เร่งจับที่เหลือตีกันในรพ. จับได้แล้ว 11 คน รวมคนที่ต่อยหมอด้วย
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าเหตุทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายกันภายในโรงพยาบาล จ.สมุทรปราการ ทำให้มีผู้บาดเจ็บและทรัพย์สินของโรงพยาบาลได้รับความเสียหาย รายงานจาก สภ.สำโรงใต้ ระบุเหตุการณ์ว่า สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ได้แบ่งออกเป็น 3 คดี
-คดีแรก เหตุชุลมุนต่อสู้กันภายในซอยโรงเหล็ก ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ มีผู้ต้องหา13 คน สามารถพิสูจน์ทราบได้แล้ว 2 คน ได้แก่ ผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ ยังอยู่ระหว่างสอบสวน ขยายผลและพิสูจน์ทราบผู้ก่อเหตุที่เกี่ยวข้องรายอื่นๆ
-คดีที่สอง เหตุร่วมกันบุกรุกโรงพยาบาลวิภารามชัยปราการ และ ทำร้ายร่างกายบุคลากรทางการแพทย์ มีผู้ต้องหา 2 คน สามารถพิสูจน์ทราบผู้ต้องหาที่ก่อเหตุทั้ง 2 คนได้แล้ว
-คดีที่สาม เหตุร่วมกันบุกรุกโรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้าสมิงพราย ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์และร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บแก่กายและจิตใจ มีผู้ต้องหา 15 คน สามารถพิสูจน์ทราบและควบคุมตัวได้แล้ว 11 คน โดยพนักงานสอบสวน จะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.ท.สุเมธ สาลี สารวัตรสืบสวน สภ.สำโรงใต้ นำกำลังไปจับกุมผู้ต้องหาที่บ้านพักภายในซอยวัดมหาวงษ์ ต.สำโรง อ.พระประแดง ได้ผู้ต้องหาทั้งหมด 11 คน ทั้งชายหญิง โดย 3 ใน 11 เป็นผู้ต้องหารายสำคัญที่ปรากฏในคลิปวงจรปิดภายในห้องฉุกเฉินทั้ง 2 โรงพยาบาล ประกอบด้วย
-นายภาณุวัฒน์ หรือกั๊ก สุขแย้ม ผู้ต้องหาที่ชกต่อยแพทย์หญิงและบุรุษพยาบาล
-นายนิพล หรือมิน วันชม อายุ 23 ปี ก่อเหตุชกต่อยแพทย์หญิง
-นายกานต์ หรือออม แสงชัย อายุ 21 ปี ก่อเหตุชกต่อยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลภายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลวิภารามชัยปราการ
ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือเป็นผู้ร่วมก่อเหตุ ตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีทั้งหมดในข้อหา “ร่วมกันชุลมุนต่อสู้กัน เป็นเหตุให้มีผู้ถึงแก่ความตายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ” และ “ร่วมกันบุกรุกสถานพยาบาลในยามวิกาล, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ”
นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า คดีทำร้ายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล พนักงานอัยการยื่นฟ้องต่อศาลขอให้ลงโทษสถานหนักและไม่รอลงอาญามาหลายสำนวนแล้ว เพราะโรงพยาบาลควรเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุด เหตุครั้งนี้กระทำต่อบุคลากรทางการแพทย์ ถือเป็นเรื่องร้ายแรง ใครคิดกระทำอีกขอให้เลิก ที่ผ่านมามีคดีวัยรุ่นเมาในสถานบันเทิง ชอบใช้กำลัง โดยเฉพาะในโรงพยาบาล อัยการฟ้องหนักแน่ เตรียมก้มหน้ารับกรรมที่ก่อไว้
เจอตัวแล้ว! ชายขับเบนซ์ บังคับให้ลุงกราบแม่ ฉุนโดนขับรถปาดหน้า
พ.ต.อ.บรเมศร์ สายคำทอน ผกก.สภ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามถนนสายต่างๆ ทราบตัวคนก่อเหตุแล้ว เป็นเหตุชายขับรถเบนซ์ สีดำ ทำร้ายนายมนตรี อายุ 69 ปี เนื่องจากโมโหที่ขับรถปาดหน้า ทำให้แม่ตัวเองศรีษะโขกด้านหน้าตัวรถ จึงบังคับให้กราบขอโทษแม่ตัวเอง ชายคนขับรถเบนซ์ สีดำ คือ นายพรศักดิ์ อายุ 46 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด เมื่อพูดคุยและสอบถามแม่ของนายพรศักดิ์ ก็ทราบว่า วันที่ 17 ก.ค. เกิดเหตุดังกล่าวจริง แต่นายพรศักดิ์ไม่อยู่บ้าน เดินทางไปเยี่ยมพี่ชายที่จังหวัดเชียงใหม่ และจะเดินทางกลับมามอบตัวกับพนักงานสอบสวนในวันนี้เพื่อให้ปากคำและรับทราบข้อกล่าวหา คือข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น จากนั้นพนักงานสอบสวนก็จะมีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ด้านนายมนตรี ได้ดูภาพของนายพรศักดิ์แล้ว ยืนยันว่าเป็นคนขับรถเบนซ์และทำร้ายตัวเองที่ร้านรับทำ พ.ร.บ.รถยนต์ จริงๆ ขอให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายไปตามขั้นตอน ส่วนตัวยังยืนยันว่าไม่ให้อภัยเช่นเดิม
เตือน! นักลงทุน อย่าถือทองคำนาน มีโอกาสทำกำไรระยะสั้น ในช่วงราคาพุ่ง
ความกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆทั่วโลก กระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ทำให้นักลงทุนบางส่วนถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 7.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,817.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า จากราคาทองคำตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่า ราคาทองคำสัปดาห์นี้อาจปรับขึ้น หลังสัปดาห์ที่ผ่านมาทิศทางราคาทองอยู่ในช่วงปรับฐาน ประเมินทิศทางตลาดโลกสัปดาห์หน้าจะอยู่ในกรอบ 1,775-1,845 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำในประเทศอยู่ที่บาทละ 27,500 - 28,000 บาท และเชื่อว่านักลงทุนจะทำกำไรระยะสั้นได้ในช่วงนี้ ดังนั้น จึงขอแนะนำอย่าถือไว้ยาวหรือเก็บไว้นานตามที่มีการมองว่าราคาทองอาจสูงถึง 30,000 บาท ต้องติดตามสถานการณ์และปัจจัยภายนอกประเทศด้วย
ราคาทองทั้งทองรูปพรรณและทองคำแท่งที่สูงขึ้นเช่นนี้ จึงเป็นช่องทางของกลุ่มมิจฉาชีพทำทองปลอมและทองยัดไส้จำนวนมาก สมาคมค้าทองคำ เตือนผู้บริโภคไม่ควรสั่งซื้อทองทุกชนิดในร้านออนไลน์ทุกร้าน จะได้ทองปลอมและทองไม่ได้มาตรฐานทั้งสิ้น
น้ำมันโลก ขานรับข่าวดีทดลองวัคซีน-หุ้นแนสแดค ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาล
ราคาน้ำมันตลาดโลกขยับขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากมีความหวังเรื่องผลการทดลองวัคซีนโควิด-19 ที่ออกมาในแง่ดี ช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกที่พุ่งขึ้นเหนือ 14.5 ล้านคน กรณีวัคซีนที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดกับ AstraZeneca ดูเหมือนมีความปลอดภัยและกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในการทดลอง
-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 22 เซ็นต์ ปิดที่ 40.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
-เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 14 เซ็นต์ ปิดที่ 43.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดเพิ่มขึ้น
-แนสแดค ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลอีกรอบ ได้แรงหนุนจากหุ้นแอมะซอนเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.9 ไมโครซอฟต์และบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อื่นๆ ก่อนจะมีการเผยแพร่รายงานผลประกอบการในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แนสแดค เพิ่มขึ้น 263.90 จุด หรือร้อยละ 2.51 ปิดที่ 10,767.09 จุด
-ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 8.92 จุด หรือร้อยละ 0.03 ปิดที่ 26,680.87 จุด
-เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 27.11 จุด หรือร้อยละ 0.84 ปิดที่ 3,251.84 จุด
เสนอครม.เพิ่มเกณฑ์โรงแรมเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันนี้ กระทรวง