กลุ่มอสม.ยื่นหนังสือเรียกร้องค่าตอบแทนที่ทำเนียบ
อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.)กว่า 50 คน เดินทางมาถึงทำเนียบฯ เพื่อเตรียมยื่นหนังสือเรื่องเงินค่าตอบแทน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า อสม.เรียกร้องให้มีการพิจารณาจ่ายค่าตอบแทน ค่าเสี่ยงภัย กรณีช่วยควบคุมป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อัตรา 500 บาท นาน 19 เดือน ตามข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่ เดือน มี.ค.2563-ก.ย.2564 หลังมีรายงานว่าสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จะลดเหลือ 7 เดือน ซึ่งนายอนุทินจะรับหนังสือและเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาด้วย
ประธาน อสม. ภาคกลาง ระบุว่า ในวันนี้ได้ตั้งใจเดินทางมามอบดอกไม้และให้กำลังใจนายอนุทิน และนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งถือได้ว่าเป็นกระบอกเสียงให้กับ อสม.และขับเคลื่อน อสม.ให้มีกำลังใจ ทั้งนี้ยังได้มีการยื่นหนังสื่อผ่านไปถึงรัฐบาล ที่เนื้อหาสาระสำคัญบอกถึงการทำงานของอสม.ว่าลำบากกับการทำงาน และในสถานการณ์โรคโควิด-19 ก็ทำให้บทบาทของ อสม. หนักขึ้น และการวางตัวเปลี่ยนไป การวางตัวกับครอบครัว ต้องเว้นระยะห่าง การใช้ชีวิตเปลี่ยนไป มีความเสี่ยงติดโควิด-19 ได้ง่าย
ยธ.พร้อมช่วยเหลือค่าใช้จ่าย-ทนายสู้คดีผู้สูญเสียจากคดีบอส อยู่วิทยา
นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษกกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีเพจเฟซบุ๊ก Thailand FACT Today ได้ตั้งข้อสังเกตคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ว่า กระทรวงยุติธรรมเงียบเฉยผิดปกติว่า คดีดังกล่าวอยู่ในกระบวนการตามกฎหมาย ในชั้นสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งกระทรวงยุติธรรมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่สิ่งที่ทำได้ คือ กรณีผู้เสียหายถึงแก่ความตายจากการกระทำผิดอาญาฐานใดฐานหนึ่ง และได้มีการดำเนินคดีโดยพนักงานสอบสวนจนถึงพนักงานอัยการแล้ว แม้พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องคดี แต่ก็ไม่ตัดสิทธิบุพการี ผู้สืบสันดาน สามี หรือ ภริยาของผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้จัดการแทนผู้เสียหายที่ถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 5(2) โดยกฎหมายได้ให้อำนาจผู้จัดการแทนผู้เสียหายสามารถเป็นโจทก์ฟ้องดำเนินคดีอาญาหรือคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญาได้ด้วยตนเอง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 3 โดยต้องใช้สิทธิฟ้องคดีภายในกำหนดอายุความในคดีอาญานั้น
นายวัลลภ กล่าวว่า หากผู้เสียหายมีความประสงค์ฟ้องคดี สามารถยื่นคำขอรับความช่วยเหลือต่อกองทุนยุติธรรมเพื่อขอความช่วยเหลือการใช้สิทธิทางศาล คือ ค่าจ้างทนายความ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมพยานหลักฐาน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ซึ่งกระทรวงยุติธรรมพร้อมที่ดำเนินการทันที
ลมแรง ฝนตกหนัก! ทำให้หลังคาตลาดนัด จ.นครปฐม พังถล่มเสียชีวิต 1 เจ็บ 5
ความเสียหายจากฝนตกหนัก ลมแรง เมื่อวานนี้ทำให้โครงเหล็กขนาดใหญ่ตลาดปฐมนคร ต.บางแขม อ.เมือง จ.นครปฐม พังถล่มลงมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ศูนย์วิทยุมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม เปิดเผยว่า ผู้บาดเจ็บ 5 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 3 คน ช่วยเหลือปฐมพยาบาลในที่เกิดเหตุ เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม และพบว่าทั้งหมดอาการปลอดภัยแล้ว เบื้องต้น สอบถามชาวบ้านที่กำลังเดินจับจ่ายสินค้าในตลาดนัด เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีชาวบ้านและแม่ค้าอยู่ในตลาดเป็นจำนวนมาก แต่จู่ๆ ก็มีเมฆตั้งเค้ามาจากจังหวัดราชบุรี และกาญจนบุรี สีเทาเข้มเหมือนจะมีฝนตกหนัก ไม่นานก็มีลมพัดกระโชกเข้ามาอย่างรุนแรงทำให้แผ่นป้ายบริเวณดังกล่าวปลิวไปมา ไม่นานก็มีเสียงพังครืนของโครงหลังคาลงมา เสียงคนร้องด้วยความตกใจ เมื่อวิ่งไปดูพบโครงหลังคาและหลังคาตกลงมาที่พื้น และทับร่างผู้เสียชีวิต คือ น.ส.กราณี แฟบประโคน อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/4 ม.2 ต.สนามจันทร์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม
พิสูจน์หลักฐาน ตรวจหาสาเหตุไฟไหม้ บริษัทเทคโนโลยีไฟเบอร์กลาส ปทุมฯ เสียหาย 50 ล้าน
ร.ต.อ.ธีรศักดิ์ แสนโท รองสารวัตรสอบสวน สภ.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ตรวจสอบเหตุไฟไหม้โรงงานชื่อ บริษัท เทคโนโลยีไฟเบอร์กลาส จำกัด เลขที่ 29/11 หมู่ 14 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พร้อมทั้งประสานรถน้ำใกล้เคียง จาก อบต.บึงคำพร้อย เทศบาลตำบลธัญบุรี เทศบาลเมืองลาดสวาย และรถน้ำใกล้เคียงกว่า 20 คัน ช่วยกันควบคุมเพลิง เนื่องจากเป็นโรงงานขนาดใหญ่ ปลูกอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่เศษ พบแสงเพลิงและกลุ่มควันจำนวนมาก โรงงานดังกล่าวมีรั้วรอบขอบชิดเป็นอย่างดี เจ้าหน้าที่จึงได้รีบใช้น้ำเพื่อฉีดสกัดเพลิง โดยโรงงานดังกล่าวทำเกี่ยวกับไฟเบอร์ เช่น หลังคารถ ถังต่างๆ ภายในมีทั้งชิ้นงานที่ทำเสร็จแล้ว เพื่อเตรียมส่งลูกค้าในวันเปิดทำการ และยังมีอุปกรณ์อีกมากที่อยู่ระหว่างทำ เบื้องต้น คาดว่า เสียหายไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท
จากการสอบสวน นายธีรพงษ์ ศรีโสภา อายุ 21 ปี คนงาน กล่าวว่า มีพนักงานจำนวน 15 คน เข้ามาทำโอที ระหว่างช่วงพัก ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นสองครั้ง ก่อนจะมีไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว พนักงานทั้งหมดต่างพากันวิ่งหาน้ำและถังดับเพลิงมาดับ แต่ไม่ทัน ไฟลุกไหม้ติดสิ่งของที่เป็นน้ำยาและไฟเบอร์จำนวนมาก มีทั้งที่ทำเสร็จแล้ว และกำลังทำอยู่อีกมาก
พ.ต.อ.ประเวทย์ ต้นสมบูรณ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรปทุมธานี ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบศพผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย คือ นางวรนุช เก้าอุดม อายุ 52 ปี ชาวจังหวัดปราจีนบุรี ถูกไฟไหม้ นางวรนุช ทำงานที่บริษัทนี้มานานกว่า 10 ปี ในขณะเกิดเหตุทำงานอยู่บนออฟฟิศชั้น 2 ตอนเกิดเหตุไม่สามารถหนีออกมาได้