ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2563
กรมชลประทาน เพิ่มระบายน้ำลงแม่น้ำน้อย เกษตรกรอ่างทองได้น้ำทำการเกษตรแล้ว
การแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำในการทำการเกษตรบริเวณจังหวัดอ่างทอง นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากนายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทานว่า ขณะนี้ ได้เพิ่มการระบายน้ำเข้าสู่แม่น้ำน้อยสู่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชัณสูตร ซึ่งเป็นแหล่งน้ำชลประทานในเขตจังหวัดอ่างทอง จาก 15 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 20 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ประกอบกับก่อนหน้านี้ ได้มีฝนตกลงพื้นที่จังหวัดอ่างทอง จึงทำให้มีปริมาณน้ำมากขึ้น สามารถไปหล่อเลี้ยงต้นข้าวของเกษตรกรที่ปลูกแล้วได้ ส่วนเกษตรกรที่ยังไม่ได้ปลูกข้าวนาปีในช่วงนี้ ทางกรมชลประทานเข้าไปทำความเข้าใจและขอความร่วมมือเกษตรกรให้รอฝนตกสม่ำเสมอก่อนตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายว่า ฝนที่ทิ้งช่วงจะกลับมาตกอีกครั้งจากระยะนี้ไป เมื่อฝนตกสม่ำเสมอจึงค่อยเพาะปลูก
ทางการจีนระเบิดเขื่อนในมณฑลอานฮุยทางตะวันออกของประเทศ เพื่อระบายน้ำและบรรเทาอุทกภัย
กระทรวงจัดการภาวะฉุกเฉินของจีน ระบุว่า ระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นในภาคกลางและตะวันออกของจีน ส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิตหรือสูญหายกว่า 140 ราย และมีอีกเกือบ 24 ล้านคนที่ได้รับผลกระทบ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของมณฑลอานฮุย เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ ทางการจีนได้ระเบิดเขื่อนกั้นน้ำเหนือแม่น้ำฉูในมณฑลอานฮุย เนื่องจากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเกือบแตะระดับสูงสุด และสร้างความปลอดภัยให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้เคียง
ขณะที่สื่อท้องถิ่นของจีน รายงานวันนี้ว่า ระดับน้ำในแม่น้ำฉู ซึ่งเป็นแม่น้ำสายย่อยของแม่น้ำแยงซี เพิ่มระดับสูงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากฝนตกกระหน่ำอย่างต่อเนื่องและกระแสน้ำที่ไหลมาจากต้นน้ำ ด้านหนังสือพิมพ์โกลบอลไทมส์ของรัฐบาลจีน รายงานว่า การระเบิดเขื่อนดังกล่าวจะช่วยลดระดับน้ำในแม่น้ำฉูลงได้ราว 70 เซนติเมตร และปริมาณน้ำที่ปล่อยออกมาจะไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำ 2 แห่ง
เขื่อนสามผา หรือเขื่อนซานเสียต้าป้า ได้เปิดประตูระบายน้ำ 3 จุด หลังระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเหนือระดับน้ำท่วมกว่า 15 เมตรในช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว ด้านทหารจีนได้ตั้งแนวกระสอบทรายเป็นแนวกั้นในเมืองแห่งหนึ่งใกล้อ่างเก็บน้ำที่ใหญ่ที่สุดของจีน หลังฝนตกหนักที่สุดในรอบเกือบ 60 ปี และทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำรอบแม่น้ำแยงซีเอ่อล้น
แพทย์จุฬา เผยระบบตรวจเชื้อไทย 1หมื่น ต่อ 1 ล้านคน เตือนการชุมนุมเสี่ยงแพร่เชื้อโควิด-19
นายแพทย์ธีระ วรธนารัตน์ แพทย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อในวันนี้ แม้จะมีเพียง 1 คน อยู่ในสถานที่กักตัวของกรุงเทพมหานคร หลังเดินทางกลับมาจากสิงคโปร์ ตรวจพบเชื้อเมื่อกักตัวเข้าวันที่ 11 แต่เนื้อหาที่น่าสนใจคือ การตรวจคัดกรองเชื้อของประเทศไทย ณ ปัจจุบัน อยู่ที่ประมาณ 10,000 ครั้งต่อประชากร 1,000,000 คน แม้จะน้อยกว่า สหราชอาณาจักร สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา อิตาลีประมาณ 10 เท่า และน้อยกว่าเกาหลีใต้และมาเลเซียราว 3 เท่า ในทางกลับกัน ไทยยังมีการตรวจคัดกรองมากกว่าหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อินเดีย อินโดนีเซีย เวียดนาม
ดังนั้น ทำให้ไทยมีความเสี่ยงที่จะมีการนำเข้าเชื้อจากต่างประเทศหลังจากปลดล็อกระยะที่ 5 ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา และมีโอกาสที่จะเกิดการแพร่กระจายเชื้อจากกิจกรรมเสี่ยงสูงมากอย่างการจัดการชุมนุมทางการเมืองหลายแห่ง ประชาชนชาวไทยจำเป็นต้องป้องกันตัวเองและสมาชิกในครอบครัวอย่างเคร่งครัด มีวินัย ใช้สติในการดำเนินชีวิต แม้เราตรวจไม่ได้มากนัก แต่ไม่ได้น้อยเว่อร์ โอกาสที่จะเกิดการระบาดซ้ำนั้นมีแน่นอน หากไม่ป้องกัน
รมว.กต. ย้ำเปิด Travel Bubble ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอบกระทู้ถามของ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ที่ถามถึงมาตรการการช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศ หลังศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด19) หรือ ศบค. และรัฐบาล มีมติชะลอการเข้าประเทศอีกครั้ง หลังเกิดเหตุทหารอียิปต์ที่ จ.ระยอง ยืนยันว่า ศบค.และกระทรวงการต่างประเทศ มีกลไกอย่างเคร่งครัดในมาตรการป้องกันโรค รวมทั้ง สถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลไทยในต่างประเทศ ตอนติดตามให้การช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศก่อนเดินทางกลับอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการติดตามสอบสวนโรคก่อนเดินทางกลับและคนไทยในต่างประเทศส่วนใหญ่ดูแลตัวเองดี ทำให้คนไทยที่กลับจากต่างประเทศ มีจำนวนติดเชื้อไม่มาก
ส่วนการคลายล็อกเข้าประเทศนั้น นายดอน ชี้แจงว่า มาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาด โดย ศบค. สามารถรับมือได้ แต่ข้อกังวลของการเปิด Travel Bubble เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ จะดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะหลายประเทศเตรียมจะดำเนินการ แต่ก็กลับพบปัญหาการระบาดอีกครั้ง และยังมีข้อจำกัดในการท่องเที่ยว และการเดินทาง
ผู้ว่าฯธปท. ห่วงการจ้างงาน คาดใช้เวลา 2 ปีฟื้นฟูเศรษฐกิจ
ภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วงโควิด-19 นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวในงานสัมมนาวิชาการธปท.สำนักงานภาค ประจำปี 2563 ในหัวข้อ "ก้าวต่อไป...ทิศทางเศรษฐกิจหลังยุคโควิดภิวัฒน์" ตอนหนึ่งว่า เศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วในช่วงไตรมาส 2/2563 ที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งของไทยและทั่วโลกหยุดชะงัก หลังจากนี้เศรษฐกิจไทยจะมีลักษณะค่อยๆ ทยอยฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป คงไม่ได้ฟื้นตัวได้เร็วอย่างก้าวกระโดด ในคาดการณ์ของ ธปท. หากไม่มีการระบาดรุนแรง ประเมินว่าเศรษฐกิจจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเหมือนช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 ได้ประมาณปลายปี 2564 หมายความว่าจะใช้เวลาเกือบ 2 ปีที่เศรษฐกิจจะค่อย ๆ ฟื้นตัวกลับขึ้นมา
ประเด็นที่น่าเป็นห่วงที่สุดหลังจากนี้ คือ เรื่องการจ้างงาน เพราะสถานการณ์โควิด-19กระทบกับไทยแรงมาก โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยวและบริการ รวมถึงภาคการผลิต ซึ่งทั้ง 2 ส่วนมีการจ้างงานในระดับสูง การระบาดของโควิด-19ที่มาแบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้หลายคนตกงานจำนวนมาก ที่สำคัญถ้ามองระยะยาว หากสถานการณ์โควิด-19คลี่คลายลง เชื่อว่าหลายคนจะไม่สามารถกลับเข้าสู่ตลาดแรงงานในโลกใหม่ได้ เพราะตลาดแรงงานโลกใหม่จะต่างจากก่อนเกิดการระบาด ด้วยหลายปัจจัย คือ กำลังการผลิตส่วนเกินในโลกที่สูงมาก ส่วนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว คงคาดหวังให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาปีละ 40 ล้านคนเหมือนเดิมไม่ได้
ดังนั้น แรงงานจำนวนมากในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่จะต้องไปดูทักษะว่าจะต้องมีการปรับตัวอย่างไร เพื่อทำให้มีโอกาสกลับเข้าสู่ตลาดแรงงานโลกใหม่
ส่วนมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จากผลกระทบของโควิด-19 ของ ธปท. วงเงิน 500,000ล้านบาทนั้น จะเสนอให้มีการต่ออายุมาตรการออกไปจนถึงสิ้นปี 2564 อาจมีบรรษัทค้ำประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) เข้ามาร่วมด้วย เพราะตาม พ.ร.ก. การชดเชยความเสียหายจะอยู่ในช่วง 2 ปีแรก ในช่วงที่มีความไม่แน่นอนสูง สถาบันการเงิน และผู้ประกอบการจึงเห็นว่าหากมีการค้ำประกันสินเชื่อได้ระยะยาวขึ้นก็จะเป็นประโยชน์
ก.คลัง เตือนโรงแรม-ที่พักอย่าขึ้นราคา
ภาพรวมการดำเนินโครงการเราเที่ยวด้วยกัน นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่าขอความร่วมมือผู้ประกอบธุรกิจที่พักที่เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกันส่วนน้อยบางราย ซึ่งอาศัยโอกาสปรับราคาสูงขึ้นในช่วงนี้ อย่าทำแบบนั้น เนื่องจากผลประโยชน์ในระยะสั้นอาจได้ไม่คุ้มเสียทั้งชื่อเสียงและโอกาสธุรกิจในอนาคต เพราะผู้บริโภคในปัจจุบันมีการหาข้อมูลวางแผนการเดินทางและมีเทคโนโลยีช่วยในการเปรียบเทียบราคาและคุณภาพการบริการจากหลายแหล่ง ทำให้สามารถเลือกรับบริการจากผู้ประกอบการที่มีคุณภาพในราคาที่เป็นธรรมได้
เตรียมเสนอครม. โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 2
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากำลังพิจารณาโครงการเราเที่ยวด้วยกันในระยะแรก ซึ่งเปิดให้ประชาชนผู้ได้รับสิทธิเข้าจองห้องพักเป็นวันแรก เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.comโดยพบว่า ในช่วง 2 วันแรกมียอดชำระเงินค่าห้องพัก 87,960 สิทธิ ดังนั้นจึงขอเวลาพิจารณาอีก 2 สัปดาห์ หรือประมาณต้นเดือน ส.ค.นี้ ก่อนจะเสนอครม.ให้ขยายโครงการระยะที่ 2 หากมี วงเงินในโครงการเหลือโดยเน้นการสนับสนุนท่องเที่ยวเมืองรองและวันธรรมดา ซึ่งรัฐบาลจะช่วยจ่ายสนับสนุนค่าที่พักในอัตราที่มากกว่าร้อยละ40 จากระยะแรก เพราะคาดว่าจะมีเงินเหลือจากวงเงิน 18,000 ล้านบาท เรื่องนี้ได้หารือกับนายกรัฐมนตรี เบื้องต้นแล้ว และนายก ฯ ก็ไม่ได้ขัดข้อง”
หุ้นไทยไร้ปัจจัยหนุน ปิดติดลบ 1.29 จุด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,358.29 จุด ลดลง 1.29 จุด มูลค่าการซื้อขาย 52,303.87 ล้านบาทหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามา
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกเล็กน้อยในวันนี้ โดยตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะเข้าซื้อกองทุน ETF แต่ในขณะเดียวกันตลาดได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ดัชนีนิกเกอิปิดบวก 21.06 จุด ที่ 22,717.48 จุด
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวลงเล็กน้อย โดยดัชนีลดลงเพราะได้อานิสงส์จากตลาดหุ้นจีนที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งกว่าร้อยละ3 ซึ่งช่วยชดเชยแรงขายจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่กลับมาพุ่งสูงขึ้นในฮ่องกง ฮั่งเส็งลดลง 31.18 จุด ปิดวันนี้ที่ 25,057.99 จุด
ฮ่องกงพบผู้ป่วยใหม่ 73 คน ส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มก้อน ติดจากโรงพยาบาลและร้านอาหาร
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขฮ่องกงเปิดเผยว่า พบผู้ป่วยใหม่ 73 คนในวันนี้ แบ่งเป็น 66 คนในท้องถิ่น และอีก 7 คนเป็นผู้โดยสารจากต่างประเทศ ผู้ป่วยใหม่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มก้อนที่ติดโรงพยาบาลแห่งหนึ่งและร้านอาหาร 2 แห่ง นพ.ชวง ชุค-ควาน ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อของฮ่องกงเตือนว่า มาตรการเคอร์ฟิวอาจจะมีความจำเป็น
สำหรับผู้ป่วยใหม่ที่ถูกวินิจฉัยว่าป่วยโรคโควิด-19 รวมถึงแพทย์ประจำคลินิกเอกชนวัย 44 ปี ซึ่งรักษาคนไข้โควิด-19 ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า อาจจะติดมาจากสถานที่พักผู้สูงอายุแห่งหนึ่งที่แพทย์คนนี้ไปตรวจรักษาเมื่อเร็วๆนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะเฝ้าระวังต่อไป
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลฮ่องกงแถลงว่า รัฐบาลจะออกกฎให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะ และข้าราชการของฮ่องกงกลับไปทำงานที่บ้านอีกครั้ง เมื่อวานนี้ ฮ่องกง มีตัวเลขผู้ป่วยใหม่ 108 คน นับเป็นครั้งแรก ที่พบผู้ป่วยใหม่ในระดับตัวเลข 3 หลัก ทั้งนี้ ฮ่องกงมีผู้ป่วยสะสม 1,958 คน เสียชีวิต 12 ราย ฮ่องกงเริ่มมีโควิด-19ระบาดเมื่อวันที่ 23 มกราคม ระบาดระลอก 2 วันที่ 14 มิถุนายน และปัจจุบันเป็นการระบาดระลอกที่ 3