ทบ. ชะลอส่งกำลังพลฝึกร่วมมิตรประเทศ หลัง 9 ทหารไทยติดโควิด รับไม่ปลอดภัย

          หลังทหารไทย 9 นาย ติดโควิด-19 หลังกลับจากการฝึกผสมที่ฮาวาย สหรัฐอเมริกา  พล.อ.ณฐพนธ์ ศรีสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กองทัพบก (ศบค.ทบ.) กล่าวว่า ขณะนี้กองทัพบกกำลังพิจารณาให้ชะลอการฝึกร่วมผสมทั้งหมด เพราะยังไม่มีความปลอดภัย เป็นเรื่องของข้อเท็จจริงว่าอะไรต่างๆ ก็ยังไม่มีความสมบูรณ์ในการป้องกัน และถือเป็นบทเรียนที่เราต้องรักษาความปลอดภัย ขณะนี้กำลังพลของเราแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ติดเชื้อจะต้องเข้ารับการรักษาจนกว่าจะหายดีและผลตรวจเป็นลบจึงจะอนุญาตให้กลับบ้าน ส่วนคนที่ไม่ติดเชื้อเมื่อกักตัวครบ 14 วันแล้วไม่มีอาการก็จะอนุญาตให้กลับบ้านได้

          ส่วนทหารชุดนี้จะต้องเดินทางไปเข้ารับ การตรวจสอบและประเมินผลการฝึก ที่ JRTC Fort Polk ที่รัฐลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา ในเดือน ก.ย.- ต.ค. นี้ พล.อ.ณฐพนธ์ เปิดเผยว่า มีแนวโน้มว่าจะไม่เดินทางไป และมีความจำเป็นต้องทบทวน รวมถึงชะลอเอาไว้ก่อน

          นอกจากนั้น พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เน้นย้ำให้มีการสอบสวนให้ชัดเจน และรักษากำลังพลที่ป่วยให้หายเป็นปกติ รวมถึงการรักษามาตรการไม่ให้มีการแพร่ระบาดเพิ่มเติม โดยเฉพาะการกักตัวอยู่ใน State Quarantine ต้องเคร่งครัด

          ส่วนกำลังพลที่เหลือที่กักตัวอยู่ใน State Quarantine ตอนนี้ก็มีสุขภาพแข็งแรง โดยทางแพทย์ได้เตรียม Swab Test ตรวจทุกคนที่เหลืออีกครั้งในวันที่ 2 ส.ค. เพราะเป็นห่วงว่าเชื้อโรคจะแฝงตัว เพราะคนที่ติดเชื้อก็ไม่ได้มีอาการรุนแรง

          รวมถึงกรณีที่ นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขอให้ กองทัพชะลอการส่งกำลังพลไปฝึก หลังมีทหารติดเชื้อกลับมานั้น พล.อ.ณฐพนธ์ ระบุว่า พล.อ.อภิรัชต์  คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก รับฟังอยู่แล้ว จากวิจารณญาณของกองทัพบก มีความรอบคอบในเรื่องนี้อยู่แล้ว สิ่งไหนที่จะมีความเสี่ยงก็ไม่สามารถที่จะดำเนินการได้

          สำหรับคำถามว่าจะส่งผลกระทบต่อการสับเปลี่ยนกำลังกองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดาน ผลัดที่ 1 และผลัดที่ 2 ที่จะต้องมีการสับเปลี่ยนกำลังในช่วงเดือน ก.ย. - ต.ค. หรือไม่ พล.อ.ณฐพนธ์ ตอบว่า กำลังติดตามอยู่ และรับทราบว่า การป้องกันโรคของกองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดาน ผลัดที่ 1 อยู่ในระดับที่น่าพอใจ และยังไม่มีกำลังพลติดเชื้อ แต่กำลังพลผลัดที่ 2 ที่จะเดินทางไปสับเปลี่ยนกำลังนั้นจะต้องเรียนรู้วิธีการป้องกันที่สูงขึ้นไปอีก และต้องมีหลักประกันที่สูงขึ้นด้วย เพราะเป็นพื้นที่เสี่ยงในการปฏิบัติภารกิจทางทหาร โดยเฉพาะในพื้นที่ ที่กำลังพลต้องปฏิบัติงานร่วมกับองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) จำเป็นที่จะต้องเพิ่มมาตรการในการป้องกันตนเองให้มากขึ้น ต้องไปดูว่าจะเพิ่มขีดความสามารถในส่วนไหน รวมถึงเครื่องมือการป้องกัน หรือเพิ่มขีดความสามารถในการล้างสารปนเปื้อน โดยเฉพาะการปฏิบัติงานร่วมกับพลเรือนต้องมีความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น

          สิ่งที่จะต้องเตรียมเพิ่มเติมให้กับผลัด 2 คือ

1.ชุดอุปกรณ์เครื่องป้องกัน PPE รายบุคคลเพิ่มเติม

2.เครื่องล้างสิ่งปนเปื้อน

3.ระบบแพทย์และสาธารณสุขที่ต้องเตรียมอุปกรณ์เพิ่มเติม