ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น.วันอังคารที่ 11 สิงหาคม 2563

ปธ.สภาฯ สั่งขยายผลข้อร้องเรียนเรื่องตบทรัพย์ การพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ 2564

          นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง กรณีมีข้อร้องเรียนว่าการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 เรียกรับเงินหรือตบทรัพย์และตั้งงบประมาณเกินจริงเพื่อหักค่าหัวคิวว่า ในส่วนของสภาฯ มอบหมายให้คณะกรรมาธิการ(กมธ.)กิจการสภา สภาผู้แทนราษฎร รับเรื่องไปพิจารณา เพราะเป็นหน้าที่โดยตรง แต่เห็นว่ามีหน่วยงานภายนอกคือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)เป็นผู้พิจารณาตรวจสอบ หากพบว่ามีการกระทำดังกล่าวจริงก็ต้องดำเนินการเอาผิด ทั้งนี้ได้สั่งการให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการสอบสวนเรื่องนี้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

          ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า สมมติว่ามีการยืนยันข้อมูลชัดเจน ถ้าอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล พูดแล้วก็คงจะยืนยันได้ ปัญหาคือเขาไม่ได้ระบุว่าคือใครจึงต้องสอบให้ชัดเจนว่าคือใคร ดังนั้น กมธ.กิจการสภาฯก็ต้องดูว่าเขาสามารถหาข้อมูลได้เพียงใดและรายงานให้สภาฯทราบ

          กรณีนี้ถูกวิจารณ์ว่าทำกันเป็นกระบวนการ นายชวน กล่าวว่า ไม่รู้รายละเอียดลึกขนาดนั้น แต่ส่วนตัวคิดว่าหากข้าราชการผู้ใหญ่กล้าออกมาพูด ก็ควรจะขยายผลออกไปว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร เพื่อจะสามารถสกัดพฤติกรรมของคนเหล่านี้ได้และตนมองว่าเป็นเรื่องของตัวบุคคล ไม่ใช่ตัวระบบ หรือสมาชิกทั้งหมด จึงต้องให้โอกาสคนส่วนใหญ่ด้วย อย่าเหมารวมว่า ส.ส.ทั้งหมดเป็นเช่นนั้น และคิดว่าหากอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลยอมเปิดเผยว่าเป็นใคร และป.ป.ช.ดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจังก็จะเป็นประโยชน์

แฟ้มภาพ

สน.ทองหล่อ พร้อมสอบ 2 ประเด็น คดี ‘บอส’ แต่อาจไม่ทัน 20 ส.ค.

          หลังจากเมื่อวานนี้ อัยการสูงสุด ตั้งโต๊ะแถลง ให้ตำรวจ สน.ทองหล่อ สอบเพิ่มประเด็นที่นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ขับรถเร็วเท่าใด และตั้งข้อหาเสพโคเคน โดยให้ส่งผลการสอบสวนกลับมาในวันที่ 20 ส.ค. ทั้งประเด็นการใช้ความเร็ว ที่อัยการระบุให้สอบอาจาร์ยสธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รวมถึงการตั้งข้อหาเสพโคเคน

          พ.ต.ท.ธนาวุฒิ สงวนสุข รองผู้กำกับการสอบสวน สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า  สน.ทองหล่อ พร้อมให้ความร่วมมือ เบื้องต้นเตรียมพนักงานสอบสวน ที่จะดำเนินการตามคำสั่งของอัยการ ทำงานในรูปแบบคณะกรรมการอย่างน้อย 5 คน เพื่อสอบสวนทุกประเด็นของอัยการ แต่จนถึงขณะนี้ สน.ทองหล่อ ยังไม่ได้รับเอกสารการสั่งสอบเพิ่มเติมจากอัยการ ซึ่งจะต้องรอดูรายละเอียดอีกครั้ง ส่วนพนักงานสอบสวนหรือทีมทำคดีอาจต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด เพราะผ่านมากว่า 8 ปี หลายคนย้ายออกไปหมดแล้ว  ซึ่งการกำหนดให้ส่งสำนวนการสอบสวนภายในวันที่ 20 ส.ค.นี้ หากดำเนินการไม่ทัน ก็สามารถขอขยายเวลาได้ เพราะเอกสารคำสั่งยังมาไม่ถึง จึงไม่ทราบรายละเอียดที่อัยการต้องการ

แชร์กันว่อน! ‘นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม’ เมาแล้วขับชน จยย. เมื่อก.พ.62  

          รายงานระบุว่า เมื่อวันที่ 24 เม.ย.2563 มีการเเชร์เอกสารในคดีที่ พ.ต.อ.ศิวัช ศรีวิชัย ผกก.สน.บางกรวยได้ส่งสำนวนคดีที่เห็นควรสั่งฟ้อง (พร้อมตัวผู้ต้องหา) ต่ออัยการจังหวัดนนทบุรี ในคดีสอบสวนคดีอาญาที่ 82/2562 ลงวันที่ 1 มี.ค.2562 เรื่องขับรถขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับอันตรายแก่กายจิตใจ ขับรถประมาทน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สินผู้อื่นและกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายจิตใจ  โดยเป็นคดีระหว่าง พ.ต.ท.รพีพงศ์จิตต์ บุญธรรม สารวัตรสอบสวนสภ. บางกรวย กล่าวหา นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อายุ 62 ปี (ในขณะนั้น) ผู้ต้องหาในความผิด ฐานความผิดขับขี่รถขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับอันตรายแก่กายจิตใจ, ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน, ขับรถเฉี่ยวชนแล้วหลบหนีและกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายจิตใจ

          พฤติการณ์สรุปว่าเมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2562 พ.ต.ท.รพีพงศ์ พนักงานสอบสวนได้แจ้งพฤติการณ์แห่งคดีฐานความผิดและสิทธิของผู้ต้องหานายปรเมศวร์ ระบุว่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2562 เวลาประมาณ 22.30 น. ผู้ต้องหา ขับรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน ทะเบียน 7 กส 2300 กรุงเทพฯเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ยี่ห้อคาวาซากิ รุ่นเคอาร์ สีเขียว (ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน) มีนายธรรมรัตน์ ทองทวีเป็นผู้ขับขี่และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นเวฟ 125 ไอ สีแดงดำ ทะเบียน 8 กร 6848 กรุงเทพฯ มีนายธันณเรศ ร้อยกรอง อายุ 21 ปีเป็นผู้ขับขี่ ทำให้นายธรรมรัตน์ ได้รับบาดเจ็บและรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายและไม่หยุดลงมาช่วยเหลือ แต่มีพลเมืองดีติดตามไปทัน บริเวณทางเข้าวัดหูช้าง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงจึงได้เชิญตัวมาที่ สภ. บางกรวย ต่อมาได้ทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดคือ 87 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เหตุเกิดบนถนนนครอินทร์ (ขาออก) หน้าปั๊มคาลเท็กซ์หมู่ 3 ต. บางขุนกอง อ. บางกรวย จังหวัดนนทบุรี

          พนักงานสอบสวนได้แจ้งสิทธิของผู้ต้องหาให้ทราบว่า 1. ผู้ต้องหามีสิทธิที่จะให้การหรือไม่ก็ได้ถ้าผู้ต้องหาให้การถ้อยคำที่ผู้ต้องหาให้การนั้นอาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้ 2.ผู้ต้องหามีสิทธิให้ทนายความหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจเข้าฟังการสอบปากคำตนได้

          นายปรเมศวร์ ผู้ต้องหาทราบและเข้าใจข้อกล่าวหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยเมื่อแจ้งข้อกล่าวหาแล้วได้ให้ผู้ต้องหากลับไปโดยไม่มีการควบคุมตัว มีการสอบถามนายปรเมศวร์ๆ กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานเเล้ว ไม่มีอะไร ตนก็ยังไม่รู้คดีถึงไหนก็ยังไม่เรียกไป เมื่อถามว่า คดีส่งสำนวนให้อัยการตามเอกสารเเล้วหรือไม่ นายปรเมศวร์ กล่าวว่า ยังเป็นเเค่ร่างเฉยๆ  ถามต่อว่าเรื่องราวคดีเป็นอย่างไร นายปรเมศวร์ กล่าวว่า ก็มีเฉี่ยวชนกันนิดหน่อยชดใช้ค่าเสียหายเรียบร้อย ในเอกสารมีการระบุถึงเรื่องดื่มเเอลกอฮอล์เเละชนเเละหนี นายปรเมศวร์ ตอบว่า พอมันชนเเล้วมันไม่หยุด เดี๋ยวค่อยว่ากัน

ผู้ประท้วงในเบลารุสเสียชีวิต 1 ราย ขณะพยายามจะขว้างระเบิดใส่ตำรวจ

          ตำรวจเบลารุส เปิดเผยว่า เกิดเหตุผู้ประท้วงคนหนึ่งเสียชีวิตในกรุงมินสก์ หลังจากวัตถุระเบิดเกิดระเบิดในมือ ขณะที่พยายามจะขว้างใส่ตำรวจ การปะทะกันระลอกใหม่ระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วง เกิดขึ้นหลังจากฝ่ายค้าน กล่าวหาว่า ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก โกงการเลือกตั้ง จนได้รับเลือกตั้งอีกสมัย ประธานาธิบดีลูคาเชนโก อยู่ในอำนาจมานานกว่า 25 ปี ชนะการเลือกตั้ง โดยได้รับเสียงสนับสนุนถึงร้อยละ 80 ขณะที่ นางสเวตลานา ทิคานูสกายา ที่ลงชิงตำแหน่งหลังจากที่สามีบล็อกเกอร์ของเธอถูกจำคุกได้รับเสียงสนับสนุนเพียงร้อยละ 10 ในการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์

          เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ประชาชนหลายพันคน ออกมาชุมนุมกันตามท้องถนนในเมืองหลวง จนตำรวจต้องยิงแก๊สน้ำตาและระเบิดเสียงเพื่อสลายการชุมนุม

          ด้านผู้สังเกตการณ์ชาวต่างชาติ ระบุว่า การเลือกตั้งในเบลารุส ไม่ได้เป็นไปอย่างเสรีและยุติธรรมมาตั้งแต่ปี 2538 แล้ว และการเลือกตั้งครั้งนี้ ทางการก็จำคุกคู่แข่งของประธานาธิบดีลูคาเชนโกไปหลายคน ทั้งยังดำเนินการสอบสวนในทางอาญาต่อผู้ที่คัดค้านประธานาธิบดีลูคาเชนโกด้วย

มอริเชียส หยุดการรั่วไหลของเรือน้ำมันญี่ปุ่นได้แล้ว  

          นายกรัฐมนตรีประวินด์ จักนาอุท ของมอริเชียส กล่าวว่า สามารถควบคุมการรั่วไหลของน้ำมันจากเรือของญี่ปุ่นลงสู่มหาสมุทรอินเดียได้เเล้ว หลังจากเรือเกยตื้นบนแนวปะการัง นอกชายฝั่งมอริเชียส เมื่อสองสัปดาห์ก่อน แต่มอริเชียส ยังคงต้องเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด ขณะที่ นักอนุรักษ์ เปิดเผยว่า เริ่มพบปลาตายแล้ว เช่นเดียวกับนกทะเลที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำมัน และเพิ่มความกลัวว่าจะเกิดภัยพิบัติทางระบบนิเวศ แม้จะมีการดำเนินการทำความสะอาดครั้งใหญ่ในท้องถิ่น รวมถึงการทำบูมลอยน้ำจากใบไม้และเส้นผมของคนเพื่อกวาดคราบน้ำมัน มอริเชียส ได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน ส่วนฝรั่งเศสอดีตเจ้าอาณานิคมส่งความช่วยเหลือไปช่วย เช่นเดียวกับญี่ปุ่น

          ขณะที่ กลุ่มสิ่งแวดล้อมกรีนพีซ ระบุว่า เหตุน้ำมันรั่วนอกชายฝั่งมอริเชียส อาจเป็นวิกฤตทางนิเวศวิทยาครั้งใหญ่ ทั้งนี้ การท่องเที่ยวถือเป็นแหล่งรายได้สำคัญของเศรษฐกิจมอริเชียส โดยสร้างรายได้ถึง 63,000 ล้านรูปี หรือประมาณ 49,520 ล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว