*กษัตริย์ภูฎาน เตือนสติให้รัฐบาลและประชาชน ร่วมกัน ขจัดคอร์รัปชั่น*

เอเอฟพี รายงานอ้างพระดำรัสของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ของภูฏานว่า พระองค์มีพระดำรัสเตือนสติให้รัฐบาลและประชาชน ร่วมขจัดปัญหาคอร์รัปชั่น ในขณะที่ประเทศในแถบเทือกเขาหิมาลัยที่ครั้งหนึ่งเคยถูกโดดเดี่ยวจากโลกภายนอกแห่งนี้เริ่มมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว พระองค์มีพระดำรัสเนื่องในวันชาติในวันนี้ว่า การคอร์รัปชั่น ซึ่งสร้างความเสียหายร้ายแรงให้แก่ระบบเศรษฐกิจของเพื่อนบ้านที่มีฐานะร่ำรวยกว่าคือ อินเดียและจีน ถือเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่จะขัดขวางไม่ให้ประเทศมีความเจริญก้าวหน้า

สมเด็จพระราชาธิบดีของภูฏานตรัสอีกว่า ความเสี่ยงที่สูงที่สุดที่จะกระทบต่อการพัฒนาที่มองเห็นได้ในปัจจุบันคือ ปัญหาคอร์รัปชั่น ระบุว่า การพัฒนาประเทศชาติให้ก้าวหน้าจะหยุดชะงักลง ถ้าหากประชาชนทุกภาคส่วนไม่ร่วมมือกันขจัดปัญหานี้ให้หมดไป สำหรับภูฏาน เป็นประเทศเดียวในโลกที่ใช้ดัชนีชี้วัดความสุขมวลรวมประชาชาติ(จีเอ็นเอช) ซึ่งเป็นรูปแบบการพัฒนาที่ชี้วัดทั้งความสุขในด้านจิตใจและความอยู่ดีกินดีของประชากรในประเทศ

ในช่วงที่ 2-3 ปีที่ผ่านมา ภูฏานเริ่มมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว เมื่อรัฐบาลใหม่ที่ชนะการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยได้ริเริ่มโครงการสร้างถนนและไฟฟ้าจากเมืองเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ชนบท ทำให้เริ่มมีการนำเข้าสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนมากขึ้น ด้านองค์การเพื่อความโปร่งใสนานาชาติได้จัดภูฏานอยู่ในอันดับ 30 ของดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นในปีนี้ จากเดิมลำดับที่ 45 เมื่อปี 2551 ในขณะที่เพื่อนบ้านคือ อินเดียอยู่ลำดับที่ 85 และจีนอยู่ลำดับที่ 100