ปธน.สหรัฐฯจะส่งเจ้าหน้าที่จากรัฐบาลกลางรักษาความสงบในเมืองที่มีเหตุอาชญากรรมรุนแรง

23 กรกฎาคม 2563, 06:30น.


          ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เปิดเผยว่าจะส่งเจ้าหน้าที่จากรัฐบาลกลางลงพื้นที่หลายเมืองที่มีเหตุอาชญากรรมเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งรวมถึงชิคาโกและอีก 2 เมืองที่มีนายกเทศมนตรีเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต ทำให้ถูกวิจารณ์ว่าประธานาธิบดีมีเป้าหมายทางการเมือง



          ทั้งนี้ การประท้วงต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติทำให้ทางการท้องถิ่นหลายแห่งมีความตึงเครียดเกิดขึ้น และมีเพียงทางการท้องถิ่นเมืองพอร์ทแลนด์ รัฐโอเรกอน ที่มีมติรับรองให้รัฐบาลกลางส่งทหารเข้ามาในพื้นที่ได้



          ในระหว่างการแถลงข่าว ประธานาธิบดีได้ยกตัวอย่างคดีเด็กชายเลเจนด์ ทาลิเฟอร์โร อายุ 4 ขวบที่ถูกยิงในบ้านของเขาที่แคนซัสซิตี้ รัฐมิสซูรี ในเดือนมิถุนายน ซึ่งประธานาธิบดีกล่าวโทษนายกเทศมนตรีจากพรรคเดโมแครตว่า “อ่อนแอ” ทั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมายังมีการเคลื่อนไหวเพื่อที่จะยุบหน่วยงานตำรวจในพื้นที่ขณะที่มีเหตุฆาตกรรมและอาชญากรรมเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ แต่การนองเลือดนี้จะต้องจบลง ผู้เป็นแม่ไม่ควรจะต้องสูญเสียลูกเพราะนักการเมืองปฏิเสธที่จะทำสิ่งที่จำเป็นเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับพลเมือง



          ด้านนายวิลเลียม บาร์ รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ กล่าวว่าได้ส่งเจ้าหน้าที่ทหารประมาณ 200 นายไปยังแคนซัสซิตี้ กับจำนวนที่เท่ากันไปยังชิคาโก,และอีก 35 นายไปอัลบูเคอร์คี นิวเม็กซิโก ทั้งมีการตั้งวงเงินงบประมาณมากกว่า 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1,897 ล้านบาท) เพื่อสนับสนุนการว่าจ้างเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองที่มีเหตุรุนแรงเพิ่มขึ้น ซึ่งรัฐมนตรียุติธรรมกล่าวว่า รัฐบาลกลางขยายการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับเหตุอาชญากรรม ซึ่งจะแตกต่างจากการส่งเจ้าหน้าที่ของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิที่มีเป้าหมายการทำงานคือเพื่อป้องกันการจลาจลและความรุนแรงของผู้ประท้วงในเมืองพอร์ทแลนด์ รัฐโอเรกอน ซึ่งดำเนินมา 54 คืนติดต่อกันแล้ว แต่การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหารจากรัฐบาลกลางถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าใช้กำลังรุนแรงต่อผู้ประท้วงเกินกว่าเหตุ



...

ข่าวทั้งหมด

X