นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยกับสถานีวิทยุจส.100ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ชุดเล็กได้มีมติให้ผ่อนคลายการควบคุมการจำหน่ายและการกระจายหน้ากากอนามัยภายในประเทศไทย แต่ยังคงเป็นสินค้าควบคุมอยู่ โดยทุกโรงงานจะต้องยอมรับเงื่อนไขและพร้อมกลับมาส่งหน้ากากอนามัยให้กับรัฐบาลกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปและต้องจำหน่ายในราคาชิ้นละไม่เกิน2.50บาท
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้รับซื้อหน้ากากอนามัยทั้งหมดเพื่อกระจายให้สถานพยาบาลและกระทรวงมหาดไทย แต่ก็ยังมีส่วนเกินจำนวนหนึ่งจึงได้กระจายให้กับกระทรวงศึกษาธิการ สำหรับแจกช่วงเปิดเทอม 200,000 ชิ้นต่อวันแต่ก็ยังมีปริมาณส่วนเกินเหลืออีกซึ่งเห็นว่าควรจะนำมากระจายให้กับประชาชน
ปัจจุบันมีโรงงานที่ผลิตหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ในประเทศมี 27 โรงงาน จากเดิมมีเพียง 9 ราย กำลังการผลิต 4.7 ล้านชิ้นต่อวันจากเดิมเมื่อเริ่มแรกมีกำลังการผลิตได้ 1.2 ล้านชิ้นต่อวัน
นอกจากนั้น กรมการค้าภายในยังคงใช้มาตรการดูแลการส่งออก โดยผู้ประกอบการที่ต้องการส่งออกหน้ากากอนามัยจำเป็นต้องขออนุญาตทางคณะทำงานทางกรมการค้าภายใน ซึ่งต้องมีรายละเอียดของการอนุญาต จำนวน ปริมาณ ชนิดของหน้ากากอนามัยเพื่อการส่งออกและการกระจายหน้ากากอนามัยในประเทศ ปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของคณะอนุกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ที่มีปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน