การปิดกั้นเว็บไซต์ผิดกฎหมาย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า กระทรวงฯได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังเฟซบุ๊กทั้งในประเทศไทย และ สิงคโปร์ ให้ดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์ผิดกฎหมายที่มีคำสั่งศาลแล้ว 1,129 ยูอาร์แอล ซึ่งเป็นยูอาร์แอลที่ผิดกฎหมายตั้งแต่เดือน เม.ย.-มิ.ย. 2563 แต่เฟซบุ๊กเพิกเฉย อ้างว่าไม่ได้รับหนังสือจากกระทรวงฯ กระทรวงฯไม่สนใจว่า สำนักงานเฟซบุ๊กในไทย มีหน้าที่แค่ทำการตลาด หรือ เฟซบุ๊กในประเทศสิงคโปร์ เป็นผู้รับผิดชอบ เพราะทั้ง 2 บริษัท คือ เฟซบุ๊ก เขาคือ บริษัทเดียวกัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ต้องประสานงานและรับผิดชอบร่วมกัน
ดังนั้นนับจากวันนี้ไปอีก 15 วัน หากเฟซบุ๊กยังเพิกเฉยอยู่ กระทรวงจะดำเนินการทางกฎหมาย จากกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 มาตรา 27 ซึ่งระบุไว้ว่า ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่สั่งตามมาตรา 18 หรือมาตรา 20 หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลตามมาตรา 21 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาทและปรับเป็นรายวันอีกไม่เกินวันละห้าพันบาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง ซึ่งหมายความว่าแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์รายใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลที่ให้ลบหรือปิดเนื้อหาผิดกฎหมายจะมีทั้งโทษปรับและปรับรายวันอีกจนกว่าจะยอมแก้ไข
ปัจจุบันกระทรวงดิจิทัลฯ ได้เร่งรัดระบบรับเรื่องร้องเรียนสื่อออนไลน์ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น กระบวนการรวบรวมและตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ต้องเสร็จสิ้นภายใน 48 ชั่วโมง แล้วส่งให้ศาลอนุมัติคำสั่ง เพื่อทางตำรวจกอง บก.ปอท. และตำรวจที่เกี่ยวข้องไปตามจับผู้กระทำผิดได้โดยเร็ว ตลอดจนส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปิดเว็บหรือลบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม โดยที่ผ่านมาเฉพาะครึ่งปีแรกของปี 2563 รับแจ้ง 8,715 เว็บ ส่งศาลเพื่อออกคำสั่งไปแล้วทั้งสิ้น 7,164 เว็บ