*ทันสถานการณ์โลก 6.30 น.*

นายบัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องให้ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัส อีโบลา หลีกเลี่ยงการเลือกปฏิบัติต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในประเทศที่มีโรคระบาด โดยนายบันอยู่ในระหว่างการเดินทางไปที่กินี เพื่อขอบคุณเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของหลายประเทศที่ร่วมมือกันในการดูแลผู้ติดเชื้อ และมีจำนวนผู้เสียชีวิตไปแล้ว 7,373 คน

ส่วนเหตุสะเทือนขวัญที่ออสเตรเลีย ตำรวจควีนส์แลนด์ ตั้งข้อกล่าวหานางเมอร์ซาน วอร์เรีย อายุวัย 37 ปี กระทำความผิดฐานฆาตกรรมลูก 7 คน และหลานสาว 1 คนในบ้านของเธอ รวม 8 ศพ โดยเป็นการตั้งข้อกล่าวหาขณะรับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาลเมืองแคนส์ และในวันนี้ ตำรวจจะสอบปากคำนางวอร์เรียอีกครั้ง

ที่สหรัฐอเมริกา ยังเกิดเหตุคนร้ายลอบยิงตำรวจนิวยอร์ค 2 นายคือ เจ้าหน้าที่หลิว เหวินจิน และเจ้าหน้าที่ราฟาเอล รามอส โดยคนหนึ่งมีเชื้อสายจีนอีกคนมีเชื้อสายลาติน และถูกคนร้ายยิงเข้าที่ศีรษะโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ผู้ต้องสงสัยคือนายอิสมาเอล บรินส์ลีย์ หนุ่มผิวสีวัย 28 ปี ที่เมื่อก่อเหตุแล้วก็วิ่งเข้าไปในสถานีรถไฟใต้ดินบรูคลิน จากนั้นใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงศีรษะตัวเองจนเสียชีวิตเป็นศพที่ 3 และเมื่อสืบสวนสอบสวนเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น พบว่าเขาเพิ่งก่อเหตุยิงคนรักเก่าจนบาดเจ็บสาหัสเมื่อเช้าวันเสาร์ในเมืองบัลติมอร์ และโพสต์ข้อความลงในอินสตาแกรมของเธอว่า นี่อาจเป็นการโพสต์ข้อความครั้งสุดท้าย พร้อมกับโพสต์ภาพปืนพกสีเงิน ซึ่งมีผู้เข้าไปกดไลค์มากกว่า 200 ครั้ง

ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ประณามเหตุยิงตำรวจโดยกล่าวว่า ไม่มีเหตุผลเพื่อแก้ตัวในการลงมือก่อเหตุครั้งนี้ เพราะตำรวจเอาความปลอดภัยของพวกเขาไปเสี่ยงชีวิตเพื่อรับใช้และคุ้มครองประชาชน จึงขอร้องชาวอเมริกันให้หยุดใช้ความรุนแรงและการใช้ถ้อยคำรุนแรงกล่าวร้ายตำรวจ

เจ้าหน้าที่อัฟกานิสถาน เปิดเผยว่า กลุ่มตาลีบันโจมตีจุดตรวจ ในอำเภอกัชเตปา จังหวัดจอว์ซจาน ทางภาคเหนือของประเทศ สังหารตำรวจเสียชีวิตไปอย่างน้อย 7 นาย บาดเจ็บอีก 5 นาย

หนังสือพิมพ์เดอะไฟแนนเชียลไทม์สของอังกฤษ รายงานข่าวอ้างอิงข้อมูลจากศูนย์วิจัยกระบวนการก่อความรุนแรงระหว่างประเทศ ประจำวิทยาลัยคิงส์คอลเลจในกรุงลอนดอนของอังกฤษ โดยระบุว่า นักรบชาวต่างชาติราว 100 รายซึ่งสมัครใจเข้าเป็นแนวร่วมของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส สู้รบในตะวันออกกลาง ถูกผู้นำกลุ่มไอเอสในเมืองรักกาของซีเรียสั่งประหารชีวิตในช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม เนื่องจากนักรบต่างชาติเหล่านี้ต้องการถอนตัวจากการเป็นแนวร่วมไอเอส เพราะไม่พอใจที่ถูกส่งไปต่อสู้กับกลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรียกลุ่มอื่น แทนที่จะได้ต่อสู้ล้มล้างรัฐบาลเผด็จการของนายบาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรีย

กองทัพสหรัฐจัดส่งเฮลิคอปเตอร์อาปาเช่จำนวน 10 ลำให้แก่อียิปต์ ตามคำมั่นของนายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐที่ว่าส่งอาวุธให้อียิปต์ เพื่อใช้ในการปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายในคาบสมุทรไซนาย โดยสหรัฐให้ความช่วยเหลืออียิปต์ปีละ 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 49,500 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นความช่วยเหลือทางทหารคิดเป็นมูลค่า 1,300 ล้านดอลลาร์

นายวลาดิเมียร์ ปาดริโน รัฐมนตรีกลาโหมเวเนซุเอลาเปิดเผยว่า การที่สหรัฐเพิ่มคว่ำบาตรอย่างเข้มงวดต่อเวเนซุเอลา ทำให้เกิดความไม่สงบอย่างรุนแรงภายในประเทศเวเนซุเอล่า และเป็นความพยายามโค่นล้มประธานาธิบดีนิโคลาส มาดูโร

รัฐบาลรัสเซีย สั่งให้เฟซบุ๊กปิดหน้าเพจที่เชิญชวนให้ประชาชนเข้าร่วมการชุมนุม เพื่อสนับสนุนนักการเมืองฝ่ายค้านในวันที่ 15 มกราคมปีหน้า ส่งผลให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตไม่พอใจ โดยวันที่ 15 มกราคมยังเป็นวันที่นายอาเลกซี นาวันนี นักการเมืองฝ่ายค้านจะให้ปากคำในคดียักยอกทรัพย์ ซึ่งอาจทำให้ถูกจำคุกนาน 10 ปี

สำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติอินโดนีเซีย ประกาศให้ยุติการค้นหาผู้ประสบภัยดินถล่ม ที่หมู่บ้านเจมบลังบนเกาะชวาซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม และสรุปตัวเลขผู้เสียชีวิตมีทั้งสิ้น 95 ศพ ยังสูญหายอีก 13 คน

ส่วนประธานาธิบดีราฟาเอล คอร์เรีย ของเอกวาดอร์ เปิดเผยว่า จะคืนเงินประมาณ 8,500,000 ดอลลาร์สหรัฐ ที่ได้รับบริจาคจากเยอรมนีเมื่อปีที่แล้ว ในกรณีพิพาทเรื่องสิ่งแวดล้อม จากที่รัฐบาลเยอรมนีแสดงความผิดหวังที่เอกวาดอร์ไม่อนุญาตให้ผู้แทนจากรัฐสภาเยอรมนี เดินทางไปยัง เมืองยาซูนี ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ชนเผ่าและนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมของเอกวาดอร์ ยังคัดค้านแผนการของรัฐบาลที่อนุญาตให้มีการสูบน้ำมันในพื้นที่ป่าอะเมซอนห่างไกล ซึ่งมีน้ำมันดิบอยู่ถึง 920 ล้านบาร์เรล

*-*