ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพุธที่ 22 กรกฎาคม 2563
WHO ทำสารคดี ยกไทย –นิวซีแลนด์ประสบความสำเร็จในการควบคุม-ป้องกันโควิด-19
เฟซบุ๊กส่วนตัวของ นพ.บัลลังก์ อุปพงศ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้โพสต์ข้อความ "World Health Organization (WHO) เลือกประเทศไทยและนิวซีแลนด์ ในการถ่ายทำสารคดีความสำเร็จในการจัดการการควบคุมและป้องกันโควิด-19 โดยเดินทางมาที่ห้องปฏิบัติการอ้างอิงของประเทศไทย ที่ “National Institute of Health" นับเป็นความภูมิใจสำหรับภาคสาธารณสุขของประเทศไทย
นอกจากนั้น ยังมีคำถามถึงห้องปฏิบัติการที่สามารถทดสอบโควิด-19 ได้โดยไทยมีห้องปฏิบัติการรวม 207 ห้องทั่วประเทศ เคสที่ได้รับการยืนยันทั้งหมดจะถูกแยกกักตัวจนกว่าจะไม่ติดเชื้อเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อในชุมชน นอกจากนั้น ยังจะได้รับการดูแลทางคลินิกเพื่อลดการเสียชีวิต รวมถึงจะนำรายชื่อผู้ติดต่อที่ใกล้ชิดเพื่อติดตามและกักกันเป็นเวลา 14 วันเช่นกัน หวังว่าโควิด-19 จะถูกกำจัดในอีก 1 ปี
จีนประสบความสำเร็จปลูกถ่ายปอด ช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19ได้
สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัดปลูกถ่ายปอด สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้วเมื่อวานนี้ ( 21 ก.ค.) หลังจากเข้ารับการผ่าตัด ตั้งแต่ปลายเดือนเม.ย.ผู้ป่วยรายนี้ เป็นแรงงานเกษียณอายุ เริ่มมีไข้เมื่อวันที่ 23 ม.ค. และได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 7 ก.พ. เขาถูกย้ายไปที่โรงพยาบาลเหรินหมินแห่งมหาวิทยาลัยอู่ฮั่นเมื่อวันที่ 18 มี.ค.โดยต้องใช้เครื่องเอคโม หรือเครื่องช่วยพยุงการทำงานของหัวใจและปอด
หลิน ฮุ่ยชิง ศัลยแพทย์ทรวงอกอาวุโส กล่าวว่า ผลการทดสอบกรดนิวคลีอิกของผู้ป่วยกลับมาเป็นลบหลังการรักษา แต่มีภาวะพังผืดแทรกเนื้อปอดที่กลับคืนสภาพไม่ได้ส่งผลให้ปอดล้มเหลว ต้องรักษาด้วยการปลูกถ่ายปอดเท่านั้น โรงพยาบาลได้ร่วมมือกับทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกถ่ายปอดแห่งชาติได้เริ่มการผ่าตัดในวันที่ 20 เม.ย. โดยการผ่าตัดใช้เวลากว่า 6 ชั่วโมง หลังจากรักษาการเกิดภาวะปฏิเสธปอดเฉียบพลัน การติดเชื้ออย่างรุนแรง การดื้อยาหลายขนาน รวมถึงการทำงานของลำไส้และไตล้มเหลว ซึ่งเป็นภาวะที่ตามมาหลังการผ่าตัด แต่นายชุ่ยก็สามารถประคองร่างกายด้วยตัวเองในกลางเดือนมิ.ย. กลับมานั่งบนรถเข็นได้ในเดือนก.ค. แต่ยังมีความจำเป็นต้องฟื้นฟูสมรรถภาพเพิ่มเติม เนื่องจากขาของนายชุ่ยมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง
ส่วนยอดผู้ติดเชื้อในจีนวันนี้ รวม 14 คน เดินทางกลับจากต่างประเทศ 5 คน และติดภายในประเทศ 9 คน แบ่งเป็น 5 คนที่พบว่าติดเชื้อจากต่างประเทศอยู่ในนครเซี่ยงไฮ้ และกวางตุ้งอย่างละ 2 คน ส่วนอีก 1 คน อยู่ในมณฑลยูนนาน สำหรับ 9 คนที่ติดในประเทศพบว่าอยู่ในซินเจียงอุยกูร์
วัคซีนโควิด-19 ทดสอบในคน 142 รายการ ยังเสี่ยงเชื้อกลายพันธุ์
ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ขณะนี้มีวัคซีนที่อยู่ระหว่างการประเมินผลทางคลินิกอย่างน้อย 24 รายการ และอยู่ระหว่างการทดลองก่อนการทดสอบในมนุษย์ (Pre-clinical) อีก 142 รายการ ทีมนักวิจัยจีนระบุในการศึกษาฉบับใหม่ที่ได้รับการเผยแพร่ลงในเดอะแลนเซ็ต (The Lancet) วารสารทางการแพทย์ชื่อดังว่าในการทดลองระยะที่ 2 ของวัคซีนโรคโควิด-19พบว่าวัคซีนรายการดังกล่าวมีความปลอดภัยและชักนำการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันได้
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ (UQ) ในออสเตรเลีย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในไทย และสถาบันอื่นๆ อีกหลายแห่ง ยังรายงานผลที่น่าพอใจในการวิจัยวัคซีนโรคโควิด-19 แม้จะมีข่าวดีเกี่ยวกับวัคซีนโรคโควิด-19 ออกมาต่อเนื่อง แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาเตือนถึงความไม่แน่นอนของการพัฒนาวัคซีนและการทดลองทางคลินิก
ดร.ไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารโครงการเหตุฉุกเฉินด้านสุขภาพ (Health Emergencies Program) ขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่า แม้ข้อมูลเบื้องต้นของวัคซีนทดลองบางรายการ จะมีแนวโน้มค่อนข้างน่าพอใจ แต่ยังคาดการณ์ไม่ได้ว่ารายการใดที่มีประสิทธิภาพทางคลินิกที่สมบูรณ์
รายงานการศึกษาบางฉบับยังแสดงให้เห็นว่าระดับของแอนติบอดีจะลดลง หลังผู้ป่วยโรคโควิด-19 ฟื้นตัว ด้วยเหตุนี้ความพยายามร่วมกันของทีมวิจัยทางวิทยาศาสตร์จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นในการรับมือปัญหาต่างๆ อาทิ วิธีที่จะทำให้วัคซีนโรคโควิด-19 สามารถให้ภูมิคุ้มกันที่เพียงพอในระยะยาว และวิธีจัดการกับความผันแปรของไวรัสที่อาจเกิดขึ้นได้
นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลกได้เรียกร้องว่าก่อนจะมีวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ใช้งานอย่างเป็นทางการ ทุกประเทศควรดำเนินมาตรการป้องกันและควบคุมโรคที่ครอบคลุมทุกด้านอย่างต่อเนื่อง
ยอดผู้ติดเชื้อในโอซากา พุ่งเกิน 100 นายกฯญี่ปุ่นเดินหน้าแคมเปญเที่ยวในประเทศต่อ แม้จะเสี่ยงโควิด-19ระบาดหนัก
สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศญี่ปุ่น ประจำวันที่ 22 กรกฎาคม 2563 พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมในกรุงโตเกียว 238 คน นับเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันที่มีผู้ติดเชื้อเกิน 200 คน และนับเป็นวันที่ 14 ติดต่อกันที่กรุงโตเกียวมีผู้ติดเชื้อเกินกว่า 100 คน นอกจากนั้น ยังพบผู้ติดเชื้อในจังหวัดโอซากาประมาณ 120 คน ซึ่งมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และเป็นครั้งแรกที่จังหวัดโอซากามีผู้ติดเชื้อเกินกว่า 100 คน
ด้านนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ กล่าวว่า รัฐบาลจะเดินหน้ากิจกรรม “Go To Campaign” ต่อไปเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ และขอให้ประชาชนปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสฯ อย่างเคร่งครัด
ส่วนที่จังหวัดโอกินาวา จะเริ่มตรวจ antigen จากน้ำลาย ซึ่งจะทำให้รู้ผลอย่างรวดเร็ว ในกลุ่มผู้เดินทางเข้าโอกินาวาและมีไข้สูงที่สนามบินนาฮา เพื่อรองรับโครงการ “Go To Campaign” นอกจากนี้ จะแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโดยใช้บริการ Line และสนับสนุนให้ประชาชนใช้แอปพลิเคชั่น COCOA
สำหรับกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และการประมงญี่ปุ่น ได้เริ่มเปิดให้ร้านอาหารต่าง ๆ สมัครเข้าร่วมกิจกรรม “Go To Eat” แล้ว เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน กิจกรรมดังกล่าวจะให้คูปองลดราคาร้านอาหารร้อยละ 25 แก่ประชาชน และผู้ที่จองร้านอาหารทางออนไลน์ จะสามารถสะสมแต้มได้สูงสุดถึง 9 ดอลลาร์สหรัฐฯ คาดว่า จะสามารถเริ่มกิจกรรมได้ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้
เปิดขึ้นตอน ต่างชาติ4กลุ่มเข้าไทย คลายล็อกเฟส6
ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ มีมติเห็นชอบในหลักการ ผ่อนคลายมาตรการเพื่อเปิดให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดยให้มีการกำหนดแนวทางปฏิบัติต่างๆ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยว่า ชาวต่างชาติ 4 กลุ่ม ที่จะผ่อนผันให้สามารถเดินทางเข้าประเทศ ประกอบด้วย
1.กลุ่มที่เข้ามาร่วมงานแสดงสินค้า
2.กองถ่ายทำภาพยนตร์
3.กลุ่มที่เข้ามาตามโครงการ Medical & Wellness Program เพื่อเข้ารับบริการทางสุขภาพ
และ 4.กลุ่มผู้ถือบัตร Thailand Elite Card
สำหรับแนวทางปฏิบัติเบื้องต้นคือ จะต้องมีการกักตัวใน Alternative Quarantine และจะมีเจ้าหน้าที่ติดตามกลุ่มที่เดินทางเข้ามาตลอดระยะเวลา ส่วนกลุ่ม Medical & Wellness Program หลังจากเข้ามาพักรักษาอยู่ในโรงพยาบาลครบ 14 วันแล้ว สามารถเดินทางท่องเที่ยวต่อไปในที่ต่างๆ ได้
ส่วนกลุ่มผู้ถือบัตร Thailand Elite Card ที่ปัจจุบันมีสมาชิกรวมทั้งสิ้น 10,363 ราย แบ่งเป็นอยู่ในไทย 3,108 ราย และอยู่ต่างประเทศ 7,255 ราย จะเริ่มนำร่องให้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ 200 ราย หลังจากนี้ หากมีการอนุมัติการผ่อนคลายระยะที่ 2 หน่วยงานเกี่ยวข้องจะแถลงรายละเอียดเพิ่มเติม
ด้านรศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยอมรับไม่ได้กับการให้กลไกเดิมดำเนินต่อไปปล่อยให้เกิดปัญหา แล้วตามแก้ไข แต่สุดท้ายบานปลายมากขึ้นเรื่อยๆ จนใกล้ถึงจุดที่จะกู่ไม่กลับเหมือนการระบาดในยุโรปและสหรัฐอเมริกา พร้อมระบุว่า หากยอมให้วางยุทธศาสตร์ปล่อยคนติดเชื้อตามที่กำหนด เอาเข้าจริงจะคุมได้ยากมาก เพราะเหตุผลหลักได้แก่ พื้นฐานการมีระเบียบวินัย รวมถึงปัจจัยทางการเมืองต่างขั้วที่ปลุกปั่นให้คนไม่กลัวโรค และระดมกันออกมาทำกิจกรรมเสี่ยงสูงต่างๆ อาจทำให้เปลี่ยนประเทศจากปลอดภัย ไปสู่ดงโรค (endemic area) ดีไม่ดีจะยิ่งกว่าสถานการณ์ในประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศด้วยซ้ำ
ส่วนแรงงานต่างด้าว จาก 3 ประเทศ จำนวนราว 100,000 คน หากประมาณว่ามีโอกาสติดเชื้ออยู่ราวร้อยละ0.5 จะมีอยู่ 500 คน และมีโอกาสหลุดจากการคัดกรองประมาณ 65 คน และมีโอกาสแพร่ได้หากระบบกักตัวและติดตามหรือการป้องกันตัวของประชาชนในชุมชนไม่ดีพอ
ในขณะที่กลุ่มนักธุรกิจนักลงทุน ราว 2,000-3,000 คน จาก 5 ประเทศที่ประกาศมานั้น จากข้อมูลราว 4 ประเทศ หากเข้ามาจากแต่ละประเทศเฉลี่ยพอๆ กัน โอกาสติดเชื้อเฉลี่ยราวร้อยละ2.5 คิดเป็นจำนวน 50-75 คน และมีโอกาสหลุดรอดจากการคัดกรองประมาณ 7-10 คน ยังไม่รวมกลุ่มนักเรียนนักศึกษาต่างชาติ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ป่วยต่างชาติ และอื่นๆ อีก
ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด'อนงค์วรรณ เทพสุทิน' พร้อมพวกทุจริตคดีฝายแม้ว ปี 51 งบ 770 ล้าน
มีรายงานว่าจากกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ชี้มูลความผิดกล่าวหา นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับพวก กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการเกี่ยวกับโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรดินและป่าไม้ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เพื่อลดผลกระทบ ภาวะวิกฤตโลกร้อน (ฝายแม้ว) วงเงินงบประมาณปี 2551 จำนวน 770 ล้านบาท กรณีการก่อสร้างฝายต้นน้ำแบบผสมผสานและการเพาะชำ/ปลูกหญ้าแฝก โดยมิชอบ และหักเงินโครงการดังกล่าว เพื่อประโยชน์ สำหรับตนเองและผู้อื่นโดยมิชอบ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ
หลังที่ประชุม ป.ป.ช. ชุดใหม่ มีมติแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว จะส่งหนังสือแจ้งให้นางอนงค์วรรณ รับทราบ เพื่อเข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อคณะอนุกรรมการไต่สวนภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด สำหรับนางอนงค์วรรณ เป็นภรรยาของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด ยิ่งลักษณ์ นิวัฒน์ธำรง สุรนันท์ อนุมัติโรดโชว์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด กรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล และนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ บมจ. มติชน และนายฐากูร บุนปาน บมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท และนายระวิ โหลทอง มีมูลความผิดทางอาญา กรณีเมื่อปี พ.ศ.2556 ได้อนุมัติและดำเนิน "โครงการ Roadshow สร้างอนาคตไทย Thailand 2020" โดยมิชอบ เป็นการใช้งบประมาณ 240 ล้านบาทเกิดความสูญเปล่า เป็นเหตุให้ราชการได้รับความเสียหาย
รองเลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า กรณีนี้ เป็นการใช้งบประมาณผิดประเภท (งบกลางฯ), ดำเนินการเซ็นสัญญากับเอกชนไปก่อนที่จะมีการออกใบงวดงาน, มีพฤติการณ์เร่งรีบรวบรัดขั้นตอนในเวลาอันสั้น, จัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษที่ไม่มีความเหมาะสม, ปล่อยให้เกิดการสมยอมราคากัน, กระทำการซ้ำซ้อนกับกระทรวงคมนาคมที่เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ และเกิดความสูญเปล่าทำให้ทางราชการได้รับความเสียหาย 240 ล้านบาท หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ. 2 ล้านล้านบาทตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ
ศาลปกครองสูงสุด ไม่รับพิจารณาคดีทบทวน ค่าโง่โฮปเวลล์
ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งยืนตามศาลปกครองชั้นต้นไม่รับคดีค่าโง่โฮปเวลล์ไว้พิจารณาใหม่ หลังผู้ยื่นคำร้องคือ กระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ยื่นต่อศาลขอให้ศาลปกครองชั้นต้นรับพิจารณาคดีใหม่ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกรณีศาลเคยวินิจฉัยคดีไปก่อนหน้านี้ มีประเด็นที่พิจารณาข้อเท็จจริงผิดพลาดเรื่องมีพยานหลักฐานและประเด็นใหม่ในคดี รวมถึงกรณีที่มีการยื่นข้อมูลว่าบริษัท โฮปเวลล์ มีคุณสมบัติขัดกฎหมายไทยในการเข้าประมูลงาน เนื่องจากตามข้อมูลที่ยื่นกับนายทะเบียน (กรมธุรกิจการค้า) ทำให้โฮปเวลล์ มีสถานะเป็นต่างชาติที่เข้าประมูลงาน
จากประเด็นดังกล่าวศาลพิจารณาเห็นว่า คุณสมบัติโฮปเวลล์จะขัดกฎหมายไทยหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่หน่วยงานภาครัฐขณะนั้นจะต้องพิจารณาและทราบก่อนลงนามในสัญญา รวมถึงคณะรัฐมนตรีขณะนั้นก็ต้องทราบข้อมูล เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่เป็นผู้ลงนามนั่งอยู่ในคณะรัฐมนตรี รวมทั้งยังมีหน่วยงานรัฐ เช่น สำนักงานกฤษฎีกา สำนักงานอัยการที่ต้องตรวจร่างสัญญา ดังนั้น หากบริษัทโฮปเวลล์ มีคุณสมบัติขัดต่อกฎหมาย ทุกหน่วยงานต้องทราบก่อนลงนามสัญญา ดังนั้น จากข้อมูลทั้งหมดจึงเป็นเหตุให้ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามศาลปกครองชั้นต้น
หุ้นเอเชีย ปิดลดลง วิตกยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังสูง
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,357.04 จุด ลดลง 19.96 จุด มูลค่าการซื้อขาย 63,863.04 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ ปัจจัยลบ หลังรัฐบาลสหรัฐฯได้สั่งให้จีนปิดสถานกงสุลที่เมืองฮิวสตันภายใน 72 ชั่วโมง ทำให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดข้อพิพาทรอบใหม่ระหว่างสหรัฐฯและจีน จนอาจนำไปสู่นโยบายด้านภาษีรอบใหม่
กระทรวงการต่างประเทศจีน ประณามสหรัฐฯ หลังมีคำสั่งด่วนเมื่อค่ำวานนี้ ขอให้สถานกงสุลจีนประจำเมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส ยุติการปฏิบัติงานและกิจกรรมทั้งหมดภายใน 72 ชั่วโมง นับเป็นการยกระดับความขัดแย้งกับประเทศจีน และการกระทำของสหรัฐฯขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ กระทบความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ พร้อมทั้งเรียกร้องให้สหรัฐฯเพิกถอนคำสั่งนี้โดยทันที มิฉะนั้นจีนจะดำเนินมาตรการเพื่อตอบโต้ต่อไป
ก่อนหน้านี้ ตำรวจในเมืองฮิวสตันระบุว่า ได้รับแจ้งว่ามีควันที่บริเวณลานข้างสถานกงสุลจีน ซึ่งตั้งอยู่ในย่านมอนโทรส บูเลอวาร์ด ด้านสื่อท้องถิ่นแชร์คลิปวีดิโอที่ดูเหมือนจะแสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ในกงสุลจีนกำลังเผาทำลายเอกสารจำนวนมาก เบื้องต้นยังไม่มีความชัดเจนว่า อะไรคือเหตุจูงใจที่แท้จริงทำให้สหรัฐฯสั่งปิดสถานกงสุลจีน ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่าง2 ประเทศเสื่อมโทรม มาตั้งแต่ปีที่แล้ว เริ่มตั้งแต่สงครามการค้า ปัญหาขัดแย้งเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ล่าสุดคือการที่สหรัฐฯวิจารณ์จีนในเรื่องสิทธิมนุษยชนในฮ่องกงและในมณฑลซินเจียง
นอกจากนี้ ไทยมีโอกาสที่อาจจะถูกขึ้นบัญชี Watchlist ในเรื่องการแทรกแซงค่าเงิน หลังจากที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯได้มีการตรวจสอบแล้ว เข้าข่ายเงื่อนไขของการขึ้นบัญชี Watchlist ซึ่งก่อนหน้านี้ไทย และมาเลเซีย”ก็มีความเสี่ยงที่จะถูกขึ้นบัญชี Watchlist ในเรื่องแทรกแซงค่าเงินด้วยเช่นกัน
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลดลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นเพื่อทำกำไรหลังตลาดปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และยังลังเลที่จะเข้าซื้อหุ้นก่อนวันหยุดยาวในช่วงสุดสัปดาห์นี้ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ นิกเกอิปิดที่ 22,751.61 จุด ลดลง 132.61 จุด
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ฮั่งเส็ง ปิดที่ 25,057.94 จุด ลดลง 577.72 จุด