สหรัฐฯ ทุ่มเงิน 1,500 ล้านดอลลาร์ฯ ซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 จากโมเดอร์นา 100 ล้านโดส
บริษัทโมเดอร์นา อิงค์ และทำเนียบขาว เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ตกลงกับบริษัทโมเดอร์นา อิงค์ของสหรัฐฯ เพื่อซื้อวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ปริมาณ 100 ล้านโดส มูลค่าราว 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ วัคซีนต้านโควิด-19 ของโมเดอร์นา มีราคาต่อโดสอยู่ที่ราว 30.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ประชาชนจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าวจำนวน 2 โดสต่อคน โมเดอร์นา เปิดเผยว่า วัคซีน mRNA-1273 เป็นหนึ่งในวัคซีนต้านโควิด-19เพียงไม่กี่ตัวที่เข้าสู่การทดลองขั้นสุดท้ายแล้ว และการทดลองจะเสร็จภายในเดือนก.ย. แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ หวังให้มีวัคซีนก่อนการเลือกตั้งวันที่ 3 พ.ย. และจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 500 ล้านโดส
ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ทำข้อตกลงกับหลายบริษัทเพื่อซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 จำนวนหลายร้อยล้านโดส เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Operation Warp Speed ที่มีเป้าหมายเพื่อจะเริ่มใช้วัคซีนในสหรัฐฯภายในสิ้นปีนี้
รัสเซีย ตอบโต้ นานาชาติที่ข้องใจประสิทธิภาพของวัคซีนที่ขึ้นทะเบียน
ความกังวลและสงสัยของนานาชาติว่าวัคซีนของรัสเซียชาติแรกที่อนุมัติให้ขึ้นทะเบียนจะมีประสิทธิภาพใช้ได้จริงหรือไม่ หลังจากทำการทดลองกับคนไม่ถึงสองเดือน และยังไม่ทันเริ่มทำการทดลองกับกลุ่มคนจำนวนมาก นายมิคาอิล มูราชโก รัฐมนตรีสาธารณสุขรัสเซีย เปิดเผยว่า วัคซีนต้านไวรัสโคโรนาที่พัฒนาโดยสถาบันกามาเลยาได้รับอนุมัติจากทางการให้ขึ้นทะเบียนใช้เป็นวัคซีนได้ตั้งแต่วันอังคาร พร้อมฉีดให้บรรดาแพทย์ภายใน 2 สัปดาห์ พร้อมตอบโต้ว่า การแสดงความห่วงกังวลของผู้เชี่ยวชาญต่างชาติบางคนต่อกรณีดังกล่าว เป็นการแสดงความคิดเห็นที่ ไม่มีเหตุผลอย่างที่สุด
ด้านนายอเล็กซานเดอร์ กินต์สเบิร์ก ผู้อำนวยการสถาบันกามาเลยา เปิดเผยว่า จะเผยแพร่ผลการทดลองทางคลินิกหลังจากได้รับการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญภายในประเทศแล้ว และรัสเซียมีแผนผลิตวัคซีนเดือนละ 5,000,000 โดส ภายในเดือนธ.ค.ปีนี้ถึงเดือนม.ค.ปีหน้า
เกาหลีใต้ นำร่องติดตั้งป้ายรถเมล์ไฮเทคในกรุงโซล วัดไข้ ฆ่าเชื้อโควิด-19
เกาหลีใต้ เปิดตัวป้ายรถเมล์ไฮเทค สามารถวัดไข้และฆ่าเชื้อให้ผู้โดยสารในรูปแบบเป็นห้องกระจกติดแอร์ เป็นเครื่องมือใหม่ในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 ลักษณะของป้ายรถเมล์ไฮเทค เป็นห้องกระจกนำร่องติดตั้งในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงโซล 10 ป้าย ใช้งบประมาณก่อสร้างป้ายละ 100 ล้านวอน หรือประมาณ 2.63 ล้านบาท สามารถกันแดด กันฝน และกันเชื้อไวรัสโคโรนา ผู้โดยสารต้องยืนหน้ากล้องตรวจวัดไข้อัตโนมัติ ประตูป้ายจะเลื่อนเปิดให้เมื่อมีอุณหภูมิไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส และมีกล้องติดตั้งในระดับต่ำสำหรับเด็ก ข้างในห้องกระจกติดแอร์ มีหลอดไฟอัลตราไวโอเลตหรือยูวี (UV) ฆ่าเชื้อโรค ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อสำหรับมือ และไวไฟฟรี มีจอแสดงผลประมาณการเวลารถเมล์มาถึงและภาพการจราจรด้านนอกป้องกันการตกรถ ผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่รอรถและต้องรักษาระยะห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร
เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบโครงการป้ายรถเมล์อัจฉริยะ เปิดเผยว่า ได้ติดตั้งมาตรการป้องกันไวรัสเท่าที่มีอยู่ทั้งหมดไว้ในป้ายรถเมล์อัจฉริยะ มีผู้โดยสารใช้บริการวันละ 300-400 คนต่อป้าย นับตั้งแต่เริ่มติดตั้งเมื่อสัปดาห์ก่อน แม่บ้านวัย 49 ปีที่ใช้บริการเป็นครั้งแรก เปิดเผยว่า รู้สึกอุ่นใจมากเพราะคนอื่น ๆ ที่รอรถเมล์ด้วยกันผ่านการวัดไข้เหมือนเธอ
รถไฟ ชนกองดิน ทำให้ตกรางในสก็อตแลนด์ เสียชีวิต 3
สก็อตเรล (ScotRail) ผู้ให้บริการรถไฟในสก็อตแลนด์ ยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิต 3 ราย จากเหตุรถไฟตกรางในแอเบอร์ดีนไชร์ สก็อตแลนด์ ผู้เสียชีวิต ได้แก่ พนักงานขับรถไฟ ผู้ควบคุมขบวนรถไฟ และผู้โดยสาร และมีผู้บาดเจ็บ 6 คน ได้รับความช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล
อุบัติเหตุนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 09.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 15.30 น.ตามเวลาในไทย สาเหตุเกิดจากมีฝนตกหนักและฟ้าผ่า ทำให้เกิดน้ำท่วม ดินถล่มลงมาทับรางรถไฟ และทำให้รถไฟของสก็อตเรลที่มาจากแอเบอร์ดีน มุ่งหน้าถนนกลาสโกว์ควีน มาถึงที่เกิดเหตุก็ชนกับกองดินทำให้รถไฟตกราง
ด้านตำรวจรถไฟสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า ได้แจ้งข่าวให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตทราบแล้ว พร้อมจัดส่งเจ้าหน้าที่ประสานงานคอยดูแลให้ความช่วยเหลือ ขณะที่ผู้โดยสารทั้งหมดได้รับความช่วยเหลือออกจากขบวนรถ ผู้ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บออกเดินทางต่อ
ชาวเลบานอน สงบนิ่งไว้อาลัย ครบ 1 สัปดาห์ ระเบิดที่ท่าเรือกรุงเบรุต
ครบ 1 สัปดาห์ นับจากวันที่ 4 ส.ค. เกิดเหตุโกดังเก็บสารแอมโมเนียมไนเตรต ระเบิดที่ท่าเรือกรุงเบรุต ของเลบานอน แรงระเบิดทำให้โกดังและท่าเรือ อาคารบ้านเรือนในกรุงเบรุต พังทลายราบคาบเป็นจำนวนมาก มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 171 ราย บาดเจ็บอีกราว 6,000 คน สูญหายราว 30-40 คน ประชาชน 300,000 คน ไร้ที่อยู่อาศัย เมื่อวานนี้ ชาวเลบานอนจำนวนมากชุมนุมกันใกล้กับบริเวณที่เกิดเหตุระเบิดไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิต ในพิธีรำลึกมีการอ่านรายชื่อผู้เสียชีวิต ขณะที่โบสถ์คริสต์ มีการลั่นระฆัง และตามมัสยิดมีการละหมาดผ่านเครื่องขยายเสียง เพื่อเชิญชวนให้ผู้คนร่วมกันไว้อาลัย ทั้งหมดร่วมกันยืนสงบนิ่ง 1 นาที เมื่อเวลา 18.08 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลาที่เกิดเหตุ
เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นทำให้ประชาชนไม่พอใจอย่างมากเพราะเห็นว่าภัยพิบัติครั้งนี้เป็นผลมาจากปัญหาการทุจริตและการบริหารงานของรัฐบาลที่ผิดพลาดไร้ประสิทธิภาพ ชาวเลบานอนจำนวนมากรวมตัวประท้วงต่อต้านรัฐบาลจนทำให้เกิดเหตุปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่นายกรัฐมนตรีฮัสซัน ดิอับและคณะรัฐมนตรีทั้งหมดตัดสินใจลาออกเมื่อวันจันทร์ เนื่องจาก ทนแรงกดดันไม่ไหว แต่ในระหว่างนี้ยังทำหน้าที่รัฐบาลรักษาการจนกว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ขณะที่ทางการยังไม่สรุปชี้ชัดสาเหตุระเบิด
สื่อสหรัฐฯ มั่นใจ “กมลา แฮร์ริส” เป็นนักสู้ เหมาะสมแล้วที่ได้รับเลือกเป็นคู่ชิงรองปธน.
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส รายงานว่า สาเหตุที่นายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครต ตัดสินใจเลือกนางกมลา แฮร์ริส สว.จากรัฐแคลิฟอร์เนีย ให้เป็นคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เนื่องจาก นายไบเดน เป็นรองประธานาธิบดีสหรัฐฯถึง 2 สมัยในสมัยที่นายบารัค โอบามา เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ จึงมีความคาดหวังว่า นางแฮร์ริส จะดึงคะแนนเสียงจากชาวแอฟริกันอเมริกันได้
นางแฮร์ริส มีแม่เป็นชาวอินเดียและพ่อเป็นชาวจาไมกา ได้รับเลือกให้เป็นคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครต และเป็นผู้หญิงคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกันที่ได้รับการเสนอชื่อจาก 2 พรรคการเมืองใหญ่สหรัฐฯในการลงชิงตำแหน่งการเมืองสูงสุดของประเทศ
จุดเด่นของนางแฮร์ริส นอกเหนือจากการที่เธอเป็นผู้หญิงผิวสีแล้ว เธอยังเป็นตัวแทนของความคาดหวังของอเมริกาที่กำลังอยู่ในการเปลี่ยนแปลงก้าวไปสู่ความเท่าเทียมทางโอกาสและความยุติธรรมภายใต้สังคมอเมริกันในปัจจุบันที่มีผู้นำคือนายทรัมป์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่กีดกันเชื้อชาติและเหยียดหยามผู้หญิง เช่น คำสั่งห้ามประเทศมุสลิมเข้าประเทศ การส่งกำลังจากส่วนกลางเข้าปราบปรามผู้ชุมนุมหลังการเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ นายทรัมป์ ยังมีปัญหาอื้อฉาวด้านการละเมิดทางเพศมากมายนับตั้งแต่สมัยหาเสียงเลือกตั้ง
สื่อสหรัฐฯ เชื่อมั่นว่า นางแฮร์ริส จะต่อสู้ในเรื่องดังกล่าวได้ ชื่อของเธออ่านออกเสียงว่า กมลา มีความหมายถึงดอกบัว มีอายุน้อย มีความเป็นคนผิวดำมากกว่าและเป็นนักต่อสู้ที่ไม่ยอมใคร เห็นได้จากการดีเบทลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯรอบแรกที่นางแฮร์ริส โต้คารมกับนายไบเดนในเรื่องที่นายไบเดน เชิดชูการทำงานสมาชิกสภาสูงสหรัฐฯที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพวกนิยมการแบ่งแยกทางเชื้อชาติ
เปิดรายละเอียด ชายที่ถูกหน่วยอารักขายิงด้านนอกทำเนียบขาว
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงผู้ต้องสงสัยชาย ที่บริเวณใกล้กับทำเนียบขาวสหรัฐฯ และทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของประธานาธิบดีต้องคุ้มครองประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ออกจากห้องแถลงข่าว นายทอม ซัลลิแวน หัวหน้าหน่วยอารักขาประธานาธิบดี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ของหน่วยอารักขาพบผู้ต้องสงสัย คือ นายไมรอน บาซิล เบอร์รีแมน อายุ 51 ปี จากฟอเรสต์วิลล์ รัฐแมริแลนด์ ในช่วงก่อน 18.00 น.ของวันจันทร์ หรือช่วงเช้าวันอังคารตามเวลาในไทย บริเวณหัวมุมถนนสาย 17 กับเพนซิลเวเนียอเวนิว ห่างจากทำเนียบขาวไม่กี่บล็อก
นายเบอร์รีแมน บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า มีอาวุธปืนและขู่ว่าจะฆ่าทุกคนที่อยู่บริเวณนั้น จากนั้นก็วิ่งตรงเข้ามาหาเจ้าหน้าที่และขยับตัวคล้ายกับจะหยิบอาวุธออกมาจากเสื้อ ทำให้ถูกเจ้าหน้าที่ยิงสวน 1 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส และถูกตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่ไม่พบอาวุธปืนตามที่เขากล่าวอ้างและกำลังมีการสอบสวนหาสาเหตุ รวมถึงการตรวจสอบว่าเขามีประวัติป่วยทางจิตหรือไม่