จากเหตุการณ์ กลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายกันภายในโรงพยาบาลใน จ.สมุทรปราการ ทำให้มีผู้บาดเจ็บและทรัพย์สินของทาง รพ.ได้รับความเสียหาย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช.เปิดเผยว่า สถานีตำรวจภูธรสำโรงใต้ ได้แบ่งออกเป็น 3 คดี
-คดีแรก เหตุชุลมุนต่อสู้กัน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดภายในซอยโรงเหล็ก มีผู้ต้องหา 13 คน (สามารถพิสูจน์ทราบตัวได้แล้ว 2 คน ได้แก่ ผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ) โดยยังอยู่ระหว่างสอบสวน ขยายผลและพิสูจน์ทราบผู้ก่อเหตุที่เกี่ยวข้องรายอื่นๆ
-คดีที่สอง เหตุร่วมกันบุกรุก รพ.วิภารามชัยปราการ และ ทำร้ายร่างกายบุคลากรทางการแพทย์ มีผู้ต้องหา 2 คน (สามารถพิสูจน์ทราบผู้ต้องหาที่ก่อเหตุทั้ง 2 คนได้แล้ว)
-คดีที่สาม เหตุร่วมกันบุกรุก รพ.เมืองสมุทรปู่เจ้าสมิงพราย,ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์และร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บแก่กายและจิตใจ มีผู้ต้องหา 15 คน (สามารถพิสูจน์ทราบและควบคุมตัวได้แล้ว 11 คน โดยพนักงานสอบสวน จะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป)
ด้านพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด โดยกำชับ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 และ พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ให้เร่งดำเนินการ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนให้ได้โดยเร็ว
รองโฆษกสตช. ย้ำว่า ขอประณามการกระทำที่เกิดขึ้นและขอให้ทุกคนยุติความรุนแรงในสถานพยาบาล เพราะเป็นสิ่งที่ทุกๆคนและสังคมยอมรับไม่ได้ ซึ่งอาจกระทบต่อการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ที่อยู่ระหว่างการช่วยเหลือรักษาผู้ป่วยรายอื่นหรือทำให้ทรัพย์สิน อุปกรณ์ทางการแพทย์ได้รับความเสียหาย และอาจส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยหรือประชาชนคนอื่น ที่เข้ามาใช้บริการภายในโรงพยาบาล โดยขอให้ตระหนักว่า สถานพยาบาลต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัย สำหรับผู้รับบริการและผู้ให้บริการ ไม่ว่าจะเกิดวิกฤตความรุนแรงใดๆก็ตาม