ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันอังคารที่ 11 สิงหาคม 2563

11 สิงหาคม 2563, 18:43น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันอังคารที่ 11  สิงหาคม 2563  



นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีใหม่ถวายสัตย์ปฏิญาณเช้าพรุ่งนี้ (12ส.ค.)



          รายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในวันพรุ่งนี้ นายกรัฐมนตรีนำคณะรัฐมนตรีที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ได้มีการนัดหมายบรรดารัฐมนตรีใหม่ในรัฐบาล“ประยุทธ์ 2/2”ให้มารวมตัวกันในวันที่ 12 ส.ค. เวลา 07.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อถ่ายรูปทำบัตรคณะรัฐมนตรี (ครม.) พร้อมโดยสารรถตู้เพื่อเดินทางไปยังพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ในการเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่



          จากนั้นในวันที่ 13 ส.ค. เวลา 08.00 น. ครม.ทั้งหมดร่วมถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึกบริเวณสนามหญ้า หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ก่อนที่จะมีการประชุมครม.“ประยุทธ์ 2/2”นัดแรก ที่ห้องประชุม ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 ในเวลา 09.00 น.

          สำหรับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน และนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้จัดสรรห้องทำงานบนตึกบัญชาการ 1 เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่มีการขนของเข้าห้องทำงาน โดยนายดอนใช้ห้องทำงานที่ชั้น 1 ซึ่งเคยเป็นห้องของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ ขณะที่นายสุพัฒนพงษ์ ใช้ห้องทำงานเดิมของนายเทวัญ ลิปตพัลลภ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ชั้น 2 ด้านนายอนุชา ใช้ห้องทำงานบนชั้น 2 เช่นกัน ซึ่งเคยเป็นห้องทำงานของนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี



เนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด ลาออก ย้ำบริสุทธิ์ใจสั่งไม่ฟ้องคดีบอส อสส.ตั้งคณะทำงานสอบ



          หลังเป็นประเด็นการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการสั่งคดีของอัยการ กรณีนายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ซึ่งลงนามโดยนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด  ล่าสุด สำนักงานอัยการสูงสุด ได้แถลงผ่านเอกสาร ระบุว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วน จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบความเห็นและคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ  เพื่อตรวจสอบความเห็นและคำสั่งไม่ฟ้องของนายเนตรว่า การรับฟังพยานหลักฐานเป็นไปตามหลักกฎหมาย ชอบด้วยเหตุผลและใช้ความระมัดระวัง ละเอียดรอบคอบหรือไม่เพียงใด แล้วเสนอรายงานผลการตรวจสอบ พร้อมความเห็นต่ออัยการสูงสุดเพื่อประกอบการพิจารณา สำหรับคณะทำงานประกอบด้วย



-นายสมศักดิ์ บุญทอง อดีตรองอัยการสูงสุด              เป็นหัวหน้าคณะทำงาน



-พลเอกประชาพัฒน์ วัจนะรัตน์ เจ้ากรมพระธรรมนูญ



-พลโทกิตติยุทธ กิตติยุทธโยธิน หัวหน้าสำนักงานตุลาการศาลทหาร และตุลาการพระธรรมนูญหัวหน้าศาลทหารสูงสุด



-นายวัยวุฒิ หล่อตระกูล อดีตรองอัยการสูงสุด



-นายถาวร พาณิชพันธ์ อดีตรองอัยการสูงสุด 



-หม่อมหลวงศุภกิตต์ จรูญโรจน์ และ



-ร้อยตำรวจเอกสกลกริช ฤทธิ์เดช



          สำหรับนายเนตร ได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการต่ออัยการสูงสุด เพื่อแสดงความบริสุทธ์ใจและเป็นการแสดงสปิริต แก่องค์กรอัยการ และต้องการให้ทุกคนในสังคมเกิดความสบายใจ โดยยืนยันว่า การสั่งคดีนี้ได้พิจารณาจากข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวนและตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย



           นายเนตร นาคสุข จบการศึกษานิติศาสตร์บัณฑิต เกียรตินิยมอันดับสองจากจุฬาฯ และเนติบัณฑิตไทย ผ่านตำแหน่งสำคัญมา อาทิ อัยการจังหวัดน่าน,อัยการจังหวัดพิจิตร , รองอธิบดีอัยการภาค 6 , อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปกครองเชียงใหม่ ขึ้นเป็นอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูง จากนั้นเป็นรองอัยการสูงสุด

          นอกจากนี้ยังเป็นบุคคลเดียวกับที่ลงนามคำสั่งชี้ขาดไม่อุทธรณ์คดีหมายเลขดำที่ อท.245/2561 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายพานทองแท้ ชินวัตร ข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 5 , 9 , 60 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2558 มาตรา 10 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ,91 ในคดีร่วมกันฟอกเงิน ปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทยให้กับกฤษดามหานคร จำนวน 10 ล้านบาท



รองผกก.สน.ทองหล่อ พร้อมสอบพยานเพิ่มคดีบอส อยู่วิทยา



          คณะทำงานของอัยการสูงสุด สั่งให้พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ สอบปากคำเพิ่มเติม ประเด็น​สารเสพติด (โคเคน)​และความเร็วรถยนต์ของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส  คดีขับรถชนตำรวจจราจร สน.ทองหล่อ เสียชีวิต เมื่อปี 2555  พันตำรวจโทธนาวุฒิ สงวนสุข รองผู้กำกับการ หัวหน้างานสอบสวน สน.ทองหล่อ ระบุว่า จนถึงขณะนี้ ยังไม่เห็นคำสั่งอย่างเป็น ทางการจากทางอัยการ โดยอาจส่งหนังสือไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือกองบังคับการ ตำรวจนครบาล 5 ซึ่งเป็นไปตามลำดับชั้นก็อาจเป็นได้  ก่อนส่งมาให้พนักงานสอบสวนสน. ทองหล่อ



          โดยขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว โดยจัดพนักงานสอบสวนไว้จำนวน 5  นาย รองรับการสอบพยานเพิ่มเติมในประเด็นที่อัยการสั่ง เพื่อให้ทันกำหนด 20 สิงหาคม แต่หากไม่ทันก็จะขอเลื่อนส่งผลการสอบเพิ่มออกไปอีก 3 – 7 วัน ทั้งหมดขึ้นอยู่กับพยานว่า  จะเข้ามาให้ปากคำได้เร็วแค่ไหน รวมถึงประเด็นที่อัยการต้องการให้สอบเพิ่มด้วย สำหรับหนังสือคำสั่งให้สอบปากคำเพิ่มเติมของอัยการคาดจะถึงมือพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ  1-2 วันนี้



ดีเอสไอส่งสำนวนคดีฆ่าบิลลี่ พอละจี ให้อัยการสูงสุดพิจารณา หลังเห็นแย้งกรณีอัยการสั่งไม่ฟ้องชัยวัฒน์กับพวก



          หลังสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 สำนักงานคดีพิเศษ ได้มีหนังสือลงวันที่ 23 มกราคม 2563 สั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดในคดีการหายตัวไปของนายพอละจี หรือบิลลี่ รักจงเจริญ แกนนำชุมชนกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี หลังถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจับกุมในความผิดอาญา กรณีนำน้ำผึ้ง ซึ่งเป็นของป่าออกจากเขตอุทยานแห่งชาติฯ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557 พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ตรวจพิจารณาพยานหลักฐานในสำนวนการสอบสวน ทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานวัตถุ และโดยเฉพาะพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ประกอบความเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่ปรากฏในสำนวนการสอบสวน กับความเห็นของพนักงานอัยการที่ประกอบการออกคำสั่งไม่ฟ้องแล้ว เห็นว่ายังมิอาจเห็นพ้องด้วยกับคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษจึงให้ส่งความเห็นพร้อมสำนวนการสอบสวนไปยังอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาตามกฎหมายต่อไปสำหรับ 4 ผู้ต้องหา คือ



(1) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร



(2) นายบุญแทน บุษราคัม



(3) นายธนเสฏฐ์ หรือไพฑูรย์ แช่มเทศ



และ (4) นายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ เป็นผู้ต้องหาที่ (1) – (4) ในความผิดฐาน



-ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแก่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่นเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้



-ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใด ๆ ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย



-เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบข่มขืนใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเอง



-เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต



-เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และความผิดฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง



          โดยอัยการออกคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ (1) - (3) เฉพาะความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต



          และออกคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ (4) เฉพาะความผิดฐานสนับสนุนตามข้อกล่าวหาดังกล่าว เท่านั้น



อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยผลตรวจชายไทยกลับไปญี่ปุ่น ไม่ได้ติดเชื้อโควิด-19



          หลังมีผู้เดินทางจากไทยไปญี่ปุ่น ตรวจพบการติดเชื้อโควิด-19 นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า หลังจากได้รับรายงานในเรื่องดังกล่าวแล้ว กรมควบคุมโรคได้ประสานไปยังจุดประสานงานกฎอนามัยระหว่างประเทศ (IHR national focal point) ของประเทศญี่ปุ่นทันทีเพื่อสอบสวนโรคตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม และติดตามบุคคลรายดังกล่าวแล้ว พบว่า มี 2 เหตุการณ์ ดังนี้



-รายแรกเป็นเพศชาย สัญชาติไทย อายุ 24 ปี เดินทางไปทำงานก่อสร้างที่ญี่ปุ่น โดยกลับมาไทยเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 63 เข้ารับการกักตัวที่สถานที่กักกันที่ราชการกำหนด จนถึงวันที่ 21 ก.ค. 63 ได้รับการหาเชื้อฯ จำนวน 2 ครั้ง ไม่พบเชื้อทั้งสองครั้ง หลังจากนั้นเดินทางกลับบ้านที่ จ.เชียงราย ซึ่งพักอยู่บ้านกับมารดาเพียง 2 คน ไม่ได้เดินทางไปไหน



-และในวันที่ 29 ก.ค. 63 ไปเกณฑ์ทหารโดยปฏิบัติตัวในการป้องกันโรคโควิดอย่างเคร่งครัด ต่อมาได้เดินทางไปญี่ปุ่นอีกครั้งเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 63 ถึงท่าอากาศยานนานาชาติฮาเนดะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 1 ส.ค. 63 ได้รับการเก็บน้ำลายส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ผลเป็นบวก และถูกส่งเข้าสถานที่กักตัวของรัฐ



          หลังทราบผลได้แจ้งให้มารดาที่จ.เชียงรายทราบ มารดาจึงไปรับการตรวจที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน โดยมีการเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ผลไม่พบเชื้อ ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย มีการติดตามผู้สัมผัสที่เป็นเพื่อน 3 คน และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 28 คน รวมทั้งสิ้น 32 ราย (รวมมารดา) ผลไม่พบเชื้อทั้งหมด



-และในวันที่ 8 ส.ค. 63 ได้แจ้งมาทางมารดาว่า โรงพยาบาลในญี่ปุ่นตรวจซ้ำอีก 2 ครั้งหลังกักกัน 7 วัน ผลตรวจเป็นลบทั้งสองครั้ง และอนุญาตให้ออกจากสถานที่กักกัน  ดังนั้น สรุปได้ว่ารายนี้ จากผลตรวจครั้งที่สองเป็นลบ ได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน และการตรวจผู้สัมผัสใกล้ชิดก็ไม่พบการติดเชื้อเช่นเดียวกัน จึงไม่น่าใช่ผู้ติดเชื้อโควิด 19



-รายที่สอง เป็นเพศชาย สัญชาติญี่ปุ่น อายุ 47 ปี เดินทางจากไทยเมื่อวันที่ 8 ส.ค. 63 ได้รับการตรวจน้ำลายหาเชื้อที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮาเนดะ ผลโควิด 19 เป็นบวก รายนี้ได้ประสานงานผ่านกลไกกฎอนามัยระหว่างประเทศ อยู่ระหว่างรอรายละเอียดการอาศัยและผู้สัมผัสที่อยู่ในไทย อีกทั้งได้ประสานสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร เพื่อตรวจสอบที่อยู่และค้นหาผู้สัมผัส ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการเช่นเดียวกัน และเมื่อได้รับข้อมูลแล้ว จะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบต่อไป



           สำหรับวิธีการตรวจที่สนามบินในญี่ปุ่นที่ใช้กับผู้เดินทางทั้ง 2 รายนี้ เป็นวิธีใหม่ เริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 63 คือวิธี CLEIA (ChemiLuminescent Enzyme ImmunoAssay) โดยตรวจหาเชื้อจากตัวอย่างน้ำลาย ซึ่งเป็นวิธีการตรวจที่องค์การอนามัยโลกยังไม่ได้รับรอง ทั้งนี้ ประเทศไทยยังใช้วิธีการตรวจหาเชื้อจากโพรงจมูกด้วยวิธี RT PCR ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐานในการวินิจฉัยผู้ติดเชื้อโควิด 19



 นายกฯเห็นชอบ ทดลองเปิดเรียนเต็มรูปแบบ เริ่ม 13 ส.ค.นี้



          การกลับมาเปิดการเรียนการสอนตามปกติ หลังการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 หรือ โควิด-19  ล่าสุด  นายสนิท แย้มเกษร รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ ศธ 04005/ว1093 ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2563 แจ้งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ผอ.สพท.) ทุกเขต เรื่อง การทดลองเปิดเรียนแบบ On-site ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เต็มรูปแบบทั่วประเทศ  



          โดยการทดลองเปิดเรียนแบบ On-site ของสถานศึกษาเต็มรูปแบบ แต่นักเรียนจะต้องจดบันทึกการเดินทางไปสถานที่ต่าง ๆ หลังเลิกเรียน เพื่อเป็นมาตรการในการติดตาม นักเรียนหากมีการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวในสถานศึกษา และสถานศึกษาจะต้องปรับ การจัดการเรียนการสอนโดยเน้นการจัดกิจกรรมนอกห้องเรียน เพื่อใช้ห้องเรียนให้น้อยที่สุด



          ซึ่งการทดลองครั้งนี้ได้รับอนุมัติจากนายกรัฐมนตรี และสามารถทดลองเปิดเรียน  แบบ On-site เต็มรูปแบบทั่วประเทศได้ ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป



นักเรียน 91 คนของโรงเรียนมัธยมศึกษาเมืองมะสึเอะ ติดโรคโควิด-19



          นายนาโอกิ กิตามุระ ครูใหญ่ของโรงเรียนมัธยมศึกษาริสโช โชนัน (Rissho Shonan) ในเมืองมะสึเอะ จังหวัดชิมะเนะ ญี่ปุ่น แสดงความเสียใจต่อชาวญี่ปุ่น กรณีนักเรียน 91 คนของโรงเรียนติดโรคโควิด-19 ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา  เป็นการแพร่ระบาดในทีมนักฟุตบอลชายของโรงเรียน เป็นหนึ่งในทีมฟุตบอลระดับมัธยมศึกษาที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ในจำนวนนี้ มีนักฟุตบอล 82 คนพักอยู่ในหอพักเดียวกันและทั้งหมดไม่มีอาการป่วยหรือมีอาการป่วยเพียงเล็กน้อย



         สำหรับโรงเรียนดังกล่าวมีนักเรียน คณะครูและเจ้าหน้าที่รวม 350 คน จากการสอบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ ทราบว่าก่อนหน้านี้มีชายวัย 70 ปีเศษมาเยี่ยมหอพักของโรงเรียน และทราบว่ามีสมาชิก 3 คน ในครอบครัวของชายคนดังกล่าวติดโรคโควิด-19

         เมื่อปลายเดือน ก.ค. ทีมฟุตบอลชายของโรงเรียนได้เดินทางไปฝึกซ้อมกับทีมฟุตบอลของโรงเรียนในจังหวัดอื่นๆ เช่น โอซากา,ทตโตะริ,และจังหวัดคางาวะ ทำให้หลายฝ่าย กังวลว่าอาจจะมีการแพร่เชื้อในหมู่นักฟุตบอลอีกหลายคน



         ด้านเทศบาลเมืองมะสึเอะ อยู่ระหว่างสอบสวนว่ามีนักฟุตบอลและผู้ฝึกสอนจากสโมสรใดบ้างที่เข้าร่วมแข่งขันในรายการต่างๆกับทีมฟุตบอลของโรงเรียนมัธยมศึกษาริสโช โชนัน เพื่อช่วยติดตามเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงต่อไป



        ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมีผู้ป่วยสะสม 49,843 คน เสียชีวิต1,052 ราย



หุ้นไทยบวกได้ 14 จุด



          ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,336.84 จุด เพิ่มขึ้น 14.83 จุด  มูลค่าการซื้อขาย 71,983.87 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้ดีมาก จากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐฯที่น่าจะได้ข้อสรุปในเร็ววันนี้ ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกที่ผ่อนคลายมากขึ้น หลังจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ชะลอตัวลง รวมถึงจะมีการทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 ในเฟส 3 ของหลายบริษัทในเร็ว ๆ นี้



        ขณะเดียวกันปัจจัยในประเทศ ในด้านของการชุมนุมทางการเมือง ตลาดมองสัญญาณมีทิศทางผ่อนคลาย หลังจากที่นายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่ารัฐบาลไม่ได้ปิดกั้นความคิดของคนรุ่นใหม่ พร้อมที่จะรับฟังและแก้ปัญหาเพื่อขับเคลื่อนประเทศ



          ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดทะยานขึ้นกว่า 400 จุดในวันนี้ ขานรับความหวังที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะฟื้นตัวจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 หลังจากผู้นำสหรัฐฯลงนามในคำสั่งขยายความช่วยเหลือแก่ชาวอเมริกัน ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ดัชนีนิกเกอิปิดที่ 22,750.24 จุด เพิ่มขึ้น 420.30 จุด



          ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดดีดตัวขึ้นกว่าร้อยละ 2  จากสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ดัชนีฮั่งเส็ง ปิดวันนี้ที่ 24,890.68 จุด เพิ่มขึ้น 513.25 จุด



 

ข่าวทั้งหมด

X