รัฐวิคตอเรียของออสเตรเลีย ประกาศให้ประชาชนทุกคนในเมลเบิร์น และมิทเชลไชร์ ต้องสวมหน้ากากเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยให้มีผลตั้งแต่เที่ยงคืนวันพุธ (22 ก.ค.) และขยายเวลาบังคับใช้มาตรการฉุกเฉินอีก 4 สัปดาห์ เนื่องจากมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นายแดเนียล แอนดรูว์ มุขมนตรีรัฐวิคตอเรีย กล่าวว่า ผู้ที่ไม่สวมหน้ากากจะถูกปรับ 200 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 4,430 บาท) โดยในรอบ 24 ชั่วโมง รัฐวิคตอเรียมีผู้ป่วยยืนยันเพิ่มขึ้นอีก 363 คนทำให้มีผู้ป่วยสะสมเป็น 5,696 คน เขากล่าวว่า ยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรค การสวมหน้ากากคือการป้องกันที่ทำได้ง่ายที่สุดและควรปฏิบัติให้เป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวัน โดยในวันจันทร์ (20 ก.ค.) นี้หน้ากากอย่างน้อย 2,500,000 ชิ้นจะทยอยส่งมาถึงเมลเบิร์น และนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนต่อไป
ด้านรัฐบาลกลางของออสเตรเลียได้สนับสนุนประกาศของรัฐวิคตอเรีย นายเกร็ก ฮันท์ รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลีย กล่าวว่า มีความจำเป็นที่ต้องออกข้อบังคับให้ทุกคนในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดรุนแรงต้องสวมหน้ากาก เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการช่วยชีวิตและปกป้องชีวิต
.....