ปธน.สหรัฐฯปฏิเสธการออกคำสั่งให้ประชาชนสวมหน้ากากป้องกันโควิด-19

          ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันว่าจะไม่ออกคำสั่งให้ชาวอเมริกันสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพราะการตัดสินใจว่าจะสวมหน้ากากหรือไม่เป็นทางเลือกส่วนตัวของบุคคลนั้น แม้ว่าแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขหลายคนจะพยายามรณรงค์ให้ประชาชนสวมหน้ากาก ซึ่งในกลุ่มนี้ยังรวมถึงนายแพทย์แอนโทนี่ ฟาวซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดเชื้อและโรคภูมิแพ้ของสหรัฐฯ ที่ขอให้ผู้นำสหรัฐฯและผู้บริหารท้องถิ่นออกคำสั่งให้ประชาชนทุกคนสวมหน้ากาก ขณะที่นายแพทย์โรเบิร์ต อาร์ เรดฟิลด์ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค หรือ ซีดีซี ออกแถลงการณ์รณรงค์ให้ทุกคนสวมหน้ากาก โดยระบุว่า หน้ากากคือหนึ่งในอาวุธที่ทรงพลังที่สุดในการชะลอและหยุดการแพร่กระจายของไวรัส โดยเฉพาะเมื่อมีการใช้อย่างกว้างขวางในชุมชน

          แต่ประเด็นเรื่องการสวมหน้ากากเพื่อป้องกันโรคระบาด กลายเป็นประเด็นการเมืองในสหรัฐฯ เมื่อผู้ว่าการรัฐส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ ทั้งเดโมแครตและรีพับลิกันมีคำสั่งให้ประชาชนสวมหน้ากากเมื่อออกไปด้านนอกอาคารในลักษณะที่เป็นข้อบังคับมากกว่าเป็นทางเลือกส่วนตัว รวมถึงผู้ว่าการรัฐจากรีพับลิกันที่เคยค้านนโยบายเรื่องหน้ากากก็เปลี่ยนเป็นการสนับสนุน 

          ที่รัฐจอร์เจีย นายไบรอัน เคมป์ ผู้ว่าการรัฐจากพรรครีพับลิกัน ประกาศให้ประชาชนสวมหน้ากากในเดือนหน้า ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเขายื่นฟ้องนางคีชา แลนซ์ บอตท่อม นายกเทศมนตรีเมืองแอตแลนตา จากพรรคเดโมแครต ที่ออกคำสั่งบังคับให้ประชาชนในเมืองต้องสวมหน้ากาก โดยตัวของนางบอตท่อมเองก็เป็นป่วยโควิด-19 และเธอมีความเห็นว่าผู้ว่าการรัฐยื่นฟ้องเธอก็เพราะไม่พอใจที่เธอตำหนิประธานาธิบดีทรัมป์ที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยที่สนามบินแอตแลนตา

....