*กลุ่มจีเอ็มเอส เห็นชอบตั้งศูนย์ประสานงานกลางซื้อขายไฟฟ้า คาดชัดเจนมี.ค. 2558*

20 ธันวาคม 2557, 16:25น.


หลังการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงครั้งที่ 5 หรือการประชุมจีเอ็มเอส นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานกลางการซื้อขายไฟฟ้าระหว่างประเทศสมาชิกในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงหรือ RPCC และการจัดตั้งสมาคมการรถไฟ ซึ่งจะมีการร่วมกันหารือรายละเอียดต่อไป โดยในส่วนของRPCC จะเป็นการร่วมกันวิจัยศึกษาและซื้อขายพลังงานไฟฟ้าระหว่างกันของประเทศสมาชิก ส่วนสมาคมการรถไฟ จะเป็นการพัฒนาร่วมกันในการสร้างทางคมนาคมรถไฟ ซึ่งขณะนี้ไทยและพม่ายังไม่ได้ให้สัตยาบันอย่างเป็นทางการ โดยไทยยังติดข้อกฎหมายบางฉบับ คาดว่าหลังการให้สัตยาบันแล้ว ประมาณ มี.ค. 2558  ทุกประเทศจะต้องมาหารือกันอีกครั้งว่าประเทศใดจะเป็นศูนย์ประสานงานกลางเรื่องการซื้อขายไฟฟ้า คาดว่า ไม่ประเทศไทยก็ประเทศจีน แต่จีนได้ให้การช่วยเหลือด้านงบประมาณเป็นสำคัญ รวมทั้งที่ประชุมยังเห็นชอบให้ร่วมกันหามาตรการสนับสนุนผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อลดความเลื่อมล้ำ ส่วนแผนงานระยะกลางในอีก 5 ปี ตั้งแต่ค.ศ.2014-2018  ไทยมีแผนด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคมเป็นหลัก คาดว่าใช้เงินราว 960,000 ล้านบาท โดยยังต้องหางบประมาณเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะเป็นงบประมาณแผ่นดินและการกู้สถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งจีนก็ได้ให้การช่วยเหลือด้วยข้อเสนอเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำด้วย ในส่วนการลงทุนของประเทศไทย มีโครงการสำคัญคือ การสร้างระเบียงเศรษฐกิจตั้งแต่เหนือถึงใต้ และตะวันตกถึงตะวันออก โดยเฉพาะโครงการถนนมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรีที่จะเชื่อมไปยังระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้  และโครงการรถไฟอรัญประเทศถึงปอตเปต รวมถึงโครงการรถไฟทางคู่ขนาดมาตรฐานเส้นทางหนองคาย-มาบตาพุด และแก่งคอย-กทม.ด้วย และจะผลักดันความตกลงการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ที่คาดว่าไทยจะให้สัตยาบันได้เดือนมีนาคม 2558 ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาการตรวจสินค้าและค่าใช้จ่ายผ่านแดนได้มากกว่าร้อยละ 50 ส่วนด้านท่องเที่ยว ที่ประชุมได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวปีพ.ศ.2559-2569 โดยมุ่งเน้นการเชื่อมโยงนักท่องเที่ยวและลดขั้นตอนการตรวจผู้ผ่านแดน รวมทั้งผลักดันศูนย์ประสานการท่องเที่ยวของอนุภูมิภาคให้เป็นองค์กรระหว่างประเทศด้วย  ส่วนการพัฒนาสินค้าเกษตรกรรม ได้มุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพการเกษตรและการซื้อขายระหว่างกัน รวมทั้งเตรียมหามาตรการรองรับกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งจะส่งผลต่อสินค้าเกษตรได้ 



ธีรวัฒน์

ข่าวทั้งหมด

X