ทันสถานการณ์โลก 06.30 น. วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2563

จีน ยกระดับ 3 เตือนภัยน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำห้วย ไปจนถึงเซี่ยงไฮ้ 

          จีน ยกระดับการเตือนภัยน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำห้วย ทางตะวันออกของประเทศ จากระดับ 2 เป็นระดับ 3 หลังจากเกิดฝนตกหนักติดต่อกันมาหลายวันและคาดว่าจะเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องต่อไป กระทรวงทรัพยากรน้ำของจีน กล่าวว่า อ่างเก็บน้ำ 10 แห่ง ตามแนวลำน้ำห้วย มีระดับน้ำเพิ่มขึ้นสูงเกินกว่าระดับการแจ้งเตือนที่ 6.85 เมตร

          สำหรับแม่น้ำห้วย มีความยาว 1,000 กิโลเมตร ไหลผ่านมณฑลเหอหนาน อันฮุย และเจียงซู ในประเทศจีน ตั้งแต่เมืองฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ไปจนถึงนครเซี่ยงไฮ้ทางชายฝั่งตะวันออกของประเทศ

          ขณะที่พื้นที่หลายแห่งตามลุ่มน้ำแยงซี รวมถึงเมืองอู่ฮัน ในมณฑลหูเป่ยและมณฑลเจียงซี ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของจีน ต่างประกาศเตือนภัยน้ำท่วมขั้นสูงสุด

อุทกภัยในอินเดีย- เนปาล กระทบคนเกือบ 4,000,000 คน

          ประชาชนเกือบ 4,000,000 คนในรัฐอัสสัม ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียและในประเทศเนปาล ซึ่งอยู่ติดกันต้องอพยพออกจากบ้าน เนื่องจากฝนตกหนักเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ ขณะเดียวกัน ประชาชนหลายสิบคนสูญหายและยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 189 ราย

          น้ำจากแม่น้ำพรหมบุตร ไหลผ่านทิเบต อินเดีย และบังกลาเทศ ไหลเอ่อล้นตลิ่ง ท่วมพืชผลจนได้รับความเสียหายและทำให้เกิดดินถล่ม ทำให้ต้องอพยพคนออกจากบ้านหลายล้านคน ประชาชนมากกว่า 2,000,000 คน

-อินเดีย ในรัฐอัสสัม อินเดีย ถูกน้ำท่วม 3 ระลอก ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพ.ค. ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 80 ราย สถานการณ์อุทกภัยยังคงอยู่ในภาวะวิกฤต เนื่องจาก ระดับน้ำในแม่น้ำเกือบทุกสายสูงกว่าระดับที่เป็นอันตราย

-เนปาล เจ้าหน้าที่ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตที่ราบในภาคใต้ ระมัดระวัง เนื่องจากฝนตกหนักต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า ประชาชนราว 110 รายเสียชีวิตและอีก 100 คน ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุดินถล่มและน้ำท่วมฉับพลันพัดพาบ้านเรือนไปกับสายน้ำ นอกจากนั้น ถนนหลายสายและสะพานหลายแห่งพังเสียหาย ประชาชนหลายร้อยคนต้องพลัดถิ่นฐานในเขต 26 อำเภอจากจำนวน 77 อำเภอในประเทศ

-บังกลาเทศ พบว่า ในหลายพื้นที่เผชิญน้ำท่วมหนัก ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ขณะรอคอยให้น้ำลด บ้านเรือนประชาชนหลายแสนครอบครัวจมอยู่ใต้น้ำ พื้นที่การเกษตรจมอยู่ใต้น้ำ ส่งผลกระทบต่อประชาชนอีกกว่า 200,000 คน ภาวะน้ำท่วมหนักเท่ากับเป็นการซ้ำเติมชาวบังกลาเทศที่ได้รับความลำบากจากสภาวะล็อกดาวน์ทั่วประเทศในขณะนี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 และทำให้ชาวบังกลาเทศเสียชีวิตกว่า 2,500 ราย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 200,000 คน

ความเห็นต่าง!  27 ชาติ อียู ประชุมต่อเป็นวันที่ 3 แพ็กเกจฟื้นเศรษฐกิจ

          บรรดาผู้นำ 27 ชาติสมาชิกสหภาพยุโรป(อียู)ต่างเข้าร่วมการประชุมหารือถึงแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจจากวิกฤตโรคโควิด-19 ระบาด ที่กรุงบรัสเซลส์ ของเบลเยียม  ต้องขยายเวลาการประชุมเป็นวันที่ 3 นายกฯเยอรมัน อังเกลา แมร์เคิล กล่าวว่า มีความตั้งใจดีแต่ยังคงมีจุดยืนที่ต่างกัน การประชุมวันที่ 3 เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เนื่องจากองค์การอนามัยโลก แถลงว่า วันเสาร์ 17 ก.ค. วันเดียว มีเคสติดเชื้อใหม่เกิดขึ้นเกือบ 260,000 คน สมาชิกอียู แบ่งออกเป็น 2 ความเห็น

-กลุ่มชาติที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโรคโควิด-19 เช่น อิตาลี และ สเปน ที่ต้องการเงินในการช่วยเยียวยาเศรษฐกิจ กล่าวหาอียูว่าไม่มีมาตรการเพียงพอที่จะช่วยประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรง

-กลุ่มชาติที่วิตกถึงจำนวนเงินงบประมาณของแผนฟื้นฟู เช่น เนเธอร์แลนด์ และ สวีเดน ออกความเห็นว่าแพ็กเกจช่วยเหลือฟื้นฟู 750,000 ล้านยูโร มากเกินไปและควรอยู่ในรูปเงินกู้มากกว่าเป็นการเสนอให้

ฝรั่งเศส–เมลเบิร์น ออสเตรเลีย บังคับสวมหน้ากาก ฝ่าฝืนปรับกว่า4,000 บาท   

          ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 20 ก.ค.เป็นต้นไป ประชาชนในฝรั่งเศส ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เมื่ออยู่ในสถานที่ปิด เช่น ร้านค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ธนาคาร หรือสถานที่ใดก็ตาม ที่มีคนรวมตัวแออัด ทำให้รักษาระยะห่างได้ยาก ยกระดับจากมาตรการบังคับสวมหน้ากากอนามัยในระบบขนส่งมวลชนเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ผู้ใดฝ่าฝืนต้องชำระค่าธรรมเนียมครั้งละ 135 ยูโร หรือ ราว 4,885.5 บาท

          ฝรั่งเศสเป็นประเทศแรกในทวีปยุโรปที่มีการยืนยันผู้ป่วยโรคโควิด-19 เมื่อปลายเดือนม.ค.เป็นนักท่องเที่ยวชายชาวจีน และผู้ป่วยคนดังกล่าวเป็นผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 รายแรก นอกทวีปเอเชียด้วย สถาบันจอห์น ฮอปกินส์ รายงานเมื่อเวลา 05.10 น.ฝรั่งเศสมีผู้ป่วยสะสมจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 211,943 คน เสียชีวิต 30,155 ราย

          เช่นเดียวกับที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย นายดาเนียล แอนดรูว์ส มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย แถลงว่า ตั้งแต่เวลา 23.59 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันพุธที่ 22 ก.ค หรือเวลา 20.59 น. ตามเวลาในประเทศไทย ต้องสวมหน้ากากอนามัย เริ่มจากประชาชนในเมืองเมลเบิร์นซึ่งเป็นเมืองเอก และเขตมิตเชลล์ ชไรน์  ผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไปแล้วไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า หรืออย่างน้อยที่สุดใช้สิ่งใดก็ตามปกปิดจมูกและปากเมื่ออยู่ในสถานที่สาธารณะ อาจต้องชำระค่าปรับสูงสุด 200 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ ราว 4,430.9 บาท และในอนาคตอาจมีการขยับขยายจนครอบคลุมทุกเมือง ลดความเสี่ยงของการติดและแพร่เชื้อดีที่สุด ตราบใดที่ยังไม่มีวัคซีนป้องกันและยารักษาโรคโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพ

เข้มขึ้น! ฮ่องกง วิกฤต ขยายเวลาห้ามเปิดสถานบันเทิง-หลัง18.00น.ห้ามนั่งกินอาหารในร้าน

          สถานการณ์วิกฤตในฮ่องกง เนื่องจากผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นรายวันมากกว่า 100 คนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่พบโควิด-19 ระบาดในฮ่องกง ทำให้ในวันนี้ นางแครี่ แลม ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประกาศยกระดับมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ เพราะไม่มีสัญญาณว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ คณะรัฐมนตรีจะจัดการประชุมนัดพิเศษเพื่อแก้ไขกฎระเบียบด้านการป้องกันและควบคุมโรค มาตรการยกระดับ เช่น

-ตั้งแต่วันจันทร์นี้ ประชาชนจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะทุกแห่ง จากปัจจุบันที่ขอให้ใส่เฉพาะเมื่อใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ

-ขยายคำสั่งปิดสถานบันเทิง 12 ประเภท และห้ามนั่งรับประทานอาหารในร้านหลัง 18.00 น.ที่จะครบกำหนดในวันอังคารนี้ ออกไปอีก 7 วัน

-ข้าราชการที่ไม่ได้ให้บริการที่จำเป็นหรือเร่งด่วน จะทำงานจากที่บ้านเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ตั้งแต่วันจันทร์นี้

-ส่วนโรงเรียน ขอให้โรงเรียนหลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มของนักเรียน และใช้แนวทางที่ปลอดภัยในการแจ้งคะแนนสอบแก่นักเรียน

- รัฐบาล จะปรับปรุงโรงแรมและสถานที่จัดแสดงนิทรรศการใกล้กับท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงใช้เป็นสถานที่รองรับผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการและผู้ป่วยที่อาการทรงตัว

-สร้างสถานที่กักกันตัวมากกว่า 2,000 แห่งในย่าน Penny's Bay ตั้งเป้าหมายสร้างให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้ เพื่อใช้เป็นสถานที่กักกันตัวในระยะยาว ซึ่งเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการระบาดระลอกใหม่