เปิด 10 ประเด็นสอบข้อเท็จจริงคดี 'บอส อยู่วิทยา' ย้ำไม่มีการฟอกขาวให้ใคร

13 สิงหาคม 2563, 15:03น.


          ผลการสอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาดของอัยการ คดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต เมื่อปี 2555  พล.ต.อ.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาพิเศษตร. พร้อมด้วยพล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผบ.ตร.ได้เปิดเผย 10 ประเด็นที่เสนอต่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ดังนี้



1.นำเรียนข้อบกพร่องทั้งหมดที่พบของตำรวจ และจะตรวจสอบว่ากรณีใดบ้างที่ป.ป.ช.ได้พิจารณาชี้มูลไปแล้ว กรณีบกพร่องที่ยังไม่ได้ชี้มูลหรือลงทัณฑ์ ทางคณะกรรมการจะพิจารณามีความเห็นเสนอผบ.ตร. เพื่อพิจารณาสั่งการดำเนินการทางวินัยต่อไป หากพบความผิดทางอาญาจะเสนอให้ดำเนินคดีอาญาต่อไป



2.คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เช่น รายงานการคำนวณความเร็วจากผู้เชี่ยวชาญมายืนยันความเร็วที่ 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และผู้เชี่ยวชาญอื่นก็ยืนยันที่ความเร็ว 126 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญแก่คดีที่สามารถพิสูจน์การกระทำความผิดของผู้ต้องหา เพื่อให้ศาลลงโทษผู้ต้องหาตามกฎหมายได้ เห็นควรส่งพยานหลักฐานรายละเอียดข้อเท็จจริงไปยังอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาดำเนินการตามป.วิอาญา มาตรา 147 ต่อไป



3.คณะกรรมการตรวจพบความบกพร่องในการดำเนินคดีเรื่องยาเสพติดให้โทษ ที่ยังสามารถดำเนินการต่อไปได้ โดยสอบถามเพิ่มเติมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สอบปากคำเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญ แล้วพบว่าสารแปลกปลอมทั้ง 2 ชนิด ที่เกิดในร่างกาย เกิดกระบวนการเปลี่ยนแปลงเมื่อได้รับโคเคน ร่วมกับการดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้น การใช้ยาอะม๊อกซิลีนไม่ทำให้เกิดสารแปลกปลอมดังกล่าวได้ ซึ่งกรณีความผิดการเสพโคเคน มีอัตราโทษจำคุก 6 เดือน ถึง 3 ปี หรือปรับ 10,000 บาท ถึง 60,000 บาท และยังมีอายุความอยู่ เห็นควรให้พนักงานสอบสวน ผู้มีอำนาจสอบสวนดำเนินคดีในเรื่องนี้ต่อไป ปัจจุบัน ผบ.ตร.สั่งการว่าจะเข้ามาดูแลการสั่งคดีเรื่องแย้งความเห็นของพนักงานอัยการเองทุกคดี



          โดยข้อบกพร่องของผู้เกี่ยวข้องกับการสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมคือ



1.ไม่ดำเนินการตรวจสอบปัสสาวะ เพื่อตรวจสารเสพติดเมื่อได้ตัวผู้ต้องหา



2.ไม่เก็บหลักฐานคำให้การสอบสวนพยานเพิ่มเติมไว้ตามระเบียบ



3.ผู้ออกรายงานให้การไม่ตรงกับรายงาน



4.พนักงานสอบสวนไม่ออกหมายจับตามคำสั่งพนักงานอัยการ



          ส่วนข้อบกพร่องของผู้เกี่ยวข้องที่ถูกแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี วันที่ 25 เม.ย.2559 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังสำนักงานป.ป.ช.ดำเนินการตามกฎหมาย วันที่ 17 ธ.ค.2562 ป.ป.ช.มีมติให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาโทษทางวินัย วันที่ 31 มี.ค.2563 สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งลงโทษทางวินัย



          สำหรับข้อบกพร่องของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนคดีจราจรที่ 632/2555 ของสน.ทองหล่อตามคำสั่งตร.ที่ 228/2559 ลงวันที่ 22 เม.ย.2559



1.ไม่ได้ทำการสอบสวนตำรวจ ผู้ทำการตรวจค้นบ้านผู้ต้องหาในวันเกิดเหตุประกอบสำนวนการสอบสวน



2.ไม่ได้ทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และไม่ได้รวบรวมพยานหลักฐานในทันทีเป็นเหตุให้ขาดพยานหลักฐานในการฟ้อง



3.ไม่ได้สอบสวนปากคำผู้นำตัวผู้ต้องหามามอบตัวประกอบสำนวน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงว่าผู้ต้องหาไปที่ไหนอย่างไร เพื่อสอบสวนขยายผลและอาจจะใช้เป็นพยานหลักฐานยืนยันในเรื่องความเมา และข้อเท็จจริงแห่งคดี



4.การทำสัญญาประกันปล่อยตัวชั่วคราวบกพร่อง ผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัวเอง จึงไม่ใช่ผู้ถูกจับกุมและไม่มีหมายจับตามป.วิ.อาญา มาตรา 134 วรรคท้าย พนักงานสอบสวนจึงไม่มีอำนาจให้ประกันตัว ซึ่งจะต้องส่งตัวผู้ต้องหาไปที่ศาล เพื่อขอหมายขังทันที



5.การใช้ดุลพินิจของคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ที่มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาในความผิดฐานขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด



6.ผลการตรวจวิเคราะห์สารเสพติดที่เป็นสารเกิดจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงในร่างกายจากการเสพโคเคน (ยาเสพติดประเภท 2) และคำให้การของแพทย์ผู้ตรวจพิสูจน์ยืนยันว่าพบสารที่เกิดจากการเสพโคเคนในร่างกายผู้ต้องหาไม่นำเข้าพิจารณาในการทำความเห็นในข้อหาขับรถโดยประมาท และไม่มีการพิจารณาในเรื่องข้อหาเสพยาเสพติด



7.พนักงานสืบสวนสอบสวนตามคำสั่งบก.น. 5 ที่ 183/55 ลงวันที่ 4 ก.ย. 55 ไม่กำกับดูแลให้มีการปล่อยตัวชั่วคราว ไม่เป็นไปตามป.วิ.อาญามาตรา 134 วรรคท้าย



8.คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตามคำสั่ง บก.น. 5 ที่ 183/55 ลงวันที่ 4 ก.ย. 55 ไม่ขอขยายเวลาการสอบสวนตามคำสั่งตร.ที่ 960/37 ลงวันที่ 10 ส.ค. 37 เมื่อได้ทำการสอบสวนครบกำหนดระยะเวลา



9.คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตามคำสั่ง บก.น. 5 ที่ 183/55 ลงวันที่ 4 ก.ย. 55 มีหลักฐานการรับสำนวนของพนักงานอัยการ แต่ไม่รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และไม่ส่งตัวผู้ต้องหาไปขอให้ศาลออกหมายขังเมื่อการสอบสวนครบกำหนดเวลา 6 เดือนตามป.วิ.อาญามาตรา 113 วรรคสอง



10.ผกก.สน.ทองหล่อ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ไม่ได้กำกับดูแลการสอบสวนโดยใกล้ชิดทั้งที่เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน



                    พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ยืนยันว่าไม่มีการฟอกขาวให้ใคร และจะตรวจสอบเฉพาะทางตำรวจ ไม่ขอก้าวล่วงไปถึงทางอัยการ 



 

ข่าวทั้งหมด

X