ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น.วันพุธที่ 12 สิงหาคม 2563

12 สิงหาคม 2563, 13:06น.



ราคาทองในประเทศปรับขึ้น-ลง กว่า 10 ครั้ง




          หลังจากรัสเซีย ประกาศความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ทำให้ราคาทองคำในประเทศไทย ปรับตัวขึ้นลงช่วงเช้า 13  ครั้ง ทำให้ราคาทองคำในประเทศไทยภาพรวม ลดลง 1,550 บาท รายงานข่าวจากสมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาครั้งที่ 13 เมื่อเวลา 12.22 น. เพิ่มขึ้น 50 บาท



-ราคาทองคำรูปพรรณ ขายออกบาทละ 28,150บาท รับซื้อบาทละ 27,060.60 บาท



-ราคาทองคำแท่ง ขายออกบาทละ 27,650 บาท รับซื้อบาทละ 27,550 บาท



ปัจจัยหนึ่งมาจากราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ปิดตลาดเมื่อคืนนี้ ร่วงลง 93.4 ดอลลาร์สหรัฐฯ สู่ระดับ 1,946.3 ดอลลาร์สหรัฐฯ ทำสถิติร่วงลงวันเดียวรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 7 ปี เนื่องมาจากแรงเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย หลังมีข่าวว่ารัสเซียประสบความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 และจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในสหรัฐฯชะลอตัวลงแล้ว



ภาคเอกชน ย้ำขอให้รมว.คลังหามาตรการช่วย SMEs



          นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ได้มีการหารือเบื้องต้นกับนายปรีดี ดาวฉาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแล้ว เกี่ยวกับทิศทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจในมุมมองของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยหวังว่า แนวทางหรือมาตรการที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งอะไรที่ดีอยู่แล้วขอให้ทำต่อเนื่องต่อไป  ขณะเดียวกัน คณะกรรมการร่วมสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย หรือ กกร. กำลังรวบรวมประเด็น เพื่อที่จะนำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในภาพรวม โดยเฉพาะเรื่องการช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม( SMEs) ในภาคธุรกิจบริการที่กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19



นายกฯ เผยได้รับข้อมูลคดี ‘บอส อยู่วิทยา’ เป็นระยะ



          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน กรณีคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ที่มีนายวิชา มหาคุณ เป็นประธานได้ส่งรายงานข้อเท็จจริงการตรวจสอบคดีให้รับทราบเป็นระยะ แต่ปฏิเสธตอบคำถามว่ามีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง




นิวซีแลนด์ เร่งหาต้นตอสาเหตุติดเชื้อครั้งใหม่ อาจมาจากสินค้านำเข้า



          เจ้าหน้าที่นิวซีแลนด์กำลังสอบสวนความเป็นไปได้ว่า ผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แบบเป็นกลุ่มก้อนใหม่ในรอบกว่า 3 เดือน อาจมีที่มาจากสินค้านำเข้าที่ทำให้นิวซีแลนด์ทำให้ต้องกลับมาใช้มาตรการปิดเมืองหรือล็อกดาวน์อีกครั้งตั้งแต่วันนี้เป็นระยะเวลา 72 ชั่วโมง



          นายแอชลีย์ บลูมฟิลด์ อธิบดีสาธารณสุขนิวซีแลนด์ แถลงข่าวที่มีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ว่าเจ้าหน้าที่กำลังหาทางประติดประต่อว่าสมาชิก 4 คนในครอบครัวหนึ่งของเมืองโอ๊คแลนด์ติดเชื้อโรคโควิด-19 ได้อย่างไร หลังจากทางการมั่นใจว่าไม่มีการติดเชื้อในชุมชนมานาน 102 วัน และครอบครัวนี้ไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ การสอบสวนมุ่งไปที่ความเป็นไปได้ว่าเชื้อไวรัสโคโรนา อาจมากับสินค้านำเข้า เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบพื้นผิวของห้องเย็นในเมืองโอ๊คแลนด์ที่สมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวนี้ทำงานอยู่ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าเชื้อไวรัสสามารถมีชีวิตอยู่ในสภาพอากาศเย็นได้เป็นระยะเวลาหนึ่ง



          เมื่อวานนี้นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์นของนิวซีแลนด์ได้สั่งจำกัดการเดินทางในเมืองโอ๊คแลนด์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศโดยทันที และจำกัดการเดินทางภายในประเทศด้วย โดยยกระดับการจำกัดในเมืองโอ๊คแลนด์เป็นระดับสาม คือให้คนอยู่บ้าน ให้เดินทางเฉพาะที่จำเป็น ส่วนทั้งประเทศเป็นระดับสองที่เข้มงวดน้อยกว่า เบื้องต้นจะมีผลตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันศุกร์ และขอให้ประชาชนช่วยดูแลกันและกัน นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ยังได้ชะลอการยุบสภาไปเป็นวันจันทร์หน้า และยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลื่อนการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 19 ก.ย.หรือไม่ เพราะมีเวลาจนถึงวันที่ 21 พ.ย.



          ด้านจีน เคยแจ้งพบเชื้อไวรัสโคโรนา บนบรรจุภัณฑ์อาหารทะเลแช่เย็นนำเข้าหลายครั้ง ล่าสุดเมืองเยี่ยนไถ มณฑลซานตง ริมทะเลจีนตะวันออกแจ้งเมื่อวานนี้ว่า พบเชื้อบนบรรจุภัณฑ์อาหารทะเลนำเข้าที่ส่งมาจากเมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ทางตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ไม่ได้ระบุที่มาของสินค้า เมืองต้าเหลียนพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นเมื่อไม่นานมานี้



โจ ไบเดน เลือก "กมลา แฮร์ริส" ลงสมัครเป็นรองผู้นำสหรัฐฯ



          นายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2 สมัย และตัวแทนของพรรคเดโมแครต ในการลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ที่จะมีการลงคะแนนในวันที่ 3 พ.ย.นี้ เลือกนางกมลา แฮร์ริส สตรีผิวสีและชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียคนแรก วุฒิสมาชิกรัฐแคลิฟอร์เนีย ให้ลงสมัครคู่กันในตำแหน่งรองประธานาธิบดี นายไบเดน ยืนยันว่า นางแฮร์ริส คือ บุคคลเหมาะสมที่จะร่วมมือกับเขา เพื่อฟื้นฟูความเป็นหนึ่งเดียวให้กับสหรัฐฯ ขณะที่นางแฮร์ริส กล่าวว่าเธอรู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้รับการคัดเลือก โดยทั้งคู่จะขึ้นเวทีหาเสียงร่วมกันครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ที่เมืองวิลมิงตัน ในรัฐเดลาแวร์ ซึ่งเป็นฐานเสียงของนายไบเดน และเป็นบ้านเกิดของนายไบเดน ในวันพุธที่ 12 ส.ค.นี้ตามเวลาท้องถิ่น



          รายงานระบุว่า คะแนนโหวตจากชาวอเมริกันผิวสี มีความจำเป็นอย่างมากหากนายไบเดน ต้องการที่จะเอาชนะนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ในรัฐสำคัญ เช่น มิชิแกน เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน ซึ่งผู้นำสหรัฐฯ เคยชนะอย่างฉิวเฉียดเมื่อปี 2016 รวมถึงในรัฐทางใต้อย่างจอร์เจียและฟลอริดา ซึ่งผลสำรวจความคิดเห็นส่วนใหญ่ ชี้ว่า จะเป็นสนามแข่งขันที่ดุเดือดในปีนี้



          การเลือกคู่ชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯนับว่ามีความสำคัญเป็นพิเศษสำหรับนายไบเดน ซึ่งจะเป็นประธานาธิบดีอายุมากที่สุดของสหรัฐฯ หากชนะเลือกตั้ง และด้วยวัย 77 ปีทำให้หลายคนเชื่อว่านายไบเดน น่าจะดำรงตำแหน่งอยู่ได้ไม่เกิน 1 สมัย และนางแฮร์ริส อาจกลายเป็นตัวเต็งที่ได้รับการเสนอชื่อชิงประธานาธิบดีในปี 2024



          ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ วิจารณ์การที่นายไบเดนเลือกนางแฮร์ริสว่า เหนือความคาดหมาย เพราะเธอมีผลงานแย่มากในช่วงแคมเปญไพรมารีของพรรคเดโมแครต เนื่องจากนางแฮร์ริส เคยพูดจาดูหมิ่นนายไบเดน หลายครั้งระหว่างการอภิปรายในศึกเลือกตั้งไพรมารี




 

ข่าวทั้งหมด

X