สถานการณ์ราคาสินค้าและบริการ เดือนก.ค. 2563 น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนก.ค. 2563 ปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 41.0 จากระดับ 42.5 ในเดือนก่อน คาดว่า มีสาเหตุสำคัญจากความกังวลของประชาชนต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่อาจเกิดขึ้นอีกครั้ง แม้ประเทศไทยจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดี แต่ในหลาย ๆ ประเทศยังประสบปัญหาการระบาดระลอกที่ 2 และความผันผวนทางการเมืองก่อนหน้านี้
ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนก.ค.เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน ลดลงร้อยละ0.98 และปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง หลังการหดตัวร้อยละ1.57 ในเดือนก่อน ขณะที่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเทียบกับเดือนมิถุนายน 2563 สูงขึ้นร้อยละ0.66 และเฉลี่ย 7 เดือน (ม.ค.- ก.ค.) ปี 2563 ลดลงร้อยละ1.11
โดยมีปัจจัยจากราคาพลังงานที่เริ่มทรงตัว ส่งผลให้อัตราการหดตัวของราคาพลังงานในเดือนนี้ลดลง รวมทั้ง อาหารสดกลับมาขยายตัวอีกครั้งในรอบ 3 เดือน ตามความต้องการอาหารที่เพิ่มขึ้น จากการเปิดภาคเรียนใหม่ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่กลับมาดำเนินการได้ตามปกติ และการจัดโปรโมชั่นด้านราคาสินค้าและบริการของผู้ประกอบการเริ่มลดน้อยลง โดยเฉพาะในหมวดอาหารบริโภคนอกบ้าน เนื่องจากสถานการณ์เริ่มกลับมาเป็นปกติ
ถึงแม้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ จะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยังคงได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่ยังคงต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม คาดว่ามาตรการต่าง ๆ ที่ภาครัฐออกมาเพื่อดูแลประชาชนและภาคธุรกิจ รวมทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว น่าจะเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคได้ในระยะต่อไป
สำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือนส.ค.2563 ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงจากการระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิด-19 ความผันผวนของราคาพลังงานโลก และสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ซึ่งยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยกระทรวงพาณิชย์ ยังคงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั้งปี 2563 ที่ ติดลบ 1.5 ถึง 0.7 (ค่ากลางอยู่ที่ -1.1)