เสพโคเคน-ขับรถเร็ว!คณะทำงานฯเสนออัยการสูงสุด สอบใหม่ 2 ข้อหา คดีบอส อยู่วิทยา

04 สิงหาคม 2563, 12:32น.


          ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะทำงานตรวจสอบการสั่งไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา (บอส) ทายาทเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดง ขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต หลังอัยการสูงสุดกำหนดระยะเวลาสอบข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน ซึ่งคณะทำงานได้ข้อสรุปว่า การสั่งคดีของนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง



          นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดในฐานะผู้ช่วยเลขานุการคณะทำงาน เปิดเผยว่า นายเนตร สั่งคดีนี้เป็นไปตามพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนทำสำนวนและสั่งสอบสวนเพิ่มเติม ตามที่ปรากฏอยู่ในสำนวน โดยมีเหตุผลประกอบตามสมควร และหลังจากที่มีคำสั่งไม่ฟ้อง ได้ส่งกลับไปที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพิจารณาสำนวน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เพื่อพิจารณาตรวจสอบและถ่วงดุลการสั่งคดีของพนักงานอัยการ ซึ่งต่อมาผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีความเห็นไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องดังกล่าว



          โดยในวันนี้ หลังประชุมคณะทำงานอีกครั้ง ได้มีความเห็นให้อัยการสูงสุดพิจารณาแจ้งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับนายวรยุทธ 2 คดี ตามพยานหลักฐานใหม่  คือ



1.ผลการตรวจเลือดของนายวรยุทธ ในวันเกิดเหตุพบ สารโคเคนในเลือดแต่พนักงานสอบสวนไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา และสอบสวนผู้ต้องหาในข้อหายาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 ซึ่งมีโทษจำคุก 6 เดือนถึง 3 ปี (อายุความตามกฎหมาย ในข้อนี้ 10 ปี)



2.ข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่น ถึงแก่ความตาย แม้พนักงานอัยการจะมีคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ หรือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องดังกล่าว เป็นผลให้คำสั่งไม่ฟ้องเสร็จเด็ดขาดตามกฎหมาย และห้ามมิให้ทำการสอบสวนอีกก็ตาม แต่ปรากฏว่ามีพยานหลักฐานสำคัญ จากผู้เชี่ยวชาญที่ได้ให้ข้อเท็จจริงผ่านสื่อไว้ว่า ขณะเกิดเหตุ ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับประสานงานจากพ.ต.ท.ธนะสิทธิ์ แต่งจันทร์ ให้ไปร่วมตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุและดูกล้องวงจรปิดวัตถุพยานหลักฐานนั้น ได้ทำรายงานการคิดคำนวณส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานเพื่อประกอบคดียืนยันว่า ขณะเกิดเหตุนายวรยุทธ ขับรถด้วยความเร็วประมาณ 170 กม./ชม. แต่ข้อเท็จจริงดังกล่าว ไม่ปรากฏในสำนวนการสอบสวน



          นอกจากนี้ยังปรากฏข้อเท็จจริงของผู้มีความรู้เชี่ยวชาญด้านคำนวณ นั่นคือ ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ให้ข้อเท็จจริงทางวิชาการผ่านสื่อว่า รถผู้ต้องหาขณะขับขี่ไปน่าจะมีความเร็วไม่ต่ำกว่า 126 กม./ชม. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวถือเป็นหลักฐานใหม่และเป็นพยานหลักฐานที่สำคัญซึ่งจะทำให้ศาลลงโทษนายวรยุทธ



          ด้านนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญาธนบุรี ในฐานะคณะทำงาน ย้ำว่า คำสั่งไม่ฟ้องในคดีนี้ไม่ได้หมายความว่าคดีเสร็จเด็ดขาด เพราะคดีเสร็จเด็ดขาด ต้องเป็นไป 2 แนวทางคือ 



-ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด (ฟ้องใหม่ไม่ได้)



-คดีขาดอายุความ (ฟ้องไม่ได้)



         แต่คดีนี้ มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง เพราะงดการสอบสวน แต่หากมีพยานหลักฐานใหม่ก็ไปสอบสวนใหม่ หากพยานใหม่มีหลักฐานเห็นว่า ต้องสั่งฟ้องก็จะต้องสั่งฟ้อง



          อย่างไรก็ตาม คณะทำงานฯยังเห็นตรงกันว่าคดีนี้มีข้อบกพร่องที่จะนำไปสู่การถอดบทเรียนใน 2 ประเด็นหลักคือ



-การใช้ดุลพินิจของพนักงานสอบสวนควรมีความเห็นร่วมกันกับอัยการในเรื่องของความเร็วรถเพราะถือเป็นประเด็นสำคัญในการสั่งคดี ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่มีหลากหลาย



-กระบวนการร้องขอความเป็นธรรม จะต้องมีความชัดเจน กระชับมากขึ้น เช่น การปรับเปลี่ยนขั้นตอนการร้องขอความเป็นธรรมในครั้งเดียว หรือการร้องขอทุกครั้ง ต้องมาพบพนักงานอัยการทุกครั้ง

ข่าวทั้งหมด

X