นายกฯ เสนอเอดีบีและจีน ช่วยลดความเหลื่อมล้ำกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง

การประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงหรือการประชุมสุดยอดผู้นำจีเอ็มเอส 6 ประเทศ ครั้งที่ 5 ที่จัดขึ้นที่โรงแรมแชงกรีลา ปิดฉากลงแล้ว  พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกประเทศให้ความร่วมมือและยินดีในการพัฒนาร่วมกัน โดยเห็นตรงกันว่าต้องมุ่งลดความเหลื่อมล้ำทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ซึ่งในกลุ่มจีเอ็มเอส แต่ละประเทศยังมีความเลื่อมล้ำทางรายได้อยู่มาก อีกทั้งยังขาดงบประมาณในการพัฒนา ซึ่งนายกฯได้เสนอให้ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียหรือเอดีบี และประเทศจีนเข้ามาเป็นหุ้นส่วนในการช่วยเหลือ อีกทั้งเสนอให้พัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตร ที่เป็นจุดเด่นของกลุ่ม เพื่อเพิ่มมูลค่าและการต่อรองในตลาดระหว่างประเทศ ขณะเดียวกัน ชี้แจงว่า จะให้นักลงทุนและภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานมากขึ้น รวมทั้งประชาชนต้องได้รู้การทำงานของรัฐบาล ยืนยันว่ารัฐบาลคำนึงถึงประชาชนเป็นสำคัญ พร้อมระบุว่า การแข่งขันในสังคมโลกขณะนี้ ต้องพัฒนาความสามารถและคำนึงถึงปัจจัยต่างๆให้รอบด้าน ทั้งความมั่นคง สังคม และเศรษฐกิจ ส่วนอนาคตจะเร่งเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษตามชายแดนให้มากขึ้น เพื่อกระจายรายได้ พร้อมกับการพัฒนาเยาวชนที่จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ ส่วนความท้าทายของกลุ่มจีเอ็มเอส คือ ปัญหาด้านสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรกร อีกทั้งภัยธรรมชาติและภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ โดยระบุว่าจะร่วมมือกับประเทศต่างๆให้มากขึ้น ในฐานะพันธมิตรและการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ขณะเดียวกันได้หารือกับทุกประเทศถึงการบริการจัดการน้ำในลุ่มแม่น้ำโขงว่าต้องมีระบบจัดการอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ โดยทุกประเทศต้องได้รับน้ำในปริมาณที่เท่ากัน พร้อมระบุว่าประชาชนจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ หากไม่ได้รับความร่วมมือ รัฐบาลก็คงทำงานไม่ได้

ธีรวัฒน์