ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม 2563

03 สิงหาคม 2563, 07:43น.


เตือน 67 จังหวัดรับมืออิทธิพลพายุซินลากู



         พายุ ซินลากู (Sinlaku) ลดระดับลงมาเป็นพายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน ซินลากู) มีศูนย์กลางอยู่ที่ อ.ปัว จ. น่าน มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกอย่างช้าๆ และในวันนี้คาดว่าพายุลูกนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ (พายุระดับ 1)  นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) เตือน 67 จังหวัดทั่วไทย พร้อมรับฝนกระหน่ำน้ำท่วมฉับพลัน-คลื่นลมแรง ช่วงวันที่ 2-4 ส.ค.



          นายวรกิตติ ศรีทิพากร ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า หน่วยศึกษาการพัฒนาการอนุรักษ์ต้นน้ำน้ำคาง อ.ท่าวังผา วัดได้ 166.8 มิลลิเมตร ต้นน้ำห้วยมัด อ.ปัว 109.8 มิลลิเมตร หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแม่จริม อ.แม่จริม 97.2 มิลลิเมตร อ่างเก็บน้ำห้วยยาง อ.สันติสุข 90.6 มิลลิเมตร ขณะเดียวกัน นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน ได้ให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อป้องกันน้ำท่วมจุดสำคัญบริเวณแยกโรงเรียนสตรีศรีน่าน 



CR:Army Times Thailand



ประสานทัพเรือ ส่งหน่วยซีลค้นหาอีก 4 คนเรือเฟอร์รี่ล่ม



         วันนี้จะมีการค้นหาผู้สูญหายอีก 4 คน จากเหตุเรือเฟอร์รี่ราชา 4 ของบริษัทราชาเฟอร์รี่ จำกัด ล่มบริเวณระหว่างเกาะสี่ เกาะห้า เรือลำนี้บรรทุกรถบรรทุกสินค้าเดินทางออกจากท่าเทียบเรือของบริษัทราชาเฟอร์รี่ อ.เกาะสมุย มุ่งหน้า อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ผู้สูญหาย 4 คน ได้แก่ 1.นายศิระวุธ ทองบุญยัง ฝ่ายช่างกล 2.นายทิวากรณ วัชรฤทธิ์ กลาสี 3.น.ส.นภัรดา จันหาญ พนักงานขายของบนเรือ 4.นายชาญชัย เหล่าทรัพย์ คนขับรถบรรทุกสิบล้อ



         นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า คลื่นลมในอ่าวไทยยังมีกำลังแรงจากอิทธิพลลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย คลื่นลมในทะเลสูง 1-1.5 เมตร ทำให้เป็นอุปสรรคในการค้นหา ขณะนี้ได้ประสานไปทางราชาเฟอร์รี่เพื่อขอทราบพิกัดเส้นทางเดินเรือที่แน่ชัดเพื่อนำทุ่นไปปักไว้ เมื่อคลื่นลมสงบจะได้ส่งทีมนักประดาน้ำ หน่วยซีล เข้าช่วยค้นหา ในส่วนของทางทหารจากทัพเรือภาค 2 กองทัพภาคที่ 4 และกองบิน 7 สนับสนุนเรือและเฮลิคอปเตอร์ช่วยออกค้นหา พร้อมทั้งแสดงความเสียใจกับครอบครัวกัปตันเรือที่เสียชีวิตพร้อมทั้งระบุว่าได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อให้ลูกเรือและผู้โดยสารปลอดภัย สั่งการให้สำนักงานประกันสังคมดูแล  ส่วนค่าชดเชยอื่นๆบริษัทรับจะดูแลอย่างเต็มที่ 



รมช.คมนาคม สั่งตั้ง กรรมการสอบด่วน



         นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม สั่งการด่วน ให้ตรวจสอบเรื่องนี้



1.ให้กรมเจ้าท่าร่วมกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่งเจ้าหน้าที่เร่งค้นหาผู้สูญหายโดยเร็ว



2.ให้กรมเจ้าท่า ออกประกาศงดเดินเรือในทะเลในระยะนี้ เนื่องจากทะเลอ่าวไทยมีคลื่นสูงและลมแรง



3.ให้กรมเจ้าท่า ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงหาสาเหตุทำไมจึงยังออกเรือ ทั้งที่เจ้าท่าได้เตือนแล้ว

กรมเจ้าท่า เร่งสรุปสาเหตุใน 7-15 วัน



         นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า จะสรุปเหตุเรือเฟอร์รี่ล่ม ภายใน 7-15 วัน หากพบความผิดเกิดจากการเดินเรือจะพิจารณาลงโทษผู้ประกอบการและนายท้ายเรือทันที เช่น พักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตใช้เรือและควบคุมเรือทันที รวมถึงมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน และปรับไม่เกิน 20,000 บาท ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีทางกฎหมาย กรณีประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต



คาดมีรอยรั่ว ที่ท้องเรือซีกขวา ทำให้เรือไฮซีซั่น 1 จมในแม่น้ำเจ้าพระยา



          ช่วงค่ำวานนี้ เกิดเหตุ เรือไฮซีซั่น 1  สูง 3 ชั้น ตกแต่งด้วยระเบียงทำจากวัสดุไม้ฉลุ จมในแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งลำ บริเวณท่าเทียบเรือหลังบ้านพักเลขที่ 171 ซอยสมเด็จเจ้าพระยา 1 แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน พ.ต.ต.ธีรวัฒน์ เกิดจงรักษ์ สว.(สอบสวน) สน.ปากคลองสาน เปิดเผยว่า จากการสอบถาม นายจักรี ศรีรักษา อายุ 31 ปี เจ้าหน้าที่ อปพร.เขตคลองสาน ที่เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุคนแรก เล่าว่า เมื่อมาถึงเรือยังไม่จมลงไปทั้งลำ แต่จากการสอบถามเจ้าหน้าที่บนเรือให้ข้อมูลว่า ช่วงเย็นเมื่อวานนี้ รับผู้โดยสารชาวไทยและต่างประเทศรวม 75 คน มาจากท่าเทียบเรือของโรงแรมแห่งหนึ่งย่านถนนพระราม 3 ก่อนพาล่องดูวิวทิวทัศน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยามาจนถึงสะพานพระปกเกล้าแล้วจะวนเรือกลับ ระหว่างนั้นเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติที่ตัวเรือเอียงขวาทำให้กัปตันตัดสินใจขอนำเรือเทียบท่าเรือส่วนตัวของบ้านหลังนี้ เพื่อให้ผู้โดยสารขึ้นฝั่งก่อน



         เจ้าหน้าที่แจ้งว่าน่าจะมีรอยรั่วที่ท้องเรือซีกขวาทำให้น้ำเข้าและเรือเอียง ทั้งนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าเรือลำดังกล่าวเป็นของ บจก.ไฮซีซั่นรีสอร์ท อยู่ที่เกาะกูด จ.ตราด ขณะนี้พนักงานสอบได้เชิญตัวกัปตันเรือไปสอบปากคำที่สถานีตำรวจเพื่อแจ้งข้อหาตามกฎหมาย



ผกก.หลักสอง นัดคนขับรถปอร์เช่ ให้ปากคำ คดียิงถล่มแถวพุทธมณฑล



         กรณีนายธนกฤต สถิจชวา อายุ 44 ปี มีปัญหาขัดแย้งกับนายอธิป ขวัญบุญ หรือวิน อายุ 25 ปี หลังจากนายธนกฤตเป็นตัวแทนรวบรวมผู้เสียหายจากการซื้อขายหน้ากากอนามัยฟ้องร้องนายอธิป จนได้นัดเคลียร์กันและเกิดเหตุยิงกันทั้งสองฝ่าย บริเวณบ้านพักนายธนกฤต ภายในซอยพุทธมณฑล สาย 2 ซอย 11 แขวงบางไผ่ เขตบางแค ขณะที่ นายอธิป ทิ้งรถสปอร์ตปอร์เช่ที่เช่ามาภายในซอยดังกล่าวก่อนหลบหนีไป



          พ.ต.อ.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ ผกก.สน.หลักสอง กล่าวว่า ได้สอบปากคำนายธนกฤต ไปแล้ว เบื้องต้นอ้างว่าสาเหตุเป็นเรื่องของธุรกิจ แต่จะมีความขัดแย้งอย่างที่กล่าวอ้างหรือไม่ ต้องรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บเพิ่มเติม พร้อมประสานนายอธิป ผู้ขับรถปอร์เช่ เข้าสอบปากคำในวันนี้ แต่ยังไม่ได้มีการนัดเรื่องเวลาเนื่องจากนายอธิป ขอปรึกษาทนายความก่อน

          กรณีนายอธิป อัดคลิปลงโซเชียลว่า พวกตนไม่ได้ยิงนายธนกฤต แต่กลับถูกกลุ่มดังกล่าวระดมยิงอยู่ฝ่ายเดียว ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานว่าที่บ้านของนายธนกฤต มีหัวกระสุนปืนของกลุ่มนายอธิปหรือไม่ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เบื้องต้นไม่พบร่องรอยการยิงและหัวกระสุนภายในบ้านของนายธนกฤต นอกจากนี้ นายอธิป ยังอ้างว่ากลุ่มตนเองถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 6 คน และหนึ่งในนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ในห้องไอซียู ขณะนี้ จากรายงานที่ตำรวจได้รับทราบว่ามีผู้บาดเจ็บเพียง 2 คน คือ นายอภิรักษ์ คลั่งแสง อายุ 27 ปี ถูกยิงที่แขน และตัวนายอธิป ถูกกระจกบาดตามร่างกาย



          ด้าน พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.9  สั่งการฝ่ายสืบสวนและฝ่ายสอบสวนลงพื้นที่เพื่อรวบรวมพยานบุคคลและพยานแวดล้อมเพิ่มเติม อยากฝากประชาสัมพันธ์บุคคลที่อยู่ในเหตุดังกล่าว ถึงแม้จะเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องก็ตาม ขอความร่วมมือเข้าให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน.หลักสอง



 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X