เสี่ยงติดเชื้อน้อย-แต่เป็นพาหะแพร่เชื้อ!ศบค.ต้องวางมาตรการเข้ม หลังให้เด็กกลับไปเรียนได้ตามปกติ

27 กรกฎาคม 2563, 13:45น.


          มาตรการผ่อนคลายมาตรการของสถานศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.)เปิดเผยว่า หลังการเปิดเทอมมาร่วม 1 เดือน ในช่วงแรกมีความกังวลใจว่า การไปโรงเรียนของเด็กที่มีการเล่นใกล้ชิดกันจะมีการติดเชื้อโควิด-19  โดยขณะนี้ ศบค.ชุดเล็กให้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ประเมินรายงานสถานการณ์ พบว่า ในช่วง 1 เดือนยังไม่มีการติดเชื้อในสถานศึกษาเป็นลักษณะกลุ่มก้อน และมีข้อมูลด้วยว่า เด็กเป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อที่ค่อนข้างต่ำ จากรายงานในประเทศไทยมีผู้ป่วยสะสมในกลุ่มนี้เพียงร้อยละ 1-6 แบ่งกลุ่ม 0-9 ปี 62 คน ร้อยละ 1.9 และกลุ่มอายุ 10-19 ปี 126 คน ร้อยละ 3.87



           นักวิชาการให้ข้อสังเกตว่า ที่เด็กติดเชื้อน้อยกว่าเกิดจากสาเหตุของตัวรับเชื้อในโพรงจมูกของเด็กน้อยกว่าผู้ใหญ่ แต่สิ่งที่กังวลคือ สามารถเป็นผู้นำพาหะเชื้อกลับเข้าสู่ในบ้านได้ โดยผู้ใหญ่มีตัวรับเชื้อที่มากกว่า อาจจะมีการติดเชื้อได้ง่ายกว่า



           สธ.และ ศธ.จึงได้หารือกันเพื่อให้ผ่อนคลายเด็กให้กลับไปเรียนได้อย่างปกติ โดยจะต้องมีมาตรการเสริมที่เข้มขึ้น เช่น จัดห้องเรียนให้มีระยะห่างกันมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ห้องแอร์ให้เปิดประตูหน้าต่างในช่วงที่ไม่มีการใช้ห้องเรียน และให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด อำเภอ และตำบล ซึ่งทุกระดับจะต้องเข้าไปดูแลเด็ก กำกับดูแลเป็นลำดับขั้น



          นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า กรมอนามัย สธ.เข้าไปตรวจประเมินและติดตามภายหลังการเปิดภาคเรียน และแนวปฏิบัติของสถานการณ์ความเสี่ยงของการติดโรคในมาตรการผ่อนคลายของสถานศึกษา พบว่า สถานศึกษา จำนวน 25,140 แห่ง มีมาตรการความปลอดภัยการลดการแพร่เชื้อโรคสูงถึงร้อยละ 99.47 แต่มีเพียง 132 แห่งที่ยังปฏิบัติไม่ครบ และได้รับคำชี้แนะเพื่อปรับปรุงแล้ว



          รายงานการป่วยของเด็กจากทุกแห่ง พบว่า 687 คน ป่วยเป็นไข้หวัด ไอ น้ำมูก เจ็บคอ หายใจไม่ได้กลิ่น หายใจหอบ แต่ไม่ใช่การติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อย เนื่องจาก มีมาตรการสวมหน้ากากอนามัย ทำให้เด็กป่วยน้อยลง และรายงานแผนรองรับ พบว่า ร้อยละ 96.25 มีแผนรองรับ และอีก 3.75 ไม่มีแผนรองรับ จึงต้องมีความจำเป็นที่จะเพิ่มเติมส่วนนี้ให้มากขึ้น หากเกิดกรณีที่เด็กติดเชื้อโควิด-19 ขึ้นเพียง 1 คน โรงเรียนจะต้องมีแผนรองรับว่าจะดำเนินการปิดสถานศึกษาอย่างไร เช่น ปิดโรงเรียน ปิดชั้นเรียน หรือ ปิดเฉพาะห้องเรียน



ข่าวทั้งหมด

X