กระทรวงการบินพลเรือนอินเดียระบุว่า เครื่องบินโบอิ้ง 737 ลำนี้นำผู้โดยสารและลูกเรือ 190 คนเดินทางกลับมาจากนครดูไบ โดยในจำนวนนี้มีเด็กทารกอยู่ด้วย 10 คน ภาพจากสถานีโทรทัศน์เผยเห็นหน่วยกู้ภัยกำลังเข้าไปบริเวณซากเครื่องบินที่เสียหายอย่างหนัก หลังจากที่เครื่องบินร่วงตกไปในหุบเขาลึกประมาณ 35 ฟุต หลังลื่นไถลออกนอกรันเวย์ ขณะพยายามลงจอดที่สนามบินกาลัตในรัฐเกรละ
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เครื่องบินได้ลื่นไถลตกลงไปในหุบเขา ส่วนหัวเครื่องพุ่งชนกำแพงอิฐ ขณะที่บริษัท โบอิ้ง เปิดเผยว่า กำลังรวบรวมข้อมูลและติดตามสถานการณ์เพื่อให้ความช่วยเหลือเต็มที่
แอร์อินเดียเอ็กซ์เพรสส์ เที่ยวบิน ABX1344 ลำที่เกิดเหตุ เป็นเครื่องบินที่รัฐบาลส่งไปรับชาวอินเดียที่ติดค้างอยู่ในต่างประเทศ เนื่องจากมาตรการจำกัดการเดินทางช่วงโรคโควิด-19 ระบาด
ฮาร์ดีป สิงห์ ปูรี รัฐมนตรีกระทรวงการบินพลเรือน ให้สัมภาษณ์กับ DD News พร้อมย้ำว่าต้องรอผลการสอบสวนจึงจะทราบสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุครั้งนี้ แต่เบื้องต้น เนื่องจากสภาพอากาศที่มีฝนตกหนัก ทำให้กัปตันเครื่องบิน ไม่สามารถนำเครื่องลงจอดได้ในครั้งแรก และต้องบินวนเพื่อพยายามลงจอดจากอีกทางหนึ่ง ก่อนที่จะลื่นไถลออกนอกรันเวย์ จนเกิดอุบัติเหตุ
เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถช่วยเหลือผู้โดยสารออกมาได้เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเครื่องบินไม่ได้ระเบิดขณะที่ตกลงไปในหุบเขา
ด้านสำนักงานมุขมนตรีแห่งรัฐเกรละแถลงว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้โดยสารบนเครื่องเสียชีวิต 17 ราย และบาดเจ็บ 173 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวอินเดียที่เดินทางไปทำงานในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง
เหตุการณ์นี้นับเป็นอุบัติเหตุเครื่องบินโดยสารครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 10 ปีของอินเดีย โดยก่อนหน้านี้เมื่อปี 2010 เครื่องบินแอร์อินเดียเอ็กซ์เพรสส์จากดูไบไถลออกนอกรันเวย์ ตกลงไปในหุบเขาที่สนามบินบังกาลอร์ ทางตอนใต้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 158 ราย
นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ทวีตข้อความว่า ส่งกำลังใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิตและให้กำลังใจผู้บาดเจ็บให้หายดี