เหตุระเบิดท่าเรือกรุงเบรุต เลบานอนเมื่อวันอังคาร มีคนเสียชีวิต 149 ราย มีผู้บาดเจ็บ 5,000 คน อาคารบ้านเรือน โรงพยาบาลเสียหายจากแรงระเบิด มีผู้ไร้ที่อยู่อาศัย 300,000 คน โฆษกโครงการอาหารโลก(WFP)ในนครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ หน่วยงานการกุศลในสังกัดขององค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น) เปิดเผยว่าองค์กรการกุศลหลายแห่งของยูเอ็น แสดงความเป็นกังวลว่าเลบานอนอาจจะประสบปัญหาวิกฤตด้านมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะเรื่องระบบขนส่งสินค้าประเภทอาหาร และราคาสินค้าอาจจะแพงขึ้นหลังเกิดเหตุระเบิดที่ท่าเรือของกรุงเบรุตเมื่อค่ำวันอังคาร ทั้งนี้ระบุว่าเลบานอนนำเข้าร้อยละ 85 ของสินค้าประเภทอาหาร
ขณะเดียวกัน WFP จะจัดส่งอาหาร 5,000 ลังไปยังเลบานอน เพื่อมอบให้กับชาวบ้าน ซึ่งสามารถจะใช้เลี้ยงสมาชิกในครอบครัวได้ 5 คน เป็นเวลาหนึ่งเดือน
ด้านองค์การอนามัยโลก(WHO)เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาระบบสาธารณสุขของเลบานอนที่อ่อนแอ ขาดแคลนทั้งบุคลากรทางการแพทย์-พยาบาล อาคารสถานที่และเครื่องมือแพทย์อยู่ก่อนแล้ว ยิ่งจะอ่อนแอหนักยิ่งขึ้น มีโรงพยาบาล 3 แห่งในกรุงเบรุตได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ทั้งนี้ WHO จะส่งอุปกรณ์การแพทย์ 1,000 ชิ้นไปยังเลบานอนเพื่อใช้รักษาผู้ป่วยที่บาดเจ็บสาหัส มีแผลไหม้รุนแรง WHO เพิ่มเติมว่า ชุดป้องกันโรค หรือ PPE รวม 17 ลังที่เก็บไว้ในโกดังเก็บของในสำนักงาน WHO ในกรุงเบรุต เพื่อใช้สำหรับควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เสียหายจากเหตุระเบิดดังกล่าว
ด้านโฆษกสำนักงานผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ(UNHCR)เปิดเผยว่าจะจัดส่งเต๊นท์ผ้าใบและอุปกรณ์สำหรับตั้งเต๊นท์พักแรมชั่วคราวไปยังเลบานอนเพื่อมอบให้กับผู้ประสบภัย เตือนว่าเลบานอนเป็นหนึ่งในประเทศที่อ่อนแอมาก เหตุระเบิดรุนแรงในครั้งนี้จะยิ่งซ้ำเติมเลบานอนที่ประสบวิกฤตเศรษฐกิจอยู่ก่อนแล้ว ชาวบ้านส่วนใหญ่และผู้อพยพหลายคนจะยากจนมากขึ้น
Cr: CNN, DW