ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.วันพุธที่ 5 สิงหาคม 2563

05 สิงหาคม 2563, 09:04น.


 กลางดึกเมื่อคืนนี้ แผ่นดินไหวขนาด 1.8 อ.เชียงแสน จ.เชียงราย



         แผ่นดินไหวขนาด 1.8 ที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เมื่อเวลา 01.23 น.วันที่ 5 สิงหาคม ลึกจากผิวดินเพียง 4 กิโลเมตรเท่านั้น ยังไม่มีรายงานความเสียหาย  พื้นที่อำเภอเชียงแสน ตั้งอยู่ในรอยเลื่อนแม่จัน นับตั้งแต่ 600 - 700 ปี มานี้ไม่มีประวัติความเสียหายใหญ่ เป็นหนึ่งใน 14 รอยเลื่อนในประเทศไทย ที่มีพลังและยาวที่สุด เคลื่อนตัวตามแนวระนาบแบบเหลื่อมซ้าย พาดผ่านตั้งแต่ อ. ฝาง จ.เชียงใหม่ อ.แม่จัน อ.เชียงแสน จ. เชียงราย เข้าสู่ประเทศลาว ระยะทางกว่า 185 กิโลเมตร 



ปภ. สรุปกว่า 10,000 ครัวเรือน 13 จังหวัด เดือดร้อนจากพายุซินลากู   



         นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า อิทธิพลของพายุ ซินลากู  ทำให้หลายจังหวัดได้รับความเดือดร้อน



-จ.เชียงราย หลายจุดได้รับความเสียหาย สำนักงานชลประทานที่ 2 ได้เตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักร เครื่องมือ และบุคลากร ถนนสายเชียงราย-เชียงใหม่ ระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว



-จ.เชียงใหม่ สำนักงานชลประทานที่ 1 ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว หมู่บ้านเชียงใหม่การ์เด้น และหมู่บ้านธีราพร ต.สันทรายน้อย องค์การบริหารส่วนจังหวัด นำเครื่องจักรเปิดทางน้ำระบายในลำน้ำกวงให้กว้างขึ้น



-จ.ลำปาง โครงการชลประทานฯ เตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ำ 16 เครื่อง



         นอกจากนี้ มีพื้นที่เฝ้าระวังอีก 6 จังหวัด ได้แก่ น่าน พะเยา เลย กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และขอนแก่น และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังเตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ ไว้เข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงกว่า 55 จุด



         นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลพายุซินลากู ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. จนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำไหลหลากรวม 13 จังหวัด ประชาชนได้รับผลกระทบ 12,689 ครัวเรือน เสียชีวิต 3 ราย (หนองบัวลำภู พิษณุโลก อุดรธานี) บาดเจ็บ 1 คน (พิษณุโลก) พื้นที่การเกษตร 38,190 ไร่ ปลาในกระชัง 20 ตัน ภาคเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ น่าน อุตรดิตถ์ ลำปาง พะเยา เชียงราย เชียงใหม่ แพร่ พิษณุโลก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 จังหวัด ได้แก่ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี นครพนม และกาฬสินธุ์ 



CR:เรารักชลประทาน Army PR Center



นครราชสีมา เตือนทุกอำเภอสำรองน้ำ ครึ่งทางของฤดูฝนแล้ว แต่เขื่อนเก็บน้ำได้น้อยมาก  



          นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า จากปริมาณฝนตกใน จ.นครราชสีมา เขื่อนแต่ละแห่งยังมีน้ำไหลเข้าน้อยมาก จึงแจ้งเตือนไปทุกพื้นที่ทุกอำเภอ พื้นที่ใดมีน้ำไหลผ่านให้เร่งสูบน้ำเข้าบ่อกักเก็บสำรองไว้ใช้ แต่ต้องประหยัดน้ำด้วย กังวลว่าหลังจากนี้จังหวัดนครราชสีมาจะมีฝนตกอีกหรือไม่ เพราะผ่านมาครึ่งทางของฤดูฝนแล้ว แต่เขื่อนยังไม่สามารถเก็บน้ำได้เลย และให้ติดตามสถานการณ์ลำน้ำชีที่ไหลมาจากจังหวัดชัยภูมิ หากมีน้ำจะได้เร่งสูบใส่แหล่งกักเก็บทันที ปัจจุบันยังต้องแจกจ่ายน้ำให้หมู่บ้านที่ขาดน้ำกว่า 40 หมู่บ้าน สถานการณ์ภัยแล้งปีนี้รุนแรงมาก แม้เข้าช่วงฤดูฝนแล้ว ปริมาณน้ำในเขื่อนแต่ละแห่งยังน่าห่วง ที่ผ่านมายกเลิกประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้วเนื่องจากเข้าสู่หน้าฝนแต่หากสถานการณ์ภัยแล้งยังไม่ดีขึ้น เตรียมประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งฝนทิ้งช่วงช่วยเหลือประชาชน



ภัยแล้ง ทำให้จีดีพีเกษตร ช่วงครึ่งปีแรก ติดลบ 5.1%



          น.ส.ทัศนีย์ เมืองแก้ว รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจการเกษตรครึ่งแรกของปี 2563 พบว่า หดตัวอยู่ที่ติดลบร้อยละ 5.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 เป็นผลมาจากสาขาพืช สาขาประมง และสาขาบริการทางการเกษตร หดตัวลดลงร้อยละ 7 ร้อยละ 6.4 และร้อยละ 3 ตามลำดับ จากสภาพอากาศร้อนจัดและแห้งแล้ง รวมทั้งปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำส่วนใหญ่และปริมาณน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติมีปริมาณน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อการเพาะปลูก



          นอกจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ส่งผลทำให้การทำประมงทะเลลดลง และสถานการณ์ภัยแล้งที่ทำให้ปริมาณการเลี้ยงกุ้งทะเลเพาะเลี้ยงและสัตว์น้ำจืดลดลงด้วย ประกอบกับความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนในสถานการณ์การระบาดของโรค ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อกิจกรรมทางการเกษตรและเศรษฐกิจหยุดชะงักไปทั่วโลก ขณะที่สาขาปศุสัตว์ และสาขาป่าไม้ ขยายตัวร้อยละ 5.5 และร้อยละ 1 ตามลำดับ เป็นการเพิ่มการผลิตตามความต้องการของตลาด และไทยมีการป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (เอเอสเอฟ) ได้เป็นอย่างดี



คาดสิ้นเดือนก.ย.คลัง-เอดีบี ลงนามเงินกู้ 1,500 ล้านเหรียญ



          นายมาซาสึกุ อะซาคาวา ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย(เอดีบี) เปิดเผยว่า เอดีบี อยู่ระหว่างการจัดสรรเงินกู้ 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 48,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนรัฐบาลไทยในการรับมือโควิด-19 โดยการลงนามสัญญาเงินกู้จากเอดีบีและกระทรวงการคลัง คาดว่า จะมีขึ้นภายในสิ้นเดือนก.ย.นี้ ซึ่งเงินกู้นี้จะช่วยดำเนินมาตรการบรรเทาผลกระทบต่างๆ ของรัฐบาล พร้อมดูแลหากมีการระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้นในอนาคต ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง สนับสนุนรัฐวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการระบาดในครั้งนี้ เช่น อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการผลิต  และกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม



         ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบบการดูแลสุขภาพก้าวหน้าอย่างมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ยังคงมีความเสี่ยงสูงต่อการระบาดใหญ่เนื่องจากมีความเชื่อมโยงทางภูมิภาคและเศรษฐกิจโลก และอาจมีแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยโควิด-19 หากมีการระบาดระลอกใหม่ในอนาคต อาจส่งผลกระทบต่อระบบการดูแลสุขภาพโดยรวม และบุคลากรรวมถึงเครื่องมือแพทย์ที่มีอย่างจำกัด คาดว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะติดลบร้อยละ 6.5



 

ข่าวทั้งหมด

X