จีน-เนปาล เข้มคัดกรองคนเดินทางเข้าประเทศ ต้องปลอดโควิด-19

          มาตรการเข้มข้นสำหรับตรวจผู้เดินทางเข้าประเทศของจีน ล่าสุด สำนักงานการบินพลเรือนของจีน หรือ CAAC ระบุในเว็บไซต์ทางการว่า ผู้เดินทางเข้าประเทศจีนต้องมีผลตรวจหากรดนิวคลีอิกไม่เกิน 5 วันเมื่อมาถึงจีน และสถานที่ตรวจต้องผ่านการรับรองจากสถานทูตจีนในประเทศของผู้เดินทาง

          ทั้งนี้ สถานทูตจีนจะประเมินประสิทธิภาพการตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 ของประเทศผู้เดินทางอย่างถี่ถ้วน และกำหนดขั้นตอนการเดินทางเมื่อเงื่อนไขการตรวจหาเชื้อตรงตามมาตรฐานที่จีนกำหนด จีนประกาศใช้มาตรการนี้ หลังประสบปัญหาด้านขีดจำกัดและความเร็วในการตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 ขณะที่ในสหรัฐฯต้องใช้เวลารอผลตรวจนานถึง 2 สัปดาห์ ส่วนประเทศอื่น ๆ การตรวจหากรดนิวคลีอิกถูกจำกัดสิทธิ์ไว้เฉพาะผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโรคโควิด-19 หรือมีอาการเสี่ยงติดเชื้อเท่านั้น

          สำนักงานการบินพลเรือนของจีนอนุญาตให้สายการบินต่างประเทศเดินทางเข้ามาในจีนเมื่อเดือนที่แล้ว และเพิ่มจำนวนเที่ยวบินเข้าประเทศหลังเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว อย่างไรก็ดี จีนได้ระงับเที่ยวบินขาเข้าของหลายสายการบินหลังตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อโรคโควิด-19 จำนวน 5 คนเมื่อเดินทางมาถึงจีน

          ด้านเนปาลซึ่งอยู่ระหว่างจีนกับอินเดียใช้มาตรการปิดเมืองทั้งประเทศและระงับเที่ยวบินพาณิชย์ตั้งแต่เดือนมีนาคมเมื่อพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายแรก จนถึงขณะนี้มีผู้ป่วยสะสม 17,844 คน เสียชีวิต 40 ราย ล่าสุด คณะรัฐมนตรีเนปาลมีมติให้เปิดเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานในกรุงกาฐมาณฑุซึ่งเป็นท่าอากาศยานนานาชาติแห่งเดียวของประเทศ ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคมนี้ เป็นต้นไป

          โฆษกท่าอากาศยานกาฐมาณฑุ กล่าวว่า ใช้ระเบียบความปลอดภัยอย่างการรักษาระยะห่างทางสังคม การใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ และการสวมหน้ากากอนามัยอยู่แล้วกับเที่ยวบินเช่าเหมาลำพิเศษสำหรับอพยพชาวเนปาลกลับประเทศ สายการบินพาณิชย์จะต้องเสนอตารางการบินให้ท่าอากาศยานอนุมัติก่อนจึงจะเริ่มให้บริการได้อีกครั้ง