ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม 2563

13 สิงหาคม 2563, 19:00น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 13  สิงหาคม 2563   



นายกฯแถลง 5แนวทางครม.ต้องทำ อยู่เหนือการเมือง เพื่อปากท้องประชาชนสู้โควิด-19



          หลังการปรับคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีได้แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ระบุ 5 แนวทางที่คณะรัฐมนตรีจะต้องทำเพื่อดูแลประชาชน



1: เยียวยาความเจ็บปวดที่ประชาชนกำลังเผชิญอยู่ โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs และคนตกงาน



2: แก้ปัญหาต่างๆอย่างยั่งยืน ทำโครงการที่จริงจัง ถูกต้อง สร้างความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจใช้เงินที่มีอยู่อย่างเหมาะสมและช่วยเหลือไปถึงคนที่ต้องการจริง ๆ



3: สร้างแรงจูงใจให้ธุรกิจต่าง ๆ จ้างงานลูกจ้างต่อไป และพลิกองค์กรให้มีประสิทธิภาพ สามารถแข่งขันได้ดีขึ้น



4: ทำแผนเรื่องการจ้างงานคนรุ่นใหม่ นักศึกษาจบใหม่จำนวนมากจำเป็นต้องมีงานทำ



5: มีความซื่อสัตย์ โปร่งใส และรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทุกคนมีส่วนช่วยนำพาประเทศก้าวไปให้ได้



          สิ่งสำคัญ คือ ความร่วมแรงร่วมใจ “รวมไทย สร้างชาติ” ที่ทุกคนช่วยกันแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยความเป็นหนึ่งเดียวกัน หารือกันอย่างสร้างสรรค์ วางแผน และลงมือทำ จะทำให้เราหลุดพ้นจากปัญหาที่ถ่วงประเทศไทยมายาวนาน



          เราต้องอยู่เหนือการโต้เถียงกัน และเราต้องอยู่เหนือการเมือง เพราะเรามีสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมากรออยู่ตรงหน้า นั่นคือความอยู่รอดในการหาเลี้ยงชีวิตของคนนับล้าน ๆ ที่กำลังเดือดร้อนจากหายนะของโรคโควิด-19



"เนตร" ยันสั่งคดี "บอส กระทิงแดง" ตามสำนวนสอบสวน



          นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด ได้ปรากฎตัวครั้งแรก เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน ร่วมกับ กมธ.กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรมหาชน และกองทุน ที่มีนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน ได้ร่วมกันเป็นประธานการประชุม โดยที่ประชุมได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องในการสั่งไม่ฟ้องคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส มาชี้แจงต่อกมธ.เป็นครั้งที่ 3 หลังจาก 2ครั้งแรก ผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้โดยตรงไม่ได้มาชี้แจงด้วยตัวเอง ทำให้มีการเรียกเป็นครั้งที่ 3 หากไม่มา ทางกมธ.จะใช้ พ.ร.บ.คำสั่งเรียกเป็นครั้งที่ 4

          ปรากฏว่า ที่ประชุมวันนี้ นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด ผู้ที่สั่งไม่ฟ้องคดี นายวรยุทธ มาชี้แจงเป็นครั้งแรก ซึ่งถือเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของนายเนตร ต่อสาธารณชน นอกจากนี้ยังมี ฝ่ายตำรวจที่ไม่เห็นแย้งคำสั่งอัยการ คือ พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วย ผบ.ตร. มาชี้แจงคดีนี้ด้วยตัวเอง รวมทั้ง พนักงานสอบสวนในคดีนี้ และนายสมัคร เชาวภานันท์ ทนายความของนายวรยุทธ ก็มาชี้แจงด้วย



          โดยนายเนตร กล่าวยืนยันว่า การพิจารณาสั่งไม่ฟ้องในคดีนี้ ตนสั่งตามที่พนักงานสอบสวนรวบรวมมาทั้งหมด ไม่มีข้อเท็จจริงนอกสำนวน ส่วนดุลพินิจที่ตนไม่ฟ้องไม่ได้สั่งนอกสำนวนอะไรเลย ซึ่งมีเอกสารหลักฐานระบุความเห็นในการสั่งไม่ฟ้องคดีไว้ชัดเจน ซึ่งเหตุผลที่สั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธนั้น เพราะได้พิจารณาทั้งสำนวนเดิมที่มีการสั่งคดีไว้อย่างไร ซึ่งครั้งแรกอัยการมีการสั่งฟ้อง ตามความเห็นของ พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ แตงจั่น ที่บันทึกความเร็วไว้ที่ 177 กม./ชม. แต่เมื่อมีการสอบพยานใหม่หลังมีการร้องขอความเป็นธรรม พบว่าผู้ให้ความเห็นความเร็วรถคนเดิม คือ พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ นักวิทยาศาสตร์ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ นั้นมาเปลี่ยนคำให้การว่าไม่ใช่ 177 กม./ชม.เพราะวิธีคิดไม่ตรงกัน เมื่อคำนวณจากวิธีใหม่ ทำให้ความเร็วเหลือแค่ 79 กม./ ชม. ถือว่าไม่เกินกฎหมายกำหนด ประกอบกับพยานอื่นมาสนับสนุนทั้งผู้เชี่ยวชาญ นายสายประสิทธิ์ เกิดนิยม จากมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.)ก็ยืนยันว่าความเร็วที่คำนวณจากภาพวิดีโอ เร็วแค่เพียง 76 กม./ชม. ไม่ถึง 80 กม./ ชม.รวมทั้งมีพยาน 2 ปากที่ได้จากการสอบสวน ได้แก่ พล.อ.ท.จักรกฤช ถนอมกุลบุตร และ นายจารุชาติ มาดทอง ให้การว่าความเร็วของนายวรยุทธ ไม่ถึง 80 กม./ชม. และพบว่าผู้ตายเปลี่ยนเลนกระทันหันจากซ้ายสุดมาขวาสุด



          ด้านนายสมัคร เชาวภานันท์ ทนายความของนายวรยุทธ ชี้แจงเสริมว่าการขอความเป็นธรรมของนายวรยุทธที่มีต่อสนช. ยืนยันว่า รายงานของกมธ.กฎหมายฯสนช. สอบสวนที่ส่งให้อัยการ ปกติแล้วไม่ต้องนำเข้าสำนวนก็ได้แต่ที่มีการนำรายงานของกมธ.กฎหมายฯสนช.เข้าไปในสำนวนนั้น เป็นเพราะได้ร้องขอความเป็นธรรมให้นำรายงานการสอบสวนของกมธ.กฎหมายฯสนช.เข้ามาเพื่อเป็นหลักฐานในสำนวน

          ต่อมานายสิระ ซักถามว่า สำหรับคดีนี้ประชาชนเกิดความสงสัยว่าพยานใหม่ เป็นพยานที่ช่วยเหลือผู้ต้องหารือไม่ รวมทั้งคดีนี้มีการวิ่งเต้นหรือมีผลประโยชน์อยู่ที่ใครหรือไม่ นายเนตร ชี้แจงว่า นายจารุชาติ เป็นพยานตั้งแต่ต้น ส่วนพล.อ.ท.จักรกฤช มาช่วงกลาง ซึ่งเป็นพยานที่เกิดจากการสอบสวนโดยชอบ ส่วนการพิจารณายืนยันว่า พิจารณาตามกระบวนการ พิจารณาจากการสอบสวนทั้งสิ้นไม่มีส่วนอื่นเกี่ยวข้อง

          นอกจากนั้น กมธ.ได้ซักถามว่า นายเนตร ยินดีให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินหรือไม่ ซึ่งนายเนตร ยืนยันว่า ยินดีให้ตรวจสอบ เนื่องจากการพิจารณาคดีเป็นการสั่งคดีตามสำนวนไม่มีเรื่องอื่นทั้งสิ้นเป็นคดีที่มาตามระบบ

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายเนตร ชี้แจงเสร็จสิ้น กมธ.ได้มีมติทำหนังสือเชิญ นายธานี อ่อนละเอียด ส.ว. ประธานกมธ.กฎหมาย สนช. และนายวรยุทธ โดยเฉพาะนายวรยุทธ ส่งเป็นหนังสือลงทะเบียน หากไม่มาชี้แจงอีกก็จะให้ พ.ร.บ.คำสั่งเรียก ทั้งนี้นายสมัคร ทนายความนายวรยุทธ ได้แจ้งว่า ผู้อำนวยการกองหนังสือเดินทาง ได้ยกเลิกหนังสือเดินทางของนายวรยุทธ ทำให้นายวรยุทธเดินทางมาชี้แจงไม่ได้ เนื่องจากหนังสือเดินทางหมดอายุและอยู่ต่างประเทศ ไม่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย แต่กมธ.ยืนยันให้ส่งหนังสือเชิญไปตามภูมิลำเนา

          ภายหลังชี้แจงเสร็จสิ้น นายเนตร ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ในทุกประเด็น กล่าวเพียงว่าภาพรวมได้ชี้แจงต่อกมธ.ไปหมดแล้ว เมื่อถามว่าจะไปชี้แจงต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และกฎหมายที่มีนายวิชา มหาคุณ เป็นประธาน หรือไม่ นายเนตร กล่าวว่า ไปชี้แจงในวันที่ 14 ส.ค.นี้แต่ยังไม่ทราบเวลาและไม่ทราบรายละเอียดว่าเชิญไปชี้แจงอะไร



ราคาทองขึ้น-ลง 11 ครั้ง ลดลง 50 บาท



          สมาคมค้าทองคำ รายงานราคาทองวันนี้ (13 ส.ค.) ปรับลดลง 50 บาท เมื่อเทียบกับราคาปิดเมื่อวานนี้ หลังราคาขยับขึ้น-ลง 11 ครั้ง ภายในวันเดียว



          ทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ มีราคารับซื้ออยู่ที่บาทละ 28,250 บาท ขายออกที่ราคาบาทละ 28,350 บาท



          ขณะที่ ราคาทองรูปพรรณ 96.5% รับซื้ออยู่ที่ราคาบาทละ 27,742.80 บาท และขายออกที่ราคา 28,850 บาท ส่วนราคาทองคำโลก หรือ Gold Spot อยู่ที่ 1,930.00 เหรียญสหรัฐฯต่อออนซ์



หุ้นไทย-เอเชีย ดีดรับข่าวมีวัคซีนโควิด-19



          ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปิดวันนี้ที่ระดับ 1,346.69 จุด เพิ่มขึ้น 9.85 จุด (+0.74%) มูลค่าการซื้อขาย 77,812.76 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวในแดนบวก จากความเชื่อมั่นในเรื่องวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่มีโอกาสที่จะทำได้จริง



          นอกจากนี้ ภาครัฐฯมีแผนที่จะผ่อนคลายการท่องเที่ยว พร้อมกับมีแผนการฟื้นฟู ซึ่งทำให้ไปช่วยหนุนการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยไปด้วย  ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (14 ส.ค.) นายมงคล กล่าวว่า ตลาดมีโอกาสที่จะผันผวนได้ หลังจากที่ตลาดรับรู้เรื่องวัคซีนต้านโควิด-19 มาแล้ว 2 วัน และพรุ่งนี้ก็เป็นวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์นี้ด้วย รวมถึงยังมีเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่จะต้องติดตามในวันที่ 15 ส.ค.นี้



          ดัชนีนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นในวันนี้แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 6 เดือน โดยเข้าใกล้ระดับก่อนเกิดวิกฤตโรคโควิด-19 ระบาด โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ปิดที่ 23,249.61 จุด เพิ่มขึ้น 405.65 จุด



          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวลง ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่เจ้าหน้าที่จีนและสหรัฐฯจะเจรจาการค้าร่วมกันในวันเสาร์ที่ 15 ส.ค.นี้ เพื่อประเมินความคืบหน้าในการปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าในเฟสแรก ดัชนีฮั่งเส็งปิดวันนี้ที่ 25,230.67 จุด ลดลง 13.35 จุด



อสม.-อสส.เฮ! ครม.อนุมัติงบ3,622ล้าน ดูแล7เดือน ย้อนหลังเดือนละ500บาท



         น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุม ครม.ได้อนุมัติงบกลางจำนวน 3,622 ล้านบาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ เพื่อให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร (อสส.) จากเดิมที่ ครม.เคยอนุมัติหลักการเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 สำหรับโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการปฏิบัติงานของ อสม. ในการเฝ้าระวังและป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในชุมชนของกระทรวงสาธารณสุขนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้สั่งการให้เร่งรัดการจ่ายเงินให้เร็วที่สุด ซึ่งอนุมัติงบฯตั้งแต่เดือนมีนาคม-กันยายน 2563 เป็นระยะเวลา 7 เดือน เดือนละ 500 บาท



ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในญี่ปุ่นพุ่งกว่า 1,142คน



          สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศญี่ปุ่น ประจำวันที่ 13 สิงหาคม 2563 วันที่ 13 สิงหาคม เวลา 17.45 น. มีรายงานผู้ติดเชื้อทั่วประเทศญี่ปุ่นจำนวน 1,142 คน



-กรุงโตเกียวกลับมามีผู้ติดเชื้อรายวันมากกว่า 200 คนอีกครั้งต่อกันเป็นวันที่ 2 แล้ว โดยมีผู้ติดเชื้อใหม่ 206 คน โดยผู้ติดเชื้อร้อยละ 25 (107 คน) มีอายุระหว่าง 20-39 ปี

- จังหวัดโอซากา 177 คน

- จังหวัดฟูกูโอกะ 144 คน

- จังหวัดคานากาวะ 123 คน

- จังหวัดไอจิ 109 คน

- จังหวัดโอกินาวา 97 คน



'นิวซีแลนด์'พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม14คน ยังไม่ทราบแหล่งเชื้อ



          นิวซีแลนด์พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19เพิ่มอีก 14 คนในวันนี้ โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วย 1 คนในสถานกักกันตัวของรัฐบาล เป็นหญิงวัย 30 ปี ซึ่งเดินทางกลับจากประเทศฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 8 ส.ค. โดยเธอถูกกักตัวอยู่ที่ Distinction Hotel และมีผลตรวจเชื้อเป็นบวกในวันที่ 3 ของการกักตัว ส่วนผู้ป่วยอีก 13 คนนั้น มีความเกี่ยวข้องกับผู้ป่วย 4 คนที่มาจากครอบครัวในเมืองโอ๊คแลนด์



          เจ้าหน้าที่รัฐบาลยังคงเดินหน้าหาแหล่งที่มาของการแพร่ระบาดรอบใหม่ จนทำให้ทางรัฐบาลตัดสินใจล็อกดาวน์เมืองโอ๊คแลนด์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์ หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศเป็นครั้งแรกในรอบ 102 วันเมื่อวันอังคาร



ผู้เสียชีวิตในพื้นที่สู้รบทั่วโลก ลดลงร้อยละ58 หลังโควิด-19 ระบาดหนัก



        นายเอียน โอเวอร์ตัน กรรมการบริหารขององค์กร Action on Armed Violence องค์กรการกุศลของอังกฤษที่วิจัยและรณรงค์เพื่อลดความรุนแรงจากการใช้อาวุธทั่วโลกเปิดเผยว่า ทีมวิจัยได้พบหลักฐานที่ชี้ถึงจำนวนชาวบ้านที่เสียชีวิต หรือบาดเจ็บจากเหตุรุนแรงในพื้นที่สู้รบทั่วโลกเช่น ซีเรีย อัฟกานิสถาน ปากีสถาน เยเมนและโซมาเลีย ระหว่างเดือนเมษายนถึงกรกฎาคมปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พบว่า ลดลงร้อยละ 58 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเหตุโจมตีด้วยอาวุธ เช่น ระเบิดและจรวดในพื้นที่สู้รบทั่วโลกรวม 1,001 ครั้ง มีชาวบ้านเสียชีวิต 3,275 ราย ขณะที่สมาชิกกลุ่มติดอาวุธเสียชีวิต 2,381 ราย

ข่าวทั้งหมด

X