ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม 2563

13 สิงหาคม 2563, 09:00น.



คณะทำงานตร.แถลงผลสอบเหตุไม่แย้งอัยการคดี 'บอส อยู่วิทยา'



          คดีสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา ที่ขับรถชนตำรวจสน.ทองหล่อ วันนี้ 10.30 น.ติดตามการแถลงผลการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการใช้ดุลพินิจข้าราชการตำรวจ กรณีไม่เห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้อง หลังจากที่ได้ประชุมทั้งหมด 12 นัดและทำรายงานสรุปเสนอความเห็นให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)พิจารณาสั่งการ ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ 15 วัน



คณะกรรมการอัยการ ประชุม 18 ส.ค.พิจารณาประเด็น'เนตร นาคสุข'สั่งคดีชอบหรือไม่



          กรณีนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด ผู้ลงนามสั่งไม่ฟ้องคดีดังกล่าวยื่นหนังสือลาออกจากราชการต่ออัยการสูงสุด นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) กล่าวว่า พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 มาตรา 58 บัญญัติในเรื่องการลาออกว่า หากอัยการจะลาออกต้องให้อัยการสูงสุด (อสส.) สั่งอนุญาตแล้วให้ถือว่าพ้นจากตำแหน่ง แต่หากอสส.พิจารณาแล้วเห็นว่าจำเป็นเพื่อประโยชน์แก่ราชการจะยับยั้งการอนุญาตให้ลาออกไว้เป็นเวลาไม่เกิน 3 เดือนนับตั้งแต่วันขอลาออกก็ได้ กรณีนี้ต้องไปดูว่า อสส.มีคำสั่งอย่างไร อนุญาตหรือยับยั้งหรือไม่ หากมีคำสั่งอนุญาตให้นายเนตรลาออกไม่สามารถที่จะดำเนินการสอบวินัยได้เพราะนายเนตรลาออกก่อนที่จะมีการเริ่มต้นกระบวนการสอบวินัย แต่ถ้าเริ่มกระบวนการทางวินัยแล้ว ข้าราชการลาออก สามารถสอบวินัยได้ต่อและต้องอย่าลืมว่ายังมีเรื่องคดีอาญาที่น่ากลัวกว่าการสอบวินัย ส่วนการตั้งคณะกรรมการสอบดุลพินิจยังต้องดำเนินต่อไปเพราะแม้จะลาออกพ้นไปแล้ว ก็ต้องมีหน้าที่มาให้การ เพราะการสอบสวนครั้งนี้อัยการต้องชี้แจงต่อสังคมได้



          ประเด็นการสั่งไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ เป็นการสั่งคดีที่ขาดความระมัดระวังหรือไม่ นายอรรถพล กล่าวว่า ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ.2553 ซึ่งขณะนี้ อสส.ยังไม่มีหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการตรวจสอบรองอัยการสูงสุดในเรื่องดังกล่าว จะนำประเด็นนี้เข้าพิจารณาเพื่อวางหลักเกณฑ์ในการประชุมคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.)ในวันอังคารที่ 18 ส.ค.นี้



สน.ทองหล่อตั้งชุดสอบสวนทีมใหม่ผสมทีมเดิม



          การสอบพยานคดีนายวรยุทธเพิ่มตามคำสั่งอัยการ พ.ต.อ.สัมพันธ์ เหลืองสัจจกุล ผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ กำลังรอหนังสือคำสั่งจากพนักงานอัยการอย่างเป็นทางการ โดยจะสอบสวนตามประเด็นที่สั่งการมา สำหรับขั้นตอนจะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาใหม่ เนื่องจากคดีนี้ผ่านมาแล้ว 8 ปี โดยจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างพนักงานสอบสวนชุดเดิม กับพนักงานสอบสวนชุดปัจจุบัน



          พ.ต.ท.ธนาวุฒิ สงวนสุข รองผู้กำกับการสอบสวน สน.ทองหล่อ ระบุว่า เบื้องต้นเตรียมพนักงานสอบสวน ที่จะดำเนินการตามคำสั่งของอัยการทำงานในรูปแบบคณะกรรมการอย่างน้อย 5 คน เพื่อสอบสวนทุกประเด็นของอัยการ ส่วนการกำหนดให้ส่งสำนวนการสอบสวนภายใน 20 ส.ค.หากดำเนินการไม่ทันก็สามารถขอขยายเวลาได้



ตร.หาคนยิงเพิ่มเติม ในบ่อนพระราม 3 นอกจาก 'บอย บ้านครัว'



          คดียิงในบ่อนพระราม 3 พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล ในฐานะที่ รรท.ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ กล่าวว่า ชุดทำงานคลี่คลายคดีระดับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) มอบหมายให้ฝ่ายสืบสวน บก.น.5 กับฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ติดตามหาตัวผู้ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องในคดีเพิ่มเติม หลังมีข้อมูลว่าอาจมีผู้ที่ยิงปืนใส่นายถาวร สีสด ผู้เสียชีวิตมากกว่า 1 ราย นอกจากนายพิพิธ ศรีสุวรรณ์ หรือบอย บ้านครัว พร้อมติดตามตัวนายวสันต์ เพ็งใย อายุ 34 ปี ที่รับสารภาพเป็นผู้เช่าอาคารพาณิชย์ดังกล่าวและจัดให้มีการเล่นพนันมา สอบปากคำเพิ่มเติม



          พ.ต.ท.ประจำ หนุนนาค รอง ผกก. (สอบสวน) สน.ทุ่งมหาเมฆ กล่าวว่า นายวสันต์ มาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้นานแล้ว จากการสอบปากคำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหาอยู่ระหว่างพิจารณา ซึ่งตอนนี้นายวสันต์ยังไม่ประสานเข้าพบตำรวจ กำลังรวบรวมสำนวนเสนอที่ประชุม



ยายของวสันต์ เผยเคยได้ยินข่าวบ้าง ที่หลานมีชื่อเป็นเจ้าของบ่อน



          นางบุปผา เสือป่า อายุ 77 ปี ยายของนายวสันต์ เพ็งใย อายุ 33 ปี ซึ่งมีชื่อเป็นผู้เช่าอาคารบ่อนพระราม 3 รวมถึงการดูแลบ่อนพนัน  เล่าให้ฟังว่า นายวสันต์ เป็นเด็กที่ขยัน เลี้ยงมาแต่เด็ก เมื่อโตแล้วได้เข้าไปทำมาหากินอยู่กับแม่ที่กรุงเทพฯ จะกลับมาบ้านในช่วงมีงานพิธีต่างๆ และให้เงินยายใช้เป็นประจำ หลานชายเล่าให้ฟังว่าไปอยู่กรุงเทพฯ ทำสลัดและทำแซนด์วิชขาย ส่วนเรื่องที่ว่าเป็นเจ้าของบ่อน ก็มีแว่วๆได้ยินมาบ้าง แต่ไม่เคยรู้เรื่อง เนื่องจากนานๆจะกลับมาบ้านที่จ.อ่างทองสักครั้ง



ราคาทองในประเทศ มีแนวโน้มปรับลงได้อีกจาก 5 ปัจจัยหลัก  



          ราคาทองคำในประเทศผันผวนอย่างหนัก สมาคมค้าทองคำ รายงานว่า เมื่อวานนี้ ปรับราคาตลอดทั้งวันรวม 42 ครั้ง นับเป็นการปรับราคาซื้อขายทองมากสุดในประวัติศาสตร์ ราคาทองคำได้ลดลงต่ำสุดถึงบาทละ 1,400 บาท โดยช่วงปิดตลาด ราคาทองคำแท่งรับซื้ออยู่ที่บาทละ 28,300 บาท ขายออกบาทละ 28,400 บาท ลดลงจากวันก่อนหน้า 850 บาท ขณะที่ราคาทองคำรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 27,788.28 บาท และขายออกบาทละ 28,900 บาท



          นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาทองคำว่ายังไม่มีความชัดเจนจะปรับตัวลงอีกหรือไม่ เพราะราคาทองคำยังมีความผันผวนสูง เนื่องจากกองทุนทองในต่างประเทศเริ่มมีการเทขาย ทำให้ราคาในต่างประเทศปรับตัวลดลง และมีโอกาสที่จะเทขายออกมาอีก ขณะที่ราคาทองคำในประเทศช่วง 5 วัน ที่ผ่านมานั้น ปรับตัวลดลงไปแล้ว 2,550 บาท จากช่วงราคาสูงสุด

          บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (วายแอลจี) ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองผันผวนอย่างหนักเกิดจาก 5 ปัจจัยหลัก



1.ข่าวรัสเซียประกาศว่าได้อนุมัติวัคซีนต้านโรคโควิด-19 เป็นประเทศแรกของโลกช่วยจุดประกายความหวังเกี่ยวกับการแข่งขันกันผลิตวัคซีนดังกล่าว หากประสบความสำเร็จจะช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ได้ ปัจจัยนี้กดดันให้เกิดแรงขายในสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทองคำ

2.การเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือนสูงกว่า ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PPI จะปรับตัวขึ้นร้อยละ 0.3

3.ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล(บอนด์ยิลด์)สหรัฐฯ อายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนที่ร้อยละ 0.655 หลังแตะระดับร้อยละ 0.661 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค.โดยพุ่งขึ้นจากระดับต่ำสุดร้อยละ 0.504 เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว หลังจากมีแรงขายพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯดีเกินคาด

4.ดัชนีดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นร้อยละ 0.05 การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์เริ่มชะลอตัวลงชัดเจนนับตั้งแต่ตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯดีเกินคาด



5.แรงขายทางเทคนิค (Sell Stop) หลังราคาทองคำร่วงหลุดแนวรับหลายแนว ปัจจัยที่กล่าวมากดดันให้ราคาร่วงลงอย่างหนักในคืนที่ 11 ส.ค. ต่อเนื่องมาจนถึงเช้าวันที่ 12 ส.ค. จนหลุด 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์




 

ข่าวทั้งหมด

X