กระทรวงความมั่นคงฯ เตรียมถอนเจ้าหน้าที่ออกจากเมืองพอร์ตแลนด์

          คณะผู้บริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กำลังพิจารณาการถอนกำลังเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางออกจากเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน หลังจากที่มีการประท้วงต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติมานานถึง 62 วันและมีการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ประท้วง

          นายชาด วูล์ฟ รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ กล่าวว่าการถอนกำลังเจ้าหน้าที่จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขคือตำรวจในพื้นที่สามารถปกป้องอาคารรัฐบาลกลาง ที่เป็นศูนย์กลางของการก่อความไม่สงบ เขาไม่ได้เปิดเผยว่าจะถอนกำลังเจ้าหน้าที่เมื่อใด แต่เปิดเผยว่าเขาและนางเคท บราวน์ ผู้ว่าการรัฐออริกอน มีข้อตกลงร่วมกันในการหยุดการใช้ความรุนแรงในพอร์ตแลนด์ ซึ่งรวมถึงการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมีการบังคับใช้กฎหมายเพื่อรักษาความปลอดภัยของทรัพย์สินสาธารณะ โดยเฉพาะพื้นที่โดยรอบอาคารหน่วยงานรัฐบาลกลางที่ถูกโจมตีทุกคืน

          แต่นางบราวน์ ผู้ว่าการรัฐออริกอน กล่าวว่ากองกำลังของรัฐบาลกลางจะเริ่มออกจากเมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐในวันนี้ (30 ก.ค.) และกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่จากรัฐบาลกลางคือผู้ที่นำความรุนแรงมาที่เมืองพอร์ตแลนด์

          ด้านประธานาธิบดีทรัมป์ ทวีตข้อความว่าเป็นชัยชนะ หากเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลาง และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิไม่ได้เดินทางไปพอร์ตแลนด์เมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็จะไม่มีพอร์ตแลนด์ เพราะเมืองคงถูกเผา และหากนายกเทศมนตรีและผู้ว่าการรัฐยังไม่หยุดผู้ก่อเหตุรุนแรงที่นิยมอนาธิปไตยและการปลุกปั่น รัฐบาลกลางจะดำเนินการตามกฎหมาย ที่ท้องถิ่นควรเป็นผู้ดำเนินการ

          ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเข้าประจำการที่เมืองพอร์ตแลนด์เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม เพื่อปกป้องอาคารของรัฐบาลกลางที่ถูกผู้ประท้วงวางเพลิงในระหว่างการประท้วงต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติที่ดำเนินมานานหลายสัปดาห์ โดยเมื่อวานนี้ (29 ก.ค.) กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยว่า มีแผนที่จะส่งเจ้าหน้าที่จากรัฐบาลกลางไปประจำการใน 3 รัฐที่มีผู้บริหารเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต คือ เมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ, เมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน และเมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน เนื่องจากมีเหตุอาชญากรรมรุนแรงเพิ่มขึ้นมาก 

....