สื่อของทางการอิหร่านรายงานว่า เมื่อวานนี้ (23 ก.ค.) เกิดเหตุเครื่องบินรบของสหรัฐฯ ขัดขวางการบินของเครื่องบินโดยสารของอิหร่าน คือเครื่องบินของสายการบินมาฮาน แอร์ไลน์ ที่ออกเดินทางจากสนามบินกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน มุ่งหน้ากรุงเตหะราน อิหร่าน ทำให้นักบินต้องนำเครื่องกลับมาลงจอดที่สนามบินกรุงเบรุตอีกครั้ง และอพยพผู้โดยสารมากกว่า 150 คนลงจากเครื่อง มีผู้โดยสารหลายคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ด้านสื่อของทางการซีเรียรายงานเพิ่มเติมว่า เครื่องบินรบ 2 ลำในสังกัดกลุ่มแนวร่วมต่อต้านการก่อการร้ายที่มีสหรัฐฯเป็นผู้นำ สกัดเครื่องบินโดยสารของอิหร่านเหนือพื้นที่อัล-ตาฟ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของซีเรีย โดยการบินเข้ามาใกล้เพื่อบังคับให้นักบินของเครื่องบินอิหร่านต้องลดเพดานการบินอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้โดยสารบางรายได้รับบาดเจ็บ และนักบินต้องนำเครื่องบินกลับไปที่กรุงเบรุต ซึ่งยังเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในเขตน่านฟ้าของซีเรีย
นอกจากนี้ยังมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอขณะที่เกิดเหตุผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งผู้โดยสารเครื่องบินหลายคนร้องตะโกนด้วยความตกใจ เมื่อเห็นเครื่องบินรบเข้ามาใกล้กับเครื่องบินโดยสาร และมีผู้โดยสารหลายคนได้รับบาดเจ็บจากการลดระดับการบินอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ร.อ.บิล เออร์บัน โฆษกกองบัญชาการกลาง กองทัพสหรัฐฯ ปฏิเสธว่า เครื่องบินรบ F-15 ปฏิบัติการลาดตระเวนทางอากาศตามปกติ เหนือพื้นที่อัล-ตาฟใกล้ชายแดนอิรักกับจอร์แดน เมื่อนักบินพบเครื่องบินโดยสารของสายการบินมาฮานจึงทำการบินในระยะปลอดภัยคืออยู่ห่างจากเครื่องบินโดยสาร 1,000 เมตร
ล่าสุดเครื่องบินของอิหร่านได้รับการเติมน้ำมัน และออกเดินทางกลับไปอิหร่านแล้วในวันนี้ (24 ก.ค.)
...