ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.วันพุธที่ 22 กรกฎาคม 2563

จับคนร้าย ก่อเหตุจับตัวประกันในยูเครนได้แล้ว

          เจ้าหน้าที่ความมั่นคงใช้เวลานานหลายชั่วโมง สามารถควบคุมตัวนายมัคซิม ครีวอช อายุ 44 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุจับตัวประกัน 13 คน บนรถโดยสารได้แล้ว เหตุเกิดที่เมืองลุทส์ค ประเทศยูเครน หลังจากที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครน คำตามที่คนร้ายเรียกร้องและยอมปล่อยตัวประกันทั้งหมดและเข้ามอบตัว นายอาร์เซน อวาคอฟ รัฐมนตรีกิจการภายใน หัวหน้าคณะผู้เจรจากับคนร้าย ทวีตข้อความว่า ชาวเมืองลุทส์ค ทุกคนปลอดภัยแล้ว

          สถานการณ์จับตัวประกันเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 13.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย นายครีวอช ยื่นข้อเรียกร้องหลายเรื่องรวมถึงการให้ปล่อยตัวนักการเมืองท้องถิ่นที่ถูกควบคุมตัวฐานก่อการร้าย ในระหว่างที่ก่อเหตุคนร้ายยิงปืนและขว้างระเบิดโชคดีที่ไม่ทำงาน รวมถึงอ้างว่าวางระเบิดไว้หลายจุดในสถานที่สาธารณะในเมือง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องอพยพประชาชนจำนวนมากออกจากพื้นที่เพื่อค้นหาระเบิด จากการตรวจสอบหลังเหตุการณ์จบลงแล้ว พบว่า นายครีวอช มีอาวุธหลายชนิด เคยถูกจำคุก 10 ปี ฐานทุจริตและมีอาวุธอยู่ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย

ข่มขวัญจีน! กองทัพเรือสหรัฐฯ-อินเดีย ซ้อมรบในมหาสมุทรอินเดีย

          กองทัพเรือสหรัฐฯ ส่งกองเรือรบบรรทุกเครื่องบินนิมิตซ์ แล่นเข้าสู่มหาสมุทรอินเดีย เพื่อซ้อมรบร่วมกับกองทัพเรืออินเดีย เป็นสัญญาณล่าสุดของความร่วมมือระหว่างกองทัพเรือของ 2 ประเทศ การฝึกซ้อมยุทธนาวี มีขึ้นใกล้หมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ ของอินเดีย บริเวณปลายสุดตอนบนของช่องแคบมะละกา ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินเรือขนส่งสินค้าและน้ำมันผ่านมากที่สุดในโลก พล.ร.ต.จิม เคิร์ค ผู้บัญชาการกองเรือรบบรรทุกเครื่องบินนิมิตซ์ กล่าวว่า การซ้อมรบร่วมกับกองทัพเรืออินเดีย ช่วยปรับระบบปฏิบัติการร่วมของกองกำลังทั้ง 2 ฝ่ายได้เป็นอย่างดี

          การซ้อมรบของกองทัพเรือสหรัฐฯและพันธมิตร มีขึ้นขณะที่การแข่งขันทางทหารระหว่างสหรัฐฯกับจีนเข้มข้นมากขึ้น ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างอินเดียกับจีนตึงเครียดหนักหลังจากเมื่อเดือนที่แล้วเกิดการปะทะกันระหว่างทหารของทั้ง 2 ฝ่าย ที่ประจำการอยู่ตามแนวเขตแดนร่วมบนเทือกเขาหิมาลัย ทำให้ทหารอินเดียเสียชีวิต 20 ราย และชาวอินเดียชาตินิยมเรียกร้องให้รัฐบาลกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับสหรัฐฯและกลุ่มชาติพันธมิตรรวมถึงญี่ปุ่น

ทหารสหรัฐฯ ติดโควิด-19 ในเกาหลีใต้เกือบ 50 คน  

          กองกำลังสหรัฐฯ ในเกาหลีใต้ แจ้งว่า ช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมามีกำลังพล ลูกจ้างและครอบครัวติดโรคโควิด-19 เกือบ 50 คน ทั้งหมดพบว่าติดเชื้อเมื่อเดินทางถึงเกาหลีใต้หรืออยู่ระหว่างกักตัว 14 วันหลังเดินทางถึง ทำให้ชาวเกาหลีใต้เกิดความวิตกกังวลเป็นอย่างมาก  ทางการเมืองพยองแท็ก จังหวัดกยองกี ทางเหนือของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นที่ตั้งฐานทัพใหญ่ของสหรัฐฯ ขอให้รัฐบาลให้ความมั่นใจว่าทหารอเมริกันทุกนายได้รับการตรวจหาเชื้อก่อนเดินทางเข้ามา ปัจจุบันกำลังพลของสหรัฐฯในเกาหลีใต้มีอยู่ราว 28,000 นาย 

เริ่มสอบแล้ว! ออสเตรเลีย พุ่งเป้าจนท.โรงแรมนอนกับคนที่กักตัว สาเหตุระบาดรอบ2     

          เจ้าหน้าที่ออสเตรเลีย สืบสวนอย่างเป็นทางการ เพื่อสรุปว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นในเมืองเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย มีสาเหตุมาจากเรื่องอื้อฉาวตามโรงแรมหลายแห่งที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการกักกักโรคผู้เดินทางเข้าประเทศหรือไม่  เมื่อวานนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 374 คน สูงสุดในรอบ 6 วัน  และหลังเที่ยงคืนวันนี้ ทางการเริ่มมาตรการบังคับให้ประชาชนในเมืองเมลเบิร์น และพื้นที่มิตเชลล์ไฟร์ที่อยู่ติดกัน สวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ

          นายแดเนียล แอนดรูว์ ผู้ว่าการรัฐวิกตอเรีย ประกาศว่าภาครัฐจะทุ่มเงินสนับสนุนการสอบสวนเรื่องนี้ถึง 3,000,000 ดอลลาร์ ยอมรับว่า การติดเชื้อหลายกรณีเมื่อปลายเดือนพ.ค.ถึงต้นเดือนมิ.ย.อาจจะเกี่ยวกับกรณี การติดเชื้อจากการฝ่าฝืนมาตรการควบคุมโรคในโรงแรมสถานที่กักกันโรค 

          การสืบสวนล็อกเป้าต้องสงสัยไปที่บริษัทเอกชนผู้รับเหมาบริการรักษาความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับระบบโรงแรมกักโรค ที่อาจละเมิดมาตรการควบคุมการแพร่เชื้อ สื่อมวลชนออสเตรเลีย รายงานอ้างแหล่งข่าววงในในโรงแรมกักกันโรค อ้างว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำโรงแรมหลับนอนกับแขกระหว่างกักกันโรค มีการทุจริตในการทำงาน เบิกเงินทั้งที่ไม่ได้ทำงาน นอกจากนี้แล้ว ยังมีกรณีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลต่อเนื่องยาวนานสูงสุด 8 ชั่วโมง โดยไม่ได้เปลี่ยนชุดใดๆ ขณะเดียวกัน ก็ยังมีเรื่องของเจ้าหน้าที่โรงแรมขาดการฝึกฝนในด้านการป้องกันโรค โดยเจ้าหน้าที่บางคน เปิดเผยว่า ได้รับการฝึกไม่กี่ชั่วโมงก่อนจะถูกส่งตัวมาทำงานที่โรงแรม อนุญาตให้ผู้ถูกกักกันโรคที่มากันแบบเป็นครอบครัวเดินไปมาระหว่างห้องกันได้ จับกลุ่มเล่นไพ่และเล่นเกม เป็นต้น

ซาอุฯ ให้ชาวมุสลิมร่วมพิธีฮัจญ์เพียง 1,000 คน

สถานการณ์โรคโควิด-19 ในแต่ละประเทศ

-ซาอุดีอาระเบีย จะเริ่มพิธีฮัจญ์วันที่ 29 ก.ค.นี้ อนุญาตให้ชาวมุสลิมเข้าร่วมพิธีเพียง 1,000 คน จากปกติที่มีผู้แสวงบุญเข้าร่วมถึง 2,500,000 คน ข้อมูลจากสถาบันจอห์น ฮอปกินส์ รายงานผู้ติดเชื้อในซาอุดีอาระเบียเมื่อเวลา 05.54 น. 255,825 คน เสียชีวิต 2,557 ราย

-บราซิล มีผู้เสียชีวิตทะลุ 80,000 ราย และรัฐมนตรีอีก 2 คน ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19

-ญี่ปุ่น มีรายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่ 237 คนในกรุงโตเกียว ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ที่มีผู้ติดเชื้อเกิน 100 คน ขณะที่ คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น จ่ายเงินชดเชยเป็นค่าธรรมเนียมให้ชาวกรุงโตเกียวที่ถูกยกเลิกแพคเกจการท่องเที่ยว เนื่องจากกรุงโตเกียวไม่ได้เข้าร่วมโครงการเราไปเที่ยวด้วยกัน

-ฟิลิปปินส์ นายฟรานซิสโก ดุ๊ก รัฐมนตรีสาธารณสุข ประชุมร่วมกับประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต ผ่านทางโทรทัศน์ว่ารัฐบาลมีเป้าหมายที่จะตรวจหาไวรัสให้ได้ 32,000-40,000 คน/วัน จากปัจจุบันที่ทำได้ 20,000-23,000 คน/วัน เท่านั้น นายดุ๊ก กล่าวว่า มีเป้าหมายที่จะตรวจให้ได้ถึง 10 ล้านคน หรือ 1 ใน 10 ของจำนวนประชากรทั้งหมด ที่ต้องตรวจให้เสร็จสิ้นภายในไตรมาส 2 ของปีหน้า ในกลุ่มอาเซียน ฟิลิปปินส์ เป็นประเทศอันดับ 2 รองจากจากอินโดนีเซียที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อและคนเสียชีวิต และมีกรณีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงอย่างก้าวกระโดดเกือบ 4 เท่า มาอยู่ที่ 68,898 คน และตัวเลขการเสียชีวิตเพิ่มเกือบ 2 เท่าอยู่ที่ 1,835 ราย นับตั้งแต่เมื่อเดือนมิ.ย. ที่กรุงมะนิลา คลายล็อกมาตรการ อย่างไรก็ตาม พื้นที่ที่มีการระบาดหนักมากที่สุดได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์ ด้านผู้นำฟิลิปปินส์ ขู่ที่จะใช้มาตรการจับกุมกับทุกคนที่แพร่ไวรัส ไม่สวมหน้ากากอนามัย หรือไม่ทำตามกฎการเว้นระยะห่างทางสังคม

-รัฐฟลอริดา สหรัฐฯ สมาพันธ์การศึกษารัฐฟลอริดา FEA (Florida Education Association) ที่มีสมาชิกอยู่ราว 140,000 คน ยื่นฟ้องผู้ว่าการรัฐ นายรอน เดอซานติซ (Ron DeSantis) และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ที่เร่งรัดเปิดเรียน เนื่องจาก รัฐฟลอริดา กลายเป็นศูนย์กลางการระบาดโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯ เฉพาะแค่วันจันทร์ จำนวนผู้เสียชีวิต 90 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตรวมอยู่ที่ 5,072 ราย ส่วนเคสติดเชื้อรายใหม่ 10,347 คน และกว่า 9,500 คน อยู่ในโรงพยาบาล