ผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันนี้ พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบให้ กระทรวงการต่างประเทศ ทำสัตยาบรรณ อนุสัญญาความร่วมมือการต่อต้านการก่อการร้ายสากล การก่ออาชญากรรมข้ามชาติ และการต่อต้านยาเสพติด เนื่องจาก หลายประเทศกังวลว่า จะมีการขยายตัวของกลุ่มก่อการร้ายสากล การก่ออาชญากรรมข้ามชาติ และยาเสพติด ซึ่งในเรื่องนี้ ถือเป็นเรื่องที่ผ่านการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแลัวว่ามีความสอดคล้องกับกฏหมายไทยตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามผู้มีส่วนร่วมมาตรการการก่ออาชญากรรมข้ามชาติ ปี 2557 และสอดคล้องกับอนุสัญญาขององค์การสหประชาชาติอีกด้วย
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการเห็นชอบให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดำเนินการจัดระเบียบมัคคุเทศก์ หรือ ไกด์ หลังพบว่า รูปแบบการเข้ามาไกด์เถื่อนชาวต่างชาติ แบ่งเป็น2แบบ คือ ไกด์เถื่อนที่เข้ามาเป็นผู้นำเที่ยวกับบริษัททัวร์ก่อนจากนั้นเปลี่ยนมาประกอบอาชีพไกด์แทน กับ น.ศ.ต่างชาติที่เข้ามาศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยไทย และมาหาอาชีพเสริมเป็นไกด์
ทั้ง2รูปแบบ เป็นการทำผิดกฏพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 และทำให้ไกด์ไทยได้รับความเดือดร้อน เพราะ ไกด์เถื่อนมีความสามารถด้านภาษามากกว่าไกด์ไทย รวมถึง การที่ไกด์เถื่อนเข้ามาทำหน้าที่นำเที่ยวให้กับชาวต่างชาติในพื้นที่ต่างๆ ยังส่วผลกระทบต่างภาพลักษณ์งประเทศด้วย เนื่องจาก ขาดความเข้าใจประวัติศาสตร์
เบื้องต้นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ กำหนด มาตราการะยะสั้น ในการดูแล โดยจะสั่งการให้ บริษัทนำเที่ยวจัดทำใบสั่งงานไกด์ไทยทุกครั้งที่มีการทำงาน พร้อมทั้งจะตั้งจุดตรวจใบสั่งงานไกด์ไทยแต่ละบริษัท / ให้ไกด์ไทยเข้าจดทะเบียนรายงานตัวเพื่อตรวจสอบจำนวนไกด์ /และสั่งการให้ จนท.สุ่มตรวจบริษัทนำทัวร์ตามสถานที่ท่องเที่ยว
ส่วนมาตราการระยะกลาง จะจัดทำหลักสูตรไกด์ให้มีคุณภาพ โดยเฉพาะด้านภาษา และใน ระยะยาว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเร่งผลิตไกด์ ที่มีคุณภาพ และปรับปรุงกฏหมาย.ไกด์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น