ฮ่องกง เข้าใกล้ภาวะระบบสาธารณสุขล่มสลาย ซ้ำเติมศก.ฟื้นยาก
สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในฮ่องกง เริ่มเข้าสู่ภาวะวิกฤต นางแคร์รี แลม หัวหน้าคณะผู้บริหารฮ่องกง แถลงยืนยันว่า เป็นคลื่นลูกที่สามซึ่งวิกฤตมาก เตือนว่า ฮ่องกงกำลังใกล้จะเกิดการระบาดครั้งใหญ่ เนื่องจากเกือบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 100 คน เพิ่มแรงกดดันให้กับระบบสาธารณสุขของฮ่องกง จนอาจถึงขั้นล่มสลาย เตียงในโรงพยาบาลอาจจะไม่เพียงพอที่จะรองรับผู้ป่วย ซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างยาวนานของฮ่องกงมีสัญญาณชี้ว่าการจะกลับมาฟื้นตัวอย่างรวดเร็วดูจะไม่สดใส ทำให้รัฐบาลฮ่องกง ต้องกลับมาใช้มาตรการเข้มงวดในการควบคุมการระบาดอีกครั้ง
รัฐบาลฮ่องกง คาดการณ์ล่วงหน้าว่า เศรษฐกิจจะหดตัวลงร้อยละ 9.0 ในเดือนเม.ย.-มิ.ย.เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นภาวะเศรษฐกิจหดตัวเป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกัน โฆษกรัฐบาลฮ่องกง กล่าวว่า เมื่อสามารถควบคุมการระบาดได้และสภาพแวดล้อมภายนอกดีขึ้น ก็มีความหวังว่า เศรษฐกิจของฮ่องกงจะค่อย ๆ กลับมาฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปีนี้และคาดหมายว่าในปีนี้เศรษฐกิจจะหดตัวระหว่างร้อยละ 4-7
เฟด คงดอกเบี้ยใกล้ระดับ 0% จนกว่าศก.จะผ่านจุดวิกฤต
ที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำใกล้ๆ ร้อยละ 0 พร้อมเน้นย้ำว่าเส้นทางของโรคโควิด-19 มีความสำคัญมากในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด ยืนยันที่จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับดังกล่าวจนกว่าเศรษฐกิจจะสามารถยืนหยัดรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆได้
นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด กล่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุม 2 วัน ว่า คนอเมริกันจะไม่ใช้จ่ายเงิน จนกว่าจะมีความมั่นใจว่ารู้สึกปลอดภัย ในระหว่างนั้นต้องเพิ่มมาตรการสนับสนุนเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐฯผ่านพ้นวิกฤตครั้งเลวร้ายที่สุดไปให้ได้
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ-ทองคำ ขานรับมติเฟด ปิดตลาดพุ่งขึ้น
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขานรับมติเฟด ปิดบวกทันทีที่เฟด ย้ำคำสัญญาจะใช้ทุกมาตรการอย่างเต็มที่เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
-ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 160.29 จุด หรือร้อยละ 0.61 ปิดที่ 26,539.57 จุด
-เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 40.00 จุด หรือร้อยละ 1.24 ปิดที่ 3,258.44 จุด
-แนสแดค เพิ่มขึ้น 140.85 จุด หรือร้อยละ 1.35 ปิดที่ 10,542.94 จุด
ราคาทองคำ ปิดตลาดเมื่อวันพุธ ขยับขึ้นเป็นวันที่ 9 ติดต่อกันและทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง ขานรับมติเฟดเช่นกัน ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 8.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,953.40 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ก่อนจะดีดตัวขึ้นไปอยู่ที่ 1,958.40 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์
ส่วนราคาน้ำมัน สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 23 เซ็นต์ ปิดที่ 41.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 53 เซ็นต์ ปิดที่ 43.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
คุมไม่ได้! ทุกพื้นที่ของเวียดนาม พบการติดเชื้อโควิด-19
เวียดนาม เป็นอีกหนึ่งประเทศที่สถานการณ์โควิด-19 น่าห่วง หลังจากที่ นายกรัฐมนตรีเหวียน ซวน ฟุก แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติว่าตอนนี้ทุกพื้นที่ในเวียดนามเผชิญกับความเสี่ยงของการติดต่อเชื้อระลอกใหม่ซึ่งแตกต่างจากระลอกสองที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนมี.ค.แม้วิกฤตครั้งนั้นผ่านพ้นไปได้ด้วยมาตรการกักตัวส่วนกลางที่เข้มงวด ช่วยทำให้ตั้งแต่ปลายเดือนม.ค.เวียดนามมีผู้ป่วยสะสมจากโรคโควิด-19 อย่างน้อย 446 คนเท่านั้น และเหลือผู้ป่วยอยู่ในระบบอย่างน้อย 77 คน ทั้งที่มีพรมแดนทางเหนือติดกับจีน แต่สถานการณ์ตอนนี้จำเป็นต้องการความร่วมมืออย่างเคร่งครัดจากประชาชนอีกครั้ง
เมื่อวันเสาร์ เวียดนาม พบการติดเชื้อที่เมืองดานัง ผู้ป่วยเป็นชายอายุ 57 ปี หลังจากนั้นมีการยืนยันผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เชื่อมโยงกับโรงพยาบาล 3 แห่งที่ผู้ป่วยคนแรกไปใช้บริการ จนตอนนี้มีผู้ป่วยสะสมอย่างน้อย 30 คน
มีผลแล้ว! ปิดผับ-บาร์-ห้ามรวมกลุ่ม ในฮานอย พบคนติดเชื้อมาจากดานัง
หลังจากที่เมื่อวานนี้ เจอพนักงานในร้านพิซซ่าที่อยู่ในฮานอย ติดเชื้อโควิด-19 หลังกลับมาจากดานัง ล่าสุด ฝ่ายบริหารกรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม ออกคำสั่งปิดบาร์ ผับต่างๆ และห้ามการรวมกลุ่มชุมนุมขนาดใหญ่ในเมือง คำสั่งนี้มีผลตั้งแต่เที่ยงคืนของวันพุธเป็นต้นไป เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ที่ดานัง ประชาชนกว่า 21,000 คน ที่เดินทางกลับมาจากดานัง จะต้องเฝ้าสังเกตอย่างใกล้ชิดและจะได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 นายเหวียน ดึ๊ก จึง ประธานคณะกรรมการประชาชนกรุงฮานอย ระบุในคำแถลงในเว็บไซต์ ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ต้องออกมาตรการดำเนินการทันทีและทำอย่างรวดเร็วด้วย
น่าตกใจ!ในรอบ 11วัน ผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯ พุ่งขึ้นถึง10,000 ราย
สถานการณ์การเสียชีวิตจากโควิด-19 ที่สหรัฐฯ ที่มีอัตราการเสียชีวิตอันดับ 6 ของโลก จากรายงานระบุว่า อัตราการเสียชีวิตต่อจำนวนประชากร คือ 4.5 รายต่อประชากร 10,000 คน จำนวนผู้เสียชีวิตที่พุ่งเกิน 150,000 รายของสหรัฐฯ คิดเป็นเกือบร้อยละ 23 ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดทั่วโลก 660,997 ราย แต่ที่น่ากังวลก็คือ พบผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 10,000 ราย เพียงแค่ 11 วันเท่านั้น เป็นอัตราการเพิ่มขึ้นที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมิ.ย.
ศูนย์กลางการแพร่ระบาดของสหรัฐฯ เปลี่ยนจากพื้นที่รอบๆ นิวยอร์ก สู่ภาคใต้และภาคตะวันตกของประเทศ แม้ว่า นิวยอร์ก ยังคงเป็นรัฐที่มีตัวเลขผู้เสียชีวิตมากที่สุดในสหรัฐฯ ด้วยจำนวนกว่า 32,000 ราย ขณะที่ ตัวเลขผู้เสียชีวิตในรัฐต่างๆเพิ่มขึ้นอีก เช่นที่ รัฐอาร์คันซอ, รัฐแคลิฟอร์เนีย, รัฐฟลอริดา, รัฐมอนแทนา, รัฐออริกอนและรัฐเท็กซัส