ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชุมเห็นชอบให้กระทรวงคมนาคมตั้งศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนและจัดทำแผนอำนวยความสะดวกและปลอดภัย เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2557- 5 มกราคม 2558 ซึ่งประกอบด้วย แผนการให้บริการและอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ซึ่งจะมีการเพิ่มเที่ยวรถและเที่ยวบินต่างๆทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด
ส่วนการที่กระทรวงมหาดไทย เสนอปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราสำหรับคนต่างด้าวสัญชาติ เมียนมา ลาว และกัมพูชา ซึ่งเข้ามาทำงานในประเทศไทย ตามประกาศของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. โดยจะลดค่าธรรรมเนียมสำหรับการดำเนินการขออนนุญาติทำงานต่อในประเทศไทยจากเดิม 2,000 บาท ลดเหลือ 500 บาทต่อราย ทั้งนี้ เพื่อให้แรงงานต่างด้าวมาขึ้นทะเบียนอย่างถูกกฎหมาย และเพื่อให้สามารถควบคุม ดูแลแรงงานต่างด้าวได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการ เห็นชอบให้ กองทุนผู้ประสบภัยจากรถยนต์ กำหนดชดเชยความเสียหายที่ได้รับจากผู้ประสบภัยรถยนต์ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน จากวงเงินเดิมค่าเสียหายเบื่องต้นไม่เกิน 15,000 บาท เป็น 30,000 บาทต่อคน ซึ่งมาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 26 ธ.ค. เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามหากมีความเสียหายเกิดจากวงเงินที่กำหนดสามารถเก็บได้จากสำนักงานหลักประกันสุขภาพ
และสำหรับโครงการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ ที่ปรุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบ ให้จัดทำโครงการนำร่องในพื้นที่อำเภอเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ใช้วงเงิน 1,069 ล้านบาท โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้ดำเนินการ อย่างไรก็ตาม เป้าหมายในการดำเนินการโครงการมีทั้งหมด 4 จุด คือ อำเภอเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา และอำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะจะทำหน้าที่ในการจ่ายและผลิตพลังงาน โดยเชื่อมต่อการใช้ไฟฟ้าระหว่างผู้ใช้งานกับมิเตอร์อัจฉริยะ
ทั้งนี้โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะจะทำหน้าที่ในการจ่ายและผลิตพลังงาน โดยเชื่อมต่อการใช้ไฟฟ้าระหว่างผู้ใช้งานกับมิเตอร์อัจฉริยะ โดยไม่ต้องมีคนไปจดมิเตอร์ไฟ เพื่อป้องกันการโกงมิเตอร์