ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม 2563

14 สิงหาคม 2563, 09:00น.



จับคนย้ายอุปกรณ์ในบ่อนพระราม 3 ครบแล้ว- เซิร์ฟเวอร์วงจรปิดพังหมด




          รายงานระบุความคืบหน้าคดีการยิงกันในบ่อนพนันย่านพระราม 3 ซอย 66 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา จนมีผู้เสียชีวิต 4 ราย ชุดสืบสวนสามารถติดตามจับกุม 5 คนที่ปรากฎภาพและคลิประหว่างการขนย้ายสิ่งของและอุปกรณ์ภายในบ่อนการพนันออกไปได้แล้ว ทั้ง 5 คนนี้ ต่างให้การอ้างว่าได้รับการว่าจ้างจากนายธนบูลย์ หรือต้น สารลึก อายุ 46 ปี ที่ถูกจับในข้อหาทำลายซ่อนเร้นพยานหลักฐาน ก่อนศาลจะอนุญาตให้ประกันตัวและปล่อยตัวชั่วคราวไปก่อนหน้านี้ สั่งให้รื้อถอนกล้องวงจรปิดรวมถึงเคลื่อนย้ายทำลายพยานหลักฐาน โดยให้เงินคนละ 2,000 บาท หลังจากนี้จะดำเนินคดีกับทั้ง 5 คนในข้อหา"ร่วมกันเพื่อจะช่วยผู้อื่น มิให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสียหรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่งเป็นพยานหลักฐานในการกระทำความผิด”



          รายงานจากกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ระบุว่า ไม่สามารถเปิดดูเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดที่ยึดได้ เนื่องจากถูกทุบทำลายไปแล้ว แต่ยืนยันว่าไม่เป็นอุปสรรคต่อการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน




ตร.เตรียมแจ้ง 2 ข้อหา “บอส” ขอหมายจับ-ส่งผู้ร้ายข้ามแดน



          พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึง การดำเนินคดีกับนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2555 ว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการสั่งไม่ฟ้องและตำรวจไม่แย้งคดีนายวรยุทธ เตรียมเสนอให้ดำเนินคดีข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ที่อายุความยังเหลืออีก 7 ปี โดยอาศัยอำนาจตาม ป.วิอาญา ม.147 เพราะจากการสอบสวนผู้เชี่ยวชาญประกอบความเห็นเดิมของพิสูจน์หลักฐานเดิมเชื่อได้ว่า ความเร็วรถน่าจะอยู่ที่ 177 กม.ต่อชม. และแจ้งข้อหาเสพสารเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ที่มีอายุความเหลือ 2 ปี



          พล.ต.ท.จารุวัฒน์ กล่าวว่า เมื่อมีการแจ้งข้อหาและทำคดีใหม่แล้ว พนักงานสอบสวนจะขออนุมัติหมายจับจากศาลตามขั้นตอน รวมถึงการทำเรื่องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนเพื่อนำคนผิดมาลงโทษ พร้อมระบุว่าจากกรณีที่เกิดขึ้นต่อไปนี้ ผบ.ตร.จะเข้ามาดูแลเรื่องการเห็นแย้งหรือไม่แย้งของอัยการด้วยตนเองและจะวางกฎระเบียบให้ รองผบ.ตร. และผู้ช่วย ผบ.ตร ดำเนินการต่อไป 




บุคคลที่เกี่ยวข้องกับสำนวนคดีไม่ฟ้อง ยืนยันไม่มีผลประโยชน์คดี “บอส อยู่วิทยา”  



          กรรมาธิการ(กมธ.) การกฎหมายฯ และกมธ.กิจการศาลฯ สภาผู้แทนราษฎร ใช้เวลาประชุมนานกว่า 6 ชั่วโมง เรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล 



-เป็นครั้งแรกที่นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด เดินทางมาชี้แจงนำหลักฐานสำนวนคดีที่สั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ  ยื่นให้ 2 กมธ.ยืนยันว่า พิจารณาคดีตามพยานหลักฐานโดยเฉพาะประเด็นความเร็วเดิม พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ แตงจั่น ระบุไว้ที่ 177 กม./ชั่วโมง แต่คำนวณใหม่เหลือเพียง 79.2 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งไม่เกินที่กฎหมายกำหนด ทั้งมีพยานสนับสนุนจากนักวิชาการ พร้อมพยานใหม่ 2 ปากทั้ง พล.อ.ท.จักรกฤช ถนอมกุลบุตร และนายจารุชาติ มาดทอง จึงสั่งไม่ฟ้อง ยืนยันไม่มีผลประโยชน์ พร้อมให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน นายเนตร เปิดใจเรื่องการยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง เพื่อรักษาภาพลักษณ์ขององค์กร หลังสังคมกดดันหนักรอเพียงผู้บังคับบัญชาอนุมัติ โดยเลือกชี้แจงต่อกมธ. รายงานระบุว่า ในวันนี้นายเนตร จะชี้แจงต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดนายวิชา มหาคุณ ด้วย



-พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ยอมรับว่า บกพร่องคลาดเคลื่อนความเร็วจาก 177กม./ชั่วโมง เป็น 79.2 กม./ชั่วโมง เพราะเชื่อการคำนวณของนายสายประสิทธิ์ เกิดนิยม จากนั้นพบว่าการคำนวณคลาดเคลื่อนร้อยละ 40 เคยพยายามแก้ไขตั้งแต่ปี 2559 แต่มีแรงกดดันเรื่องกรอบเวลาและขั้นตอน ทั้งเข้าใจผิดว่าสำนวนขาดอายุความไปแล้ว จึงแสดงความบริสุทธ์ใจ ให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน



-นายสมัคร เชาวภานันท์ ทนายความของนายวรยุทธ  แจ้งว่านายวรยุทธมาไม่ได้ เพราะถูกยกเลิกหนังสือเดินทาง และไม่ได้อยู่ในไทย ทนาย ยอมรับว่า ไปร้องขอความเป็นธรรมกับพนักงานสอบสวนให้ใส่รายงานของ สนช.เข้าไปอยู่ในสำนวนสอบสวนด้วย




-พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันหลักคิดการทำคดีถูกกฎหมาย ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่มีใบสั่ง เมื่อพิจารณาสำนวนแล้ว ไม่มีสิทธิสั่งดำเนินการให้เป็นอย่างอื่นได้ ต้องเห็นชอบตามเสนอ ยอมรับว่าตกใจ หลังตำรวจกลับคำตัวเลขความเร็วรถ โดยจะนำเสนอ ผบ.ตร. เพื่อพิจารณาว่าจะหาข้อพิสูจน์อย่างไร




          คดีนี้ยังไม่จบ กมธ.เตรียมเชิญตัวนายวรยุทธ และนายธานี อ่อนละเอียด อดีตกรรมาธิการ สนช.ที่เสนอความเห็นไม่ฟ้อง มาชี้แจง หากปฏิเสธ จะใช้อำนาจตามพ.ร.บ.คำสั่งเรียกฯ ให้มาชี้แจง



CR:วิทยุและโทรทัศน์รัฐสภา 



ครบกำหนดวันนี้ ! อนุ กมธ. ส่งหนังสือชี้แจงเรื่องข่าวเรียกรับเงินกรมทรัพยากรน้ำบาดาล



          นายพรชัย อินทร์สุข โฆษกกมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง ความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเรียกรับเงินของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลว่า ภายหลัง กมธ.ชุดใหญ่ เชิญอนุ กมธ.ทั้ง 8 คณะเข้าชี้แจง เมื่อวัน 11 ส.ค. เพื่อสอบถามถึงกระแสข่าวการเรียกรับประโยชน์ และตั้งงบประมาณเกินจริงเพื่อหักหัวคิว



         อนุกมธ.แผนและบูรณาการที่สอง ในคณะกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ชี้แจงต่อที่ประชุมว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงกระแสข่าว ยังไม่เห็นคลิปเห็นข้อความเสียง และยังไม่ทราบข้อเท็จจริง ดังนั้นที่ประชุม กมธ.จึงมีมติให้อนุกมธ.ชุดดังกล่าวทำหนังสือชี้แจงเป็นรายลักษณ์อักษร ภายใน 3 วันเพื่อให้ กมธ.พิจารณาในวันนี้



        นายพรชัย กล่าวว่า จากนั้นที่ประชุมกมธ.จะพิจารณาและส่งเรื่องให้ประธานสภาฯ พิจารณาดำเนินการต่อว่าจะมีการตั้งคณะกมธ.ขึ้นมาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวหรือไม่



 

ข่าวทั้งหมด

X