ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพุธที่ 5 สิงหาคม 2563

05 สิงหาคม 2563, 18:38น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพุธที่ 5 สิงหาคม 2563  



เลบานอนเร่งค้นหาผู้สูญหายกว่า 100 คน จากเหตุระเบิดโกดังท่าเรือกรุงเบรุต



          เหตุระเบิดหลังไฟไหม้โกดังเก็บสารแอมโมเนียมไนเตรตที่ท่าเรือกรุงเบรุต เลบานอนเมื่อเวลา 18.00 น.ของวันอังคาร มีคนเสียชีวิต 100 ราย บาดเจ็บกว่า 4,000 คน รัฐบาลเลบานอนประกาศไว้อาลัย 3 วันเริ่มจากวันนี้



          นายจอร์จ เคตตานี ประธานกาชาดเลบานอน เปิดเผยว่าหน่วยกู้ภัยอยู่ระหว่างค้นหาผู้สูญหายกว่า 100 คนหลังเกิดเหตุระเบิด กล่าวว่าเหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นภัยพิบัติครั้งใหญ่อีกครั้งของเลบานอน มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมากใกล้จุดเกิดเหตุ  แรงระเบิดทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนคล้ายแผ่นดินไหวทั่วทั้งเลบานอน มีกลุ่มควันลอยขึ้นเหนือท้องฟ้าในจุดเกิดเหตุ



อดีต CIA วิเคราะห์ น่าจะมีวัตถุอื่นอีก ที่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดเบรุต



          สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานบทสัมภาษณ์ของ Robert Baer อดีตเจ้าหน้าที่สำนักข่าวกรองกลาง หรือซีไอเอ (CIA) ของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีประสบการณ์การทำงานในตะวันออกกลางที่กล่าวหลังได้รับชมวิดีโอวินาทีที่โกดังในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน ที่เก็บ "แอมโมเนียมไนเตรต" น้ำหนัก 2,750 ตัน ระเบิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่าการระเบิดครั้งนี้ไม่น่าจะมีเพียงแค่ "แอมโมเนียมไนเตรต" เกี่ยวข้องเพียงอย่างเดียว หลังสังเกตเห็น เปลวเพลิงสีส้มในขณะที่ระเบิดขึ้น จึงคิดว่า สิ่งที่ระเบิดน่าจะเป็นระเบิดที่ใช้ในสงครามและอาวุธชนิดอื่นๆ



          นายโทนี่ เมย์ (Tony May) อดีตผู้สืบสวนของกระทรวงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ และอาวุธของสหรัฐฯ ได้กล่าวไปในทางเดียวกันว่า น่าจะมีวัตถุชนิดอื่นที่เกี่ยวข้องนอกเหนือจากแอมโมเนียมไนเตรต เพราะระเบิดมีสีแดงและสีชมพู ซึ่งหากเป็นแอมโมเนียมไนเตรตเพียงอย่างเดียว สีระเบิดจะเป็นสีเหลือง ซึ่งนายเมย์ได้ตั้งข้อสังเกตว่าแสงสีขาวที่เกิดขึ้นก่อนระเบิดน่าจะเป็นวัตถุชนิดอื่นที่ปะทุขึ้นมาก่อนระเบิดลูกใหญ่

          ทั้งนี้ทางการเลบานอนไม่ได้ระบุในคำแถลงการณ์ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการ "โจมตี" หรือ "ก่อการร้าย" ซึ่งทางการกำลังเร่งสอบสวนหาสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ และจะลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุครั้งนี้อย่างถึงที่สุด



          ด้านประธานาธิบดีฮัสซัน โรว์ฮานีของอิหร่าน กล่าวแสดงความเสียใจ พร้อมให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์แก่เลบานอน หลังเกิดเหตุระเบิดรุนแรงที่ท่าเรือในกรุงเบรุต และสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง



          ประธานสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงของอิหร่านระบุในแถลงการณ์ว่า สหพันธ์เตรียมจัดส่งความช่วยเหลือด้านอาหาร 9,000,000ตัน เวชภัณฑ์ โรงพยาบาลสนาม บุคลากรและเครื่องมือทางการแพทย์ให้แก่เลบานอน ทั้งนี้ รัฐบาลปัจจุบันของเลบานอนเกิดจากการรวมตัวของกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ ซึ่งเป็นชาวมุสลิมนิกายชีอะห์สนับสนุนอิหร่านและพันธมิตร 



          สำหรับประเทศไทยเคยเกิดเหตุระเบิดจากสารแอมโมเนียไนเตรต ย้อนกลับไปในปี 1994 หรือ พ.ศ. 2537 เกือบเกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่กลางกรุง เมื่อคนร้ายใช้รถบรรทุก 6 ล้อเล็กบรรทุกแท็งก์น้ำเหล็ก โดยภายในเต็มไปด้วยปุ๋ยแอมโมเนียมไนเตรตคลุกเคล้ากับน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นส่วนประกอบระเบิด ขับมุ่งหน้าไปทางสถานทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย แต่เผอิญว่า รถบรรทุกคันดังกล่าวเกิดเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ ห่างจากสถานทูตอิสราเอลราว 800 เมตร ทำให้คนร้ายหลบหนีจากที่เกิดเหตุ โศกนาฏกรรมจึงไม่เกิดขึ้น 



          การตรวจค้นรถบรรทุก นอกจากพบแอมโมเนียมไนเตรตคลุกเคล้าน้ำมันดีเซลน้ำหนัก 1 ตัน  และยังมีระเบิดซีโฟร์ในขวดน้ำอัดลมขนาด 2 ลิตร หนัก 2 ปอนด์ หรือเกือบ 1 กิโลกรัม จำนวน 2 ลูก ภายในมีเชื้อปะทุไฟฟ้า 10 ดอก รวมถึงดินระเบิดซีโฟร์ขนาด 1/4 ปอนด์อีก 5 ลูก มีเชื้อปะทุภายในรวม 6 ดอก หากเกิดระเบิดจะมีอานุภาพทำลายล้างสูงในรัศมี 1-2 กิโลเมตร นับเป็นการพบระเบิดครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของไทย



         ที่น่าสังเกตก็คือ สูตรการผลิตระเบิดที่ใช้ในครั้งนี้เป็นสูตรเดียวกับที่คนร้ายใช้ในการก่อวินาศกรรมตึกเวิลด์เทรดในเมืองแมนฮัตตันของสหรัฐฯ



นายกฯไทย ส่งสาส์นถึงนายกฯเลบานอนแสดงความเสียใจเหตุระเบิด



          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ส่งสาส์นถึงนายฮัสซัน ดิอับ นายกรัฐมนตรีเลบานอน หลังเกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่กรุงเบรุต ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทั้งยังมีอาคารบ้านเรือนรวมถึงทรัพย์สินในเมืองได้รับความเสียหายถือเป็นโศกนาฏกรรม เชื่อมั่นว่าประเทศเลบานอนจะสามารถเอาชนะภัยพิบัติที่เกิดขึ้นครั้งนี้ได้



อดีตอัยการสูงสุด ย้ำคำสั่งไม่ฟ้อง บอส อยู่วิทยา ไม่ชอบด้วยกฎหมาย



          หลังอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) และอดีตอัยการสูงสุด ย้ำว่า คดีนี้ยังไม่จบ พร้อมยกตัวอย่างการร้องขอความเป็นธรรมหลายครั้งของนายวรยุทธ ผู้ต้องหาในครั้งที่  ร.ต.ต.พงษ์นิวัติ ยุทธภัณฑ์บริภาร เป็นอัยการสูงสุดในขณะนั้น ได้สั่งให้ยุติการพิจารณาคำร้องขอความเป็นธรรมของนายวรยุทธ ผู้ต้องหาที่ 1 แล้ว ถือว่าคำสั่งฟ้องที่ลงนามโดยอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ก่อนหน้านี้ชอบด้วยกฎหมาย



          ส่วนประเด็นเรื่องที่นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด มากลับความเห็น ต้องมีคำสั่งจากอัยการสูงสุดก่อนจึงจะดำเนินการได้ หากมิได้ขออนุญาตหรือขอความเห็นชอบต่ออัยการสูงสุด ซึ่งคดีนี้ทราบว่าไม่มีการขอ การออกคำสั่งนี้จึงไม่ชอบด้วยกฎหมายและระเบียบทำให้คำสั่งไม่ฟ้องไม่มีผลใช้บังคับ



           นายอรรถพล ย้ำว่า ในฐานะประธาน ก.อ. อยากบอกประชาชนว่าจนหรือรวยติดคุกได้หมด คนรวยติดคุกหลายคนแล้ว บางคนตายในคุกด้วย



         ภายหลังเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ นายสายประสิทธิ์ เกิดนิยม อาจารย์ประจำและหัวหน้าศูนย์วิจัยเฉพาะทางวิศวกรรมการประเมินและความปลอดภัยยานยนต์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ในฐานะที่เป็นผู้คำนวณความเร็วรถเฟอรารี่ของนายวรยุทธหรือบอส อยู่วิทยา กล่าวว่า การคำนวณมีหลายทฤษฎี ซึ่งกรณีนี้คำนวณบนสมมติฐานของตนเอง ไม่รู้โซลูชั่นที่เกิดขึ้นจริง และการคำนวณได้ทวนสอบหลายอย่าง เพราะไม่รู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง หากคณะกรรมาธิการฯ ของสนช.จะนำผลคำนวณไปอ้างอิงเป็นหลักหรือไม่ ขึ้นอยู่ดุลยพินิจของกรรมาธิการ นายสายประสิทธิ์ปฏิเสธไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวกับทนายความของนายวรยุทธ โดยทนายเป็นเพียงผู้ประสานให้มาคำนวณหาความเร็วรถเท่านั้น



เตรียมออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุคดียิง 4 ศพบ่อนพระราม 3



          การสืบสวนสอบสวนเหตุยิงกันภายใน"บ่อนเฮียตี้"อาคารย่านถนนพระราม 3 ซอย 66 มีผู้เสียชีวิต 4 ศพ รวมทั้ง พ.ต.ต.วัทธเศรษฐ์ สำเนียงประเสริฐ หรือสารวัตรแม็ก ส.ว.(สอบสวน) สน.แสมดำ



          ล่าสุดจากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบชื่อผู้เช่าอาคารพาณิชย์ที่เกิดเหตุแล้ว อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาสอบสวน เช่นเดียวกันกับผู้ร่วมก่อเหตุยิงซึ่งได้หลบหนีไป ก็ทราบเบาะแสแล้วว่าเป็นกลุ่มใด อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับศาล

          ส่วนกรณีเรื่องกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุนั้น เบื้องต้นน่าจะมีการเคลื่อนย้ายกล้องวงจรปิดออกจากที่เกิดเหตุ ก่อนเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงจริง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลจึงได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เคลื่อนย้ายหรือทำให้เสียหายซึ่งพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุทุกราย



'ผับดังบ้านบึง'ไร้มาตรการ นัวเนียสุดเหวี่ยง



          โลกออนไลน์เกิดกระแสแชร์โพสต์ผ่านกลุ่มคนอำเภอบ้านบึง โดยเป็นเหตุการณ์ภายในผับแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ริมถนนบ้านบึง-บ้านค่าย ต.บ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี พร้อมระบุข้อความว่า "ผับแห่งนี้ไม่มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อยากให้ช่วยตรวจสอบทีได้ไหมคะ”ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องคนไทยการ์ดตก ทำให้เกิดการกลับมาแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกครั้ง โดยภาพที่ถูกส่งต่อกันในผับแห่งนั้น พบว่า นักเที่ยวไม่มีการสวมหน้ากากอนามัย มีการร้อง เต้น นัวเนีย ใกล้ชิดกันจนถึงล้วงเป้ากางเกง รวมทั้งไม่มีการนั่งเว้นระยะห่างใดๆ ทั้งสิ้นอีกด้วย



กทม.เพิ่มความเข้มงวด ตรวจสอบสถานบันเทิงย่านสุขุมวิท ป้องกันโควิด-19



          หลังพบสถานบันเทิงในซอยสุขุมวิทต่าง ๆ เปิดให้บริการเลยเวลาตามที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะวันศุกร์-เสาร์ มีผู้เข้ามาใช้บริการจำนวนมาก หากมีผู้ติดเชื้อจะไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19  นายสุชัย สกุลรุ่งเรืองชัย ผู้อำนวยการเขตวัฒนา กทม. ย้ำให้ผู้ประกอบการ เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคที่กรุงเทพมหานครและกระทรวงสาธารณสุขกำหนด ให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ไม่เกินเวลา 23.00 น. และให้เปิดให้บริการตามเวลาที่กฎหมายกำหนด คือ ไม่เกินเวลา 24.00 น.  



หุ้นไทยบวก 6.54 จุด



         ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นตาม Sentiment ตลาดต่างประเทศ จากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ฯ ที่ภายในสัปดาห์นี้จะมีข้อสรุป นอกจากนี้ ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ขึ้นนำตลาด แม้แต่หุ้นกลุ่มแบงก์ก็ฟื้นตัวขึ้นรับผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หุ้นไทยปิดตลาด 1,337.35 จุด เพิ่มขึ้น 6.54 จุด มูลค่าซื้อขาย 60,357.16 ล้านบาท มีคำแนะนำให้นักลงทุนลงทุนอย่างระมัดระวัง ด้านคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อนุมัติโครงการเงินกู้ฟื้นฟูเศรษฐกิจรอบสองวงเงินเกือบ8.3พันล้านบาท  ด้านการผลิตภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทย หดตัวน้อยลง หลังจากผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์



          ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ปิดลดลงเล็กน้อยในวันนี้ จากนักลงทุนขายหุ้นเพื่อทำกำไร หลังดัชนีนิกเกอิ พุ่งขึ้นเกือบร้อยละ 4 ในช่วง 2 วันมานี้ ดัชนีนิกเกอิ ปิดที่ 22,514.85 จุด ลดลง 58.81 จุด



          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคาดหวังว่า ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสจะสามารถบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ ดัชนีฮั่งเส็งปิดวันนี้ที่ 25,102.54 จุด เพิ่มขึ้น 155.91 จุด



สถิติใหม่ ราคาทองคำรูปพรรณขายออกทะลุ 30,200บาท



          การซื้อขายทองคำวันนี้ (5 ส.ค.63) ได้ทำสถิติปรับราคาขึ้นทะลุ 30,000 บาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของราคาทองคำรูปพรรณ ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นตามราคาทองคำโลกที่ปรับขึ้นทะลุ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ เพราะนักลงทุนคาดหวังการเจรจาระหว่างสภาคองเกรสและทำเนียบขาวเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่จะมีความคืบหน้า

สมาคมค้าทองคำ ได้แจ้งราคาทองคำวันนี้ในช่วงเวลา 15.38น. เปิดตลาดราคาทองคำ ปรับขึ้น 50 บาท รวมปรับเปลี่ยนระหว่างวันรวม 10 ครั้ง เพิ่มขึ้น 650 บาท จนปิดตลาดทำให้

          ทองแท่ง:รับซื้อ 29,600.00 บาท ขายออก 29,700.00 บาท

          ทองรูปพรรณ : รับซื้อ 29,061.24 บาท ขายออก 30,200.00 บาท



โควิด-19ในต่างประเทศยังวิกฤต



          สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 ในลาตินอเมริกา สหรัฐฯ และออสเตรเลียยังน่าวิตก ในรอบ 24 ชั่วโมง สหรัฐฯมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพิ่มอีก 1,362 ราย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีกกว่า 54,000 คน ทำให้ขณะนี้สหรัฐฯมีผู้ติดเชื้อแล้วเกือบ 5,000,000คน เสียชีวิตกว่า 160,000 ราย ทำให้โดยเฉลี่ยสหรัฐฯมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เกิน 1,000 ราย เป็นวันที่ 9 หลังจากเมื่อเดือนเมษายน จำนวนผู้เสียชีวิตสูงเกือบ 3,000 ราย



          ด้านแอฟริกาใต้ พบเจ้าหน้าที่สาธารณสุขติดเชื้อกว่า 24,000 คน และมีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตไปแล้ว 181 ราย นับตั้งแต่เกิดการระบาดครั้งแรกในเดือนมีนาคม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของแอฟริกาใต้เริ่มติดเชื้อไวรัสโคโรนามากขึ้น หลังทางการเริ่มผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดที่ประกาศใช้มาตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม



          ภูมิภาคลาตินอเมริกา ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มากเป็นอันดับ 1 ของโลก ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งกว่า 206,000 ราย หรือประมาณร้อยละ 30 ของจำนวนผู้เสียชีวิตจากเชื้อโรคโควิด-19 ทั่วโลก บราซิล มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 96,000 ราย ขณะที่ เม็กซิโกมีผู้เสียชีวิตกว่า 48,000 รายส่วนยอดผู้ติดเชื้อในภูมิภาคลาตินอเมริกา ทะลุ 5,000,000คน จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกแล้วกว่า 18.6 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 700,000 ราย



          ส่วนที่รัฐวิกตอเรีย ของออสเตรเลีย ช่วง 24 ชั่วโมง มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 15 ราย โดยที่เมืองเมลเบิร์น พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 725 คน เพิ่มจาก 1 วันก่อนหน้ามีผู้ติดเชื้อ 439 คน ขณะที่มาตรการจำกัดการเดินทางของชาวเมืองดำเนินไปอย่างเข้มงวด ธุรกิจหลายอย่างต้องปิดให้บริการเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด กำลังตำรวจและทหารคอยตรวจสอบจับกุมผู้ฝ่าฝืนคำสั่ง ซึ่งมีโทษปรับสูงถึง 20,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือกว่า 443,000 บาท

ข่าวทั้งหมด

X