที่จะยอมรับว่าอิสราเอลมีสิทธิที่จะดำรงอยู่ และหวังว่าความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯในการสร้างความสัมพันธ์ทางการทูต ความร่วมมือด้านการค้า เทคโนโลยี พลังงานและการท่องเที่ยวนี้ จะนำไปสู่ความร่วมมือกับประเทศอื่น ๆ ตามความเหมาะสม


.....
ข่าวทั้งหมด

X