ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.วันพุธที่ 22 กรกฎาคม 2563

22 กรกฎาคม 2563, 09:30น.


ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกทะลุ 15,000,000 คนแล้ว



          รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 244,205 คน  ยอดรวม 15,050,613 คน เสียชีวิตเพิ่มอีก 5,945 ราย รวม 617,771 ราย



-สหรัฐฯ ทะลุ 4,000,000 คนไปพร้อมกันกับที่ทั่วโลกทะลุ 15,000,000 คน ติดเชื้อเพิ่ม 68,644 คน รวมแล้ว 4,019,684 คน



-บราซิล ติดเพิ่ม 41,190 คน รวม 2,159,654 คน



-อินเดีย ติดเพิ่ม 39,168 คน รวม 1,194,085 คน



-รัสเซีย ติดเพิ่ม 5,842 คน รวม 783,328 คน



-เปรู สเปน อิหร่าน ปากีสถาน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ก็ยังคงติดกันหลักพัน



-กลุ่มประเทศยุโรปอื่นๆ รวมถึง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ล้วนติดกันหลักร้อยอย่างต่อเนื่อง



-เกาหลีใต้ จีน มาเลเซีย ติดกันหลักสิบเช่นเดิม



CR:facebook  รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์



“ทรัมป์” หันมาสวมหน้ากาก รักษาระยะห่าง   



          ในระหว่างการบรรยายสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ยังคงหลีกเลี่ยงการกล่าวเตือนพลเมืองโดยตรงเกี่ยวกับสถานการณ์ของโรคและแนวทางปฏิบัติ โดยกล่าวว่าสถานการณ์ของโรคอาจจะ “แย่ลงก่อนที่มันจะดีขึ้น" และขอให้ชาวอเมริกันทุกคนสวมหน้ากากปกปิดหน้าไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ รักษาระยะห่างทางสังคม และล้างมือ มิเช่นนั้น "จะได้รับผลกระทบ" และการสวมหน้ากาก ยังเป็นการแสดงถึง "ความรักชาติ"



          ก่อนหน้านี้สื่อในสหรัฐฯ หลายแห่งรายงานว่ากลุ่มผู้ช่วยของประธานาธิบดีได้ขอให้เปลี่ยนแนวทางการหาเสียงเนื่องจากสถานการณ์ของไวรัสที่แพร่กระจายไปทั่วประเทศ ตัวของนายทรัมป์ ยังเคยแสดงความเห็นที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงในหลายเรื่องรวมถึงการ “ฉีดยาฆ่าเชื้อเพื่อรักษาผู้ป่วย” ซึ่งทำให้เขาได้รับความน่าเชื่อถือลดลง จนอาจต้องพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปลายปีนี้ ทำให้ในการแถลงข่าวครั้งนี้ไม่มีผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และหลีกเลี่ยงการตอบคำถาม โดยหนึ่งคำถามที่เขาเลือกตอบในระหว่างการแถลงข่าวคือการที่เขาไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยว่าเป็นเพราะการแถลงข่าวครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าวจำนวนน้อย



คาด ปรับครม.เรียบร้อย กลางเดือน ส.ค.



          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กล่าวถึง เรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) ภายหลัง 6 รัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง เหลือรัฐมนตรี 30 คน ว่าจะเร่งปรับ ครม.ให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ มีกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติ เมื่อมีคนตอบรับแล้วต้องตรวจสอบคุณสมบัติและนำรายชื่อเสนอขึ้นทูลเกล้าฯ ตามกระบวนการ ขอให้สบายใจได้ว่าจะทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้



          น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงต้นการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ ขอบคุณรัฐมนตรีทุกคนที่ช่วยกันทำงาน ขอบคุณรัฐมนตรีที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ เพราะทุกคนทำงานร่วมกันมานาน และต่อให้วันนี้คนน้อยลงกว่าเดิม ก็ต้องช่วยกันทำงานต่อไป และคาดว่าการปรับ ครม.จะเรียบร้อยภายในกลางเดือนส.ค. ทั้งนี้ ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความเห็น แต่การตัดสินใจอยู่ที่นายกฯ



ยอดลงทะเบียน 'เราเที่ยวด้วยกัน' พุ่ง 4.33 ล้านคน ใช้สิทธิ์จองที่พัก 1.4 แสนห้อง



          นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผย ความคืบหน้ามาตรการท่องเที่ยว “เราเที่ยวด้วยกัน” ที่เปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ เราเที่ยวด้วยกัน.com ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. ว่า เวลา 21.00 น.วันที่ 21 ก.ค. มีผู้เข้ามาลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการรวม 4,330,000 คน และลงทะเบียนสำเร็จแล้ว 4,110,000 คน ขณะนี้กำลังทยอยแจ้งผลทาง sms



          ขณะที่การจองโรงแรม ที่เปิดให้ผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จจองที่พักเพื่อเดินทางไปท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. ล่าสุด ผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จใช้สิทธิ์แล้ว 142,591 สิทธิ์ จากจำนวนที่กำหนดไว้ไม่เกิน 5,000,000 สิทธิ์  ส่วนยอดลงทะเบียนไม่สำเร็จ มีอยู่ราว 220,000 คน เนื่องจาก ระหว่างลงทะเบียนอาจจะสะกดชื่อ-นามสกุล วัน เดือน ปีเกิด หรือเลขที่บัตร รหัสหลังบัตรผิดที่ใดที่หนึ่ง จึงส่งผลให้ลงทะเบียนไม่สำเร็จ อย่างไรก็ดี กรณีดังกล่าวสามารถลงทะเบียนใหม่ได้



          สำหรับรายละเอียดแพ็กเกจเราเที่ยวด้วยกัน รัฐจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายโรงแรมที่พักร้อยละ 40 ของราคาที่พักต่อห้องต่อคืน (ไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน) และสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 2,000,000 ใบ ผู้จองที่พักมีสิทธิ์ได้รับเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสารในลักษณะการจ่ายเงินคืนผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตังร้อยละ 40 แต่ไม่เกิน 1,000 บาทต่อที่นั่ง และจองที่พัก 1 ห้อง จะได้รับสิทธิ์บัตรโดยสารไม่เกิน 2 ใบ รวมถึงรับคูปองดิจิทัล หรืออีวอชเชอร์มูลค่า 600 บาทต่อวัน ใช้เป็นส่วนลดค่าอาหารและค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวที่ร่วมโครงการ ล่าสุด ครม. เห็นชอบให้มีการเพิ่มวงเงินในการใช้จ่ายโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ในการช่วยค่าอาหารและค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวจากวันละ 600 บาท เพิ่มเป็น 900 บาท ในกรณีการจองที่พักเพื่อเที่ยวในวันธรรมดาเท่านั้น โดยให้มีผลทันที ส่วนผู้ลงทะเบียนสิทธิ์ท่องเที่ยววันเสาร์-อาทิตย์ ยังรับวันละ 600 บาทเช่นเดิม



CR:www.เราเที่ยวด้วยกัน.com



ศาลปกครองสูงสุด อ่านคำร้องยื่นอุทธรณ์คดีโฮปเวลล์



          ช่วงบ่ายนี้ 13.30 น. ศาลปกครองกลาง นัดอ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ 107/2552, 2038/2551, 1379/2552 คดีหมายเลขแดงที่ 366-368/2557 ระหว่าง กระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย  2 ผู้ร้อง กับ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้คัดค้าน ที่ห้องพิจารณาคดี 5 ชั้น 3 อาคารศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ  คดีนี้ ศาลปกครองสูงสุด ได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2562 ให้บังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 119/2547 หมายเลขแดงที่ 64/2551 ลงวันที่ 30 กันยายน 2551 ที่ให้ผู้ร้องทั้งสองคืนเงินค่าตอบแทนที่ผู้คัดค้านชำระและใช้เงินในการก่อสร้างโครงการ พร้อมดอกเบี้ยให้แก่ผู้คัดค้าน ผู้ร้องทั้งสองได้มีคำร้องยื่นต่อศาลปกครองกลางขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ โดยอ้างว่าศาลปกครองสูงสุดรับฟังข้อเท็จจริงผิดพลาด และมีพยานหลักฐานใหม่อันอาจทำให้ข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลง ผู้ร้องทั้งสองจึงยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวของศาลปกครองกลางต่อศาลปกครองสูงสุด



 

ข่าวทั้งหมด

X