อย่ารื้อฟื้น! หลังศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เสี่ยเบนซ์ กังวลกระทบจิตใจลูกสาวตร.กองปราบ

27 กรกฎาคม 2563, 12:50น.


         หลังศาลจังหวัดตลิ่งชัน พิพากษาจำคุกนายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ หรือ “เสี่ยเบนซ์” เจ้าของธุรกิจผลิตและประกอบอะไหล่รถยนต์ 6 ปี และปรับ 200,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 ปี พร้อมปรับ 100,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา ในคดีขับรถชน พ.ต.ท.จตุพร งามสุชวิชชากุล รองผู้กำกับการ 2 กองปราบปราม และภรรยาเสียชีวิต เมื่อเดือนเมษายน 2562



          ล่าสุดเมื่อเดือนมิถุนายน 2563  ศาลอุทธรณ์พิพากษาตามศาลชั้นต้น หลังอัยการได้ยื่นอุทธรณ์ให้ศาลอุทธรณ์ลงโทษนายสมชายตามกระบวนการ โดยไม่รอลงอาญา และอัยการไม่ยื่นฎีกาอีก



          นายสมชาย หรือ เสี่ยเบนซ์ เปิดเผยว่า ในระหว่างรอฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ส่วนตัวต้องไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 8 ครั้ง ใน 2 ปี รวมทั้งบริการสังคมและสาธารณประโยชน์ 48 ชั่วโมง ในเวลา 1 ปี พร้อมทั้งห้ามดื่มสุรา ของมึนเมา ในวันที่ไปฟังคำพิพากษาไม่ได้บอกใครเลย นอกจากเพื่อนสนิทไม่กี่คนเท่านั้น และไปในช่วงที่มีโควิด-19 ระบาดใหม่ ๆ จากนั้น ไม่ได้ให้ข่าวกับใครเลย เพราะคิดว่าเรื่องนี้มันจะจบแล้ว



          นายสมชาย ย้ำว่า ไม่อยากให้มีการรื้อฟื้นเรื่องนี้ขึ้นมาอีก เพราะว่า ตอนนี้สภาพจิตใจของเด็กและคนอื่นกำลังดีขึ้น ส่วนตัวได้ติดต่อกับลูกสาวผู้เสียชีวิตโดยตลอด คุยไลน์และโทรศัพท์หาพาไปกินข้าว ส่งขนมที่เด็กชอบทานให้เป็นประจำ พอมีข่าวออกมาแบบนี้เหมือนเป็นการไปรื้อฟื้นเรื่องคดี ทำให้เด็กคิดถึงพ่อแม่ ทำให้กลัวว่าสภาพจิตใจของเด็กจะแย่ลง   



         ย้อนคดีนี้ เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2562 ศาลชั้นต้น พิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดกรรมเดียว แต่หลายความผิดจึงลงโทษหนักที่สุดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก จำคุก 6 ปี ปรับ 200,000 บาท แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ สำนึกผิด ไม่เคยมีประวัติต้องโทษมาก่อนศาลให้โอกาสกลับตนเป็นคนดีของสังคม จึงลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 3 ปี ปรับ 100,000 บาท และโทษจำคุกรอลงอาญา โดยให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 8 ครั้ง ใน 2 ปี รวมทั้งบริการสังคมและสาธารณประโยชน์ 48 ชั่วโมงในเวลา 1 ปี พร้อมทั้งห้ามดื่มสุรา ของมึนเมา



แฟ้มภาพ

ข่าวทั้งหมด

X