พิษโควิด-19 'การบินไทย'รายได้ไตรมาส 2 ปีนี้ ลดลงร้อยละ 94.1 แตะ 2,492 ล้านบาท

          จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หลายประเทศจำกัดการเดินทางอย่างเข้มงวด ทำให้ปริมาณการเดินทางทั้งในประเทศและระหว่างประเทศลดลง ส่งผลทำให้บริษัทการบินไทย จำกัด(มหาชน)รายได้รวมในไตรมาส 2/2563 อยู่ที่ 2,492 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 94.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2562 ที่มีรายได้ถึง 40,017 ล้านบาท

          นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินของโลกอย่างรุนแรง อีกทั้งสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ประกาศห้ามอากาศยานขนส่งผู้โดยสารทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ทำให้การบินไทยจำเป็นต้องยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมดเป็นการชั่วคราว

          โดยไตรมาส 2 นี้ได้ทำการบินเฉพาะเที่ยวบินขนส่งสินค้าเที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำ (Charter Flight)  รวมถึงเที่ยวบินพิเศษเพื่อนำคนไทยกลับบ้าน ทำให้มีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) ลดลงร้อยละ 96.5 ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) ลดลงร้อยละ 99.5 อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ยร้อยละ 10.3 ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนเฉลี่ยที่ร้อยละ 74.7 และมีจำนวนผู้โดยสารที่ทำการขนส่งรวมทั้งสิ้น 80,000 คน ลดลงจากปีก่อนร้อยละ98.6

          ส่วนการขนส่งสินค้ามีอัตราส่วนการขนส่งพัสดุภัณฑ์ (Freight Load Factor) เฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 99.9 สูงกว่าปีก่อนที่เฉลี่ยที่ ร้อยละ 52.8 เนื่องจากบริษัทหยุดทำการบินชั่วคราว ทำให้บริษัทฯ และบริษัทย่อย ขาดรายได้จากธุรกิจการบินแต่มีรายได้ในส่วนอื่นทดแทน

          ได้แก่รายได้จากการขนส่งสินค้า การจัดเที่ยวบินพิเศษ การให้บริการสายการบินลูกค้า การจำหน่ายอาหารจากครัวการบิน ทำให้บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 2,492 ล้านบาท ต่ำกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 40,017 ล้านบาท หรือ คิดเป็นร้อยละ 94.1

          นอกจากนั้น คณะกรรมการบริษัทฯ ฝ่ายบริหารและพนักงานร่วมกันสมัครใจปรับลดเงินเดือนตั้งแต่เดือน เม.ย.-ธ.ค. 2563 เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายให้แก่ THAI ทำให้มีค่าใช้จ่ายรวม 16,193 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 33,428 ล้านบาท (ร้อยละ 67.4) ส่งผลให้บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิ 5,353 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 1,525 ล้านบาท (ร้อยละ 22.2)

          นอกจากนั้น ในวันนี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สั่งห้ามซื้อขายหุ้น บมจ.การบินไทย (THAI) และบมจ.สายการบินนกแอร์ (NOK โดยให้ขึ้นเครื่องหมาย SP (ห้ามซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียนเป็นการชั่วคราว) และขึ้นเครื่องหมาย NP (บริษัทจดทะเบียนมีข้อมูลที่ต้องรายงานและตลาดหลักทรัพย์อยู่ระหว่างรอข้อมูลจากบริษัท) ในระหว่างวันที่ 14-17 สิงหาคม 2563 เหตุผู้สอบบัญชีไม่ให้ข้อสรุปต่องบการเงินของบริษัทสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 และวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อาจสั่งการให้บริษัทแก้ไขงบการเงินได้