ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม 2563

22 กรกฎาคม 2563, 07:46น.


สธ.สรุปคดีย้อนหลังตะลุมบอนในรพ. รอบ 9 ปี เกิดเหตุ 66 ครั้ง



          นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เมื่อเกิดกรณีทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกายบุคลากรทางการแพทย์ ขณะปฏิบัติหน้าที่ภายในโรงพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข สั่งการให้สถานพยาบาลทุกแห่ง ดูแลความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรผู้ปฏิบัติหน้าที่ (2P Safety) ทบทวนและเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาล



-ปี 2562 เกิดเหตุทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายในโรงพยาบาล 6 ครั้ง แจ้งความดำเนินคดีทุกราย คดีถึงที่สุดแล้วทั้งหมด 3 คดี คือ



1.กรณีโรงพยาบาลสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ศาลตัดสินจำคุก 10 เดือน 20 วัน และปรับคนละ 2,000 บาท จำนวน 2 คน อีก 6 คน ถูกตัดสินจำคุกคนละ 8 เดือน ปรับคนละ 2,000 บาท ไม่รอการลงโทษ และอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลอีก 1 คน เนื่องจากให้การปฏิเสธ



2.กรณีผู้ป่วยทำลายทรัพย์สินของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) สงคราม อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ศาลมีคำพิพากษาผิดตามประมวลกฎหมายอาญาฐานพกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ ไม่มีเหตุสมควร ปรับ 1,000 บาท ฐานบุกรุกสำนักงานในความครอบครองของผู้อื่นโดยมีอาวุธ ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย จำคุก 6 เดือน ฐานสูบบุหรี่ในเขตปลอดบุหรี่ จำคุก 5 เดือน ปรับ 2,500 บาท ริบของกลาง ไม่รอการลงโทษ



3.กรณีวัยรุ่นทะเลาะวิวาทที่ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลอ่างทอง ศาลจังหวัดอ่างทอง พิพากษาเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2562 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ให้ผู้ก่อเหตุที่บริเวณหน้าห้องฉุกเฉิน 8 คน รับโทษจำคุกคนละ 6 เดือน แต่ผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุกคนละ 3 เดือน และลงโทษจำคุกผู้ก่อเหตุภายในห้องฉุกเฉินทั้ง 3 คน คนละ 3 ปี ฐานบุกรุกในเวลากลางคืน ทำร้ายร่างกายและทำให้เสียทรัพย์ แต่ผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุกคนละ 1 ปี 6 เดือน ตามคำพิพากษาศาลจังหวัดอ่างทองเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2563



-ข้อมูลย้อนหลัง 9 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2555-2563 พบว่า มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นจำนวน 66 ครั้ง ปี 2555 จำนวน 1 ครั้ง ปี 2556 ไม่มีเหตุ ปี 2557 จำนวน 1 ครั้ง ปี 2558 จำนวน 7 ครั้ง ปี 2559 จำนวน 1 ครั้ง ปี 2560 จำนวน 10 ครั้ง ปี 2561 จำนวน 17 ครั้ง ปี 2562 จำนวน 28 ครั้ง และปี 2563 จำนวน 1 ครั้ง ทำให้มีบุคลากรสาธารณสุข เสียชีวิตรวม 3 ราย บาดเจ็บ 15 คน ประชาชนเสียชีวิต 9 ราย บาดเจ็บ 58 คน ทุกคดีถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันทีโดยไม่มีการรอลงอาญา



           ส่วนคดีล่าสุดในโรงพยาบาลในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ ควบคุมกลุ่มวัยรุ่นจากซอยโรงเหล็กเข้าไปชกแพทย์หญิงในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลวิภารามชัยปราการ และเข้าไปรุมทำร้ายอริภายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้าฯ รวมทั้งหมด 15 คน แยกเป็นกลุ่มวัยรุ่นจากซอยโรงเหล็ก 14 คน เป็นชาย 10 คน และหญิง 4 คน ขึ้นรถสำหรับส่งตัวผู้ต้องหา 1 คัน และแยกตัวนายธนพล ทองชัยยะ มือมีดแทงวัยรุ่นกลุ่มซอยมหาวงษ์เสียชีวิต นำตัวไปฝากควบคุมที่ห้องขัง สภ.สำโรงเหนือ เพื่อป้องกันการเผชิญหน้าของทั้ง 2 ฝ่าย ไปขออำนาจศาลจังหวัดสมุทรปราการฝากขัง คัดค้านการประกันตัว



          ขณะที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวกลุ่มผู้ต้องหาซอยมหาวงษ์ทั้ง 14 คน ไปฝากขัง ก็มีกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์กว่า 10 คัน ขี่ประกบไปให้กำลังใจเพื่อนที่ควบคุมอยู่ภายในรถ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมเข้มตลอดเส้นทาง เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทาง



พบเบาะแส! รถตู้โฟล์คสวาเกน จับสาว หลังสวนลุมฯ



          การติดตามเบาะแส คนขับรถตู้โฟล์คสวาเกน​ สีบรอนซ์ ชักชวนหญิงผู้เสียหายรายหนึ่งจากย่านสวนลุมพินี และแสดงพฤติกรรมใช้สก็อตเทปรัดคอ มือ หญิงคนดังกล่าวไว้กับรถจนต้องร้องขอความช่วยเหลือ ต่อมาแฟนหนุ่มของหญิงสาวตามมาช่วย คนขับรถตู้ได้พยายามขับรถหนี แต่แฟนหนุ่มได้กระโดดเกาะรถก่อนไปเกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ส่วนหญิงสาวหนีตายลงจากรถมาได้และเข้าแจ้งความที่สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อขอให้ติดตามรถตู้คันดังกล่าวมาดำเนินคดี



          พ.ต.อ.สุธี​ เสน่ห์​ลักษณา ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ​ และพ.ต.อ.ปิโยรส​ กัณหะสิริ​ ผกก.สส.บก.น.5​ สั่งชุดสืบสวนกระจายกำลังตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายก่อเหตุและหลบหนี โดยจุดเริ่มต้นจากสวนลุมพินีที่รับหญิงสาวก่อนวิ่งไปตามถนนพระราม 4 จนถึงเชิงสะพานไทย-เบลเยี่ยม ที่ชายหนุ่มถูกชนและตกลงมา​ ก่อนที่คนร้ายจะขับรถหลบหนีเข้าถนนพระราม 3 โดยอาจเบี่ยงรถหลบเข้าใต้ทางด่วน  เบื้องต้นพบเบาะแสรถตู้​คันดังกล่าวใช้แผ่นกระดาษเขียนเลขทะเบียนด้วยปากกาปิดป้ายทะเบียนจริง ตบ 3374 เมื่อตรวจสอบเลขบนกระดาษแล้วไม่พบว่าได้จดแจ้งกับกรมการขนส่งทางบก มีรายงานว่า ผู้ก่อเหตุนั้น​อาจจะไม่ใช่เจ้าของรถที่แท้จริง​ น่าจะเป็นเพียงคนขับรถ​ แต่นำรถออกมาใช้​โดยที่เจ้าของรถไม่ทราบ​และมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งคาดว่าเร็วๆ นี้จะมีความคืบหน้าในการติดตามตัวมาดำเนินคดี



เสียหาย 6 หลังไฟไหม้ชุมชนคลองเตย



          การตรวจสอบเหตุไฟไหม้ภายในชุมชนคลองเตย ล็อก 1 ถนนอาจณรงค์ แขวงและเขตคลองเตย รถดับเพลิงพร้อมหน่วยกู้ภัยเดินทางไปที่เกิดเหตุเป็นชุมชนแออัด เจ้าหน้าที่ต้องหาแหล่งน้ำและลากสายเข้าไปดับเพลิงที่กำลังโหมลุกไหม้อย่างหนัก ใช้เวลา 30 นาที จึงควบคุมเพลิงได้ในที่สุด ชาวบ้าน เล่าเหตุการณ์ว่า ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด จึงรีบวิ่งเข้าไปดู พบไฟเริ่มลุกไหม้ พยายามนำถังดับเพลิงไปฉีดควบคุม แต่ไม่สำเร็จ เพลิงลุกลามบ้านที่สร้างด้วยไม้ปลูกติดกันอย่างรวดเร็ว จากการตรวจสอบเบื้องต้นเพลิงลุกไหม้ไป 6 หลัง นอกจากนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครถูกกระจกบาด 1 คน ปฐมพยาบาลจุดเกิดเหตุ สาเหตุเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากผู้พักอาศัยกระทำการประมาททำให้เกิดไฟไหม้



ครม.จ่ายเยียวยาลูกจ้างเกือบ 60,000 คน ม.33 ส่งเงินสมทบไม่ครบ 6 เดือน



          น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีอีกราย แถลงเพิ่มว่า ครม. ยังอนุมัติโครงการชดเชยรายได้ให้กับลูกจ้าง เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ส่งเงินสมทบไม่ครบ 6 เดือน ภายใน 15 เดือน รวม 59,776 คน ให้ได้รับเงินเยียวยาเดือนละ 5,000 บาท  เป็นเวลา 3 เดือน มิ.ย.-ส.ค. เป็นเงิน 15,000 บาท โดยจ่ายเพียงครั้งเดียว ใช้เงินจากเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ภายใต้แผนการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 วงเงินรวม 896.64 ล้านบาท



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X