กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปก และชาติพันธมิตร ในนามกลุ่มโอเปกพลัส มีมติปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพียงเล็กน้อยคือจากระดับ 9,700,000 บาร์เรลต่อวันเป็น 7,700,000 บาร์เรลต่อวัน โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้ไปจนถึงสิ้นปี 2563
โดยที่ประชุมคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต (JMMC) ของกลุ่มโอเปกพลัส มีความเห็นว่า ความต้องการใช้น้ำมันเริ่มฟื้นตัว เพราะหลายประเทศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 และกลับมาดำเนินธุรกิจอีกครั้ง แต่โอเปกพลัส พร้อมจัดการประชุมฉุกเฉินเพื่อทบทวนข้อตกลง หากความต้องการใช้น้ำมันมีการเปลี่ยนแปลง
นอกจากนี้ซาอุดีอาระเบีย และรัสเซีย ซึ่งเป็นประธานร่วมของการประชุมทางไกลในครั้งนี้ยังย้ำให้ประเทศสมาชิกปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต และประเทศสมาชิกที่ผลิตน้ำมันเกินโควต้าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมายื่นแผนการลดกำลังการผลิตต่อเลขาธิการโอเปกภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้
นายคาสุฮิโกะ ไซโต้ หัวหน้านักวิเคราะห์จากฟูจิโตมิ โค ระบุว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มลดลง และนักลงทุนทำกำไรในตลาดหลักทรัพย์ แต่สหรัฐอเมริกาคือผู้ได้รับประโยชน์จากมติของโอเปกพลัส
ส่วนนายฟาตี บิรอล ผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานสากล ระบุว่า ตลาดน้ำมันกำลังปรับตัวเข้าสู่จุดสมดุลอย่าช้า ๆ และคาดว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกจะกลับมาอยู่ที่ระดับ 40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
...